SCB EIC รายงานว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดว่าจะเติบโตที่ 2.5% ตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ได้ปรับลดประมาณการสำหรับปี 2568 เหลือ 2.6% จากเดิมที่ 2.9% โดยมีสาเหตุหลักมาจากหลายปัจจัย:

1. การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน: การบริโภคเอกชนยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการท่องเที่ยว

   ที่ฟื้นตัวดีโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย รวมถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวชั่วคราว แต่การลงทุนภาคเอกชนลดลงมาก โดยเฉพาะการลงทุนในภาคก่อสร้างและการลงทุนในยานพาหนะ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการที่ลดลงและปัญหาหนี้ค้างชำระ

2. การฟื้นตัวของภาคการผลิตและการส่งออก: ภาคการผลิตและการส่งออกยังฟื้นตัวได้ช้า และสัญญาณความเชื่อมั่นในการบริโภคและการลงทุนในระยะสั้นเริ่มลดลง ทำให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป

3. เงินเฟ้อ: คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะขยายตัวที่ 0.6% ในปีนี้ เนื่องจากมาตรการภาครัฐที่ชะลอการปรับขึ้นราคาพลังงาน โดยเงินเฟ้อจะค่อยๆ กลับเข้าสู่กรอบในไตรมาส 4

4. นโยบายดอกเบี้ย: SCB EIC คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ เหลือ 2.25% เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการบริโภคในประเทศ

5. ค่าเงินบาท: คาดว่าเงินบาทจะยังคงแข็งค่า แต่จะอ่อนค่าในช่วงสั้นก่อนที่จะกลับสู่แนวโน้มแข็งค่า โดยกรอบค่าเงินบาท ณ สิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 34.00 – 34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

6. เศรษฐกิจโลก: เศรษฐกิจโลกคาดว่าจะขยายตัวที่ 2.7% ในปีนี้ และดีขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.8% ในปีหน้า โดยมีแนวโน้มว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางอื่นๆ จะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อป้องกันการถดถอยเศรษฐกิจ

SCB EIC ยังประเมินว่าการลดอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกจะช่วยผ่อนคลายความตึงตัวทางการเงิน และคาดว่าในปี 2568 ธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกครั้งในไตรมาสแรกของปีหน้าเหลือ 2%