ดาวโจนส์ปิดลบ 293.47 จุด จับตาข้อมูลเงินเฟ้อ-ถ้อยแถลงพาวเวล

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (25 ก.ย.) โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 293.47 จุด หรือ -0.70% ปิดที่ 41,914.75 จุด และดัชนี S&P500 ลดลง 10.67 จุด หรือ -0.19% ปิดที่ 5,722.26 จุด สาเหตุที่ตลาดอ่อนตัวลงส่วนหนึ่งมาจากการที่ตลาดได้ทำสถิติสูงสุดก่อนหน้านี้

และข่าวจากจีนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทำให้นักลงทุนหันมาพิจารณาปัจจัยพื้นฐานเพิ่มเติม

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ รวมถึงการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยเฉพาะเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq กลับเพิ่มขึ้น 7.68 จุด หรือ +0.04% ปิดที่ 18,082.21 จุด ซึ่งเป็นผลจากการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ในช่วงที่ผ่านมา ดัชนีหลักทั้งสามของตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือที่เรียกว่า "ซอฟต์แลนดิง" อย่างไรก็ตาม รายงานของ Conference Board เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ร่วงลงหนักที่สุดในรอบกว่า 3 ปี ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานในสหรัฐฯ

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นมาแตะที่ 3.770% เมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความวิตกว่าการผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟดอาจทำให้เงินเฟ้อกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

จากเครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักความเป็นไปได้ถึง 57.4% ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 37.0% ในสัปดาห์ที่แล้ว

ในดัชนี S&P500 หุ้นใน 9 จาก 11 กลุ่มปิดในแดนลบ โดยกลุ่มที่ลดลงมากที่สุดคือกลุ่มพลังงาน (-1.90%) และกลุ่มเฮลธ์แคร์ (-0.94%) ส่วนกลุ่มที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดคือกลุ่มสาธารณูปโภค (+0.54%) และกลุ่มเทคโนโลยี (+0.50%)

หุ้น Amgen ร่วงลงถึง 5.46% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับรายงานผลการทดลองยาของบริษัทสองชนิด ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ถูกกดดัน หุ้น Apple ก็ปรับตัวลง 0.52% หลังจากมีรายงานว่ายอดขาย iPhone ในจีนลดลงในเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ หุ้น Ford และ General Motors (GM) ร่วงลงกว่า 4% หลังจากนักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นทั้งสองแห่ง

หุ้นธนาคารรายใหญ่ เช่น Citigroup, Bank of America, และ JPMorgan ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 0.93%

ในด้านข้อมูลเศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ ลดลง 4.7% ในเดือนสิงหาคม สู่ระดับ 716,000 ยูนิต แม้ว่ายอดขายนี้จะลดลงเมื่อเทียบรายเดือน แต่ยังคงสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 700,000 ยูนิต

นักลงทุนกำลังจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดในสัปดาห์นี้ รวมถึงการกล่าวสุนทรพจน์ของ เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ (26 ก.ย.) และการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อสำคัญของเฟด

คลิก

Cr.สำนักข่าวอินโฟเควสท์

----------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"