สัญญาทองคำในตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 0.50% ในการประชุมที่จะมีขึ้นในเดือนนี้ เนื่องจากข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาชี้ให้เห็นถึงการชะลอตัวของตลาดแรงงานสหรัฐฯ

ซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรร่วงลง ทำให้ทองคำและโลหะมีค่าต่างๆ ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยดังกล่าว

สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ในตลาด COMEX ปิดที่ 2,543.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 17.10 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 54.2 เซนต์ หรือ 1.90% ปิดที่ 29.099 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นอกจากนี้ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 22.00 ดอลลาร์ หรือ 2.42% ปิดที่ 930.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.30 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ 936.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

รายงานการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ระบุว่า ในเดือนสิงหาคม การจ้างงานของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเพียง 99,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทำให้ความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME Group แสดงให้นักลงทุนเห็นว่าโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. นี้เพิ่มขึ้นเป็น 45.0% จาก 34.0% ในสัปดาห์ก่อน

นักลงทุนยังคงรอติดตามการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ โดยคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้น 164,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม และอัตราการว่างงานอาจลดลงสู่ระดับ 4.2%