ดาวโจนส์ปิดบวกทำนิวไฮ ขานรับผลประกอบการแบงก์แกร่ง

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกอย่างแข็งแกร่งในวันศุกร์ (11 ต.ค.) โดยดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แรงหนุนสำคัญมาจากผลประกอบการที่ดีของกลุ่มการเงิน โดยเฉพาะธนาคารรายใหญ่ที่รายงานกำไรที่สูงกว่าคาดการณ์ ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดยังส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,863.86 จุด เพิ่มขึ้น 409.74 จุด (+0.97%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,815.03 จุด เพิ่มขึ้น 34.98 จุด (+0.61%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,342.94 จุด เพิ่มขึ้น 60.89 จุด (+0.33%) ซึ่งทั้ง 3 ดัชนีเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน โดยดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.2%, S&P500 เพิ่มขึ้น 1.1% และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.1% ตลอดสัปดาห์นี้

หุ้นในกลุ่มการเงินที่เป็นปัจจัยสำคัญ ได้แก่ JPMorgan Chase ที่ปิดพุ่งขึ้น 4.4% หลังรายงานผลกำไรไตรมาส 3 ที่สูงเกินคาด รวมถึงการปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้จากดอกเบี้ยประจำปี หุ้น Wells Fargo พุ่งขึ้น 5.6% หลังผลกำไรเกินการคาดการณ์เช่นกัน ส่วน BlackRock พุ่งขึ้น 3.6% เนื่องจากสินทรัพย์ภายใต้การบริหารแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

เอวาน บราวน์ จาก UBS Asset Management ระบุว่า การรายงานผลประกอบการที่ดีจากบริษัทการเงินชั้นนำถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับฤดูกาลรายงานผลประกอบการและเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจ

การที่ภาคการเงินทำผลงานได้ดีสะท้อนถึงสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม และสร้างบรรยากาศเชิงบวกสำหรับการรายงานผลประกอบการในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ดัชนี S&P500 ปิดบวกใน 9 จาก 11 กลุ่มหลัก โดยกลุ่มบริการทางการเงินเพิ่มขึ้น 1.95% และกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น 4.2% ซึ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ส่วนดัชนี KBW ที่สะท้อนหุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาค ปิดเพิ่มขึ้น 3.4% และกลุ่มอุตสาหกรรมบวก 1.79%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลง 0.41% และ 0.03% ตามลำดับ โดยเฉพาะหุ้น Tesla ที่ร่วงลงถึง 8.8% หลังจากเปิดตัวรถแท็กซี่ไร้คนขับ (robotaxi) ที่แม้จะเป็นที่คาดหวัง แต่ขาดรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการผลิตและการแก้ไขปัญหาด้านกฎระเบียบ ทำให้เกิดความกังวลในตลาด

ข้อมูลเศรษฐกิจจากสหรัฐบ่งชี้ว่าดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนกันยายน ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์เพียงเล็กน้อย

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเดือนตุลาคมลดลงมาอยู่ที่ 68.9 ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 70.8

เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่ามีโอกาส 88% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน และมีโอกาส 12% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้

คลิก

Cr.สำนักข่าวอินโฟเควสท์

----------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"