ปี 2026 กำลังถูกจับตาในฐานะ “ปีชี้ทิศทาง” ของกฎระเบียบคริปโตในสหรัฐอเมริกา หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) เตรียมเดินหน้าวาระกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกัน คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์
ล่วงหน้า (CFTC) ก็ถูกคาดหมายว่าจะมีบทบาทโดดเด่นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ภายใต้บรรยากาศนโยบายที่เริ่มเปลี่ยนไปในยุคการเมืองใหม่
ในช่วงรัฐบาลโจ ไบเดนที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลทั้งสองมักถูกมองว่าอยู่ในภาวะ “แย่งเขตอำนาจ” (turf war) โดย CFTC เห็นว่าโทเคนจำนวนมากเข้าข่ายสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity) ขณะที่ SEC ภายใต้การนำของ Gary Gensler ยืนกรานว่า (ยกเว้น Bitcoin) โทเคนส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นหลักทรัพย์ (securities)
อย่างไรก็ดี ภาพดังกล่าวเริ่มเปลี่ยนอย่างชัดเจนในปีที่ผ่านมา เมื่อมีสัญญาณว่า SEC และ CFTC กำลังขยับจากความขัดแย้งไปสู่ “การประสานงาน” มากขึ้น และเริ่มออกแนวทางร่วมในหลายประเด็นสำคัญของตลาดคริปโต
จุดเปลี่ยนสู่ “ความร่วมมือ” ของสองหน่วยงานกำกับ
หนึ่งในสัญญาณสำคัญคือการออกคำแนะนำร่วม (joint guidance) ที่ระบุว่า แพลตฟอร์มที่จดทะเบียนภายใต้การกำกับดูแล ไม่ได้ถูกห้ามในการอำนวยความสะดวกต่อการซื้อขาย Spot Crypto บางประเภท อีกทั้งยังสะท้อนทิศทางการกำกับดูแลที่เริ่มเปิดรับโครงสร้างตลาดยุคใหม่ เช่น
-
ตลาดซื้อขายแบบ 24/7
-
สัญญา Perpetual (Perps)
-
ระบบ Decentralized Finance (DeFi)
นักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมองว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เห็น SEC และ CFTC ทำงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งอาจกลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของนโยบายคริปโตสหรัฐฯ ในปี 2026
วาระใหญ่ของ SEC ปี 2026: Token Taxonomy – Project Crypto – Innovation Exemption
ฝั่ง SEC ถูกมองว่ามี “การบ้านก้อนใหญ่” โดยมี 3 วาระหลักที่ตลาดจับตามองอย่างใกล้ชิด ได้แก่
-
Token Taxonomy
การจัดทำกรอบจำแนกประเภทโทเคน เพื่อชี้ชัดว่าโทเคนลักษณะใดเข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ ซึ่งจะช่วยลดความไม่แน่นอนด้านกฎหมายให้กับผู้พัฒนาและนักลงทุน -
Project Crypto
โครงการปรับปรุงกฎระเบียบและแนวทางกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ให้สอดคล้องกับโครงสร้างตลาดจริงมากขึ้น -
Innovation Exemption
แนวคิด “ข้อยกเว้นเพื่อเร่งนวัตกรรม” ที่อาจเปิดทางให้ผลิตภัณฑ์คริปโตรูปแบบใหม่สามารถออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ภายใต้กรอบควบคุมความเสี่ยงที่ชัดเจน
ตลอดปีที่ผ่านมา SEC ยังได้อนุมัติมาตรฐานการจดทะเบียนสำหรับ Crypto ETF บางประเภท ทำให้ตลาดเริ่มเห็นผลิตภัณฑ์ที่อ้างอิงสินทรัพย์อย่าง DOGE, SOL และ XRP มากขึ้น พร้อมกับออกคำแนะนำด้านเทคนิคหลายประเด็น เช่น การมองว่า liquid staking บางรูปแบบอยู่นอกขอบเขตกฎหมายหลักทรัพย์ และการระบุว่ากิจกรรม staking แบบ proof-of-stake ไม่ได้เข้าข่ายธุรกรรมหลักทรัพย์ในบางกรณี
Tokenization ขึ้นแท่นธีมใหญ่ แต่ยังเต็มไปด้วยคำถาม
อีกหนึ่งธีมที่ถูกยกให้เป็น “หัวใจ” ของปี 2026 คือ Tokenization หรือการนำสินทรัพย์ในโลกจริงและตราสารทางการเงินมาอยู่บนบล็อกเชน ซึ่ง SEC ให้ความสำคัญมากขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญมองว่าประเด็นนี้มีความซับซ้อนสูง และอาจต้องใช้เวลาในการออกกติกาที่รัดกุม
คำถามสำคัญคือ สหรัฐฯ จะเลือกสร้าง “กรอบพิเศษใหม่” สำหรับคริปโตและ tokenization หรือจะนำสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ไปอยู่ภายใต้โครงสร้างกำกับดูแลเดิมของตลาดทุน
No-Action Letter ของ DTC: สนามทดลองที่ตลาดจับตา
หนึ่งในหมุดหมายสำคัญคือการที่ SEC ออก No-Action Letter ให้กับ Deposit Trust Company (DTC) เพื่อทดลองให้บริการ tokenization สำหรับสินทรัพย์ที่อยู่ในการดูแล (custodied RWAs) ในวงจำกัด โดยกำหนดขอบเขตชัดเจนทั้งประเภทสินทรัพย์ ผู้เข้าร่วม และขนาดโครงการ
แนวทางดังกล่าวถูกมองว่าเป็น “sandbox เชิงกำกับ” ที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนทดสอบการใช้งานจริง ขณะเดียวกันยังควบคุมความเสี่ยงเชิงระบบไว้ได้
CFTC ขยับแรง: Crypto Sprint และบทบาทแกนกลาง
ด้าน CFTC ก็เดินหน้าเชิงรุกไม่แพ้กัน ผ่านโครงการ Crypto Sprint เพื่อเร่งทำให้กติกาตลาดคริปโตมีความชัดเจนมากขึ้น รวมถึงการถอนแนวทางบางส่วนเกี่ยวกับแนวคิด “actual delivery” และการวางกรอบให้ตลาดสามารถลิสต์ Spot Crypto Products ภายใต้การกำกับดูแลได้
นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนผ่านบุคคลสำคัญ เมื่อมีรายงานว่า Michael Selig ได้รับการยืนยันให้ดำรงตำแหน่งประธาน CFTC ท่ามกลางกระแสในสภาคองเกรสที่เริ่มมองว่า CFTC อาจกลายเป็น “แกนหลัก” ของการกำกับดูแลคริปโต โดยเฉพาะในมิติของสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่ง Bitcoin ถูกจัดอยู่ในหมวดนี้มาโดยตลอด
ความท้าทายที่ยังต้องจับตา
แม้ทิศทางเชิงนโยบายจะชัดเจนขึ้น แต่ทั้ง SEC และ CFTC ยังเผชิญข้อจำกัดจากการที่จำนวนกรรมการ (commissioners) ยังไม่ครบตามโครงสร้าง 5 คน ซึ่งอาจกระทบต่อความเร็วในการดำเนินงาน อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า วาระเชิงกลยุทธ์ยังสามารถเดินหน้าต่อได้ และหากมีการแต่งตั้งกรรมการครบถ้วน ก็อาจช่วยให้การขับเคลื่อนกฎระเบียบคริปโตในปี 2026 เป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น
-----------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you