รายงานพิเศษ: ปิดฉากปี 2564 ปีแห่งการฟื้นตัว เงินเฟ้อคืนชีพ และลูกตุ้มทำลาย

ตลาดการเงินทั่วโลกต้องเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 เป็นปีที่สอง และได้รับผลกระทบแทบจะไม่แพ้ปี 2563 ซึ่งเป็นปีแรกที่เกิดการระบาดทั้งที่มีการคาดการณ์กันมาก่อนเข้าสู่ปีนี้ว่าสถานการณ์โควิดจะดีขึ้นเพราะมีวัคซีน และเศรษฐกิจจะฟื้นตัว

แต่ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะกลับตาลปัตรและไม่เป็นดังหวัง ตลาดการเงินทั่วโลกโดยรวมแล้วถือว่ามีภูมิคุ้มกันที่ดี และเอาตัวรอดจากปัญหาที่ถาโถมเข้ามาได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
นักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นต่อหุ้น ราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้นจนทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูงอย่างรุนแรง ตลาดพันธบัตรซวนเซ ในขณะเดียวกันจีนได้กวาดล้างพฤติกรรมที่มิชอบในภาคอสังหาริมทรัพย์และบิ๊กเทค
นอกจากนี้ ยังเกิดปัญหาค่าเงินลีราของตุรกีดิ่งแรงเมื่อคนหันไปซบบิตคอยน์และคริปโตเพราะกังวลนโยบายเศรษฐกิจ และถึงแม้ว่าการปกป้องสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นกระแสหลัก แต่ราคาน้ำมันและก๊าซซึ่งถือเป็นแหล่งพลังงานที่สร้างมลภาวะกลับปรับตัวขึ้นมากกว่า 40% และ 50%
หุ้นพุ่งไม่หยุด
สัญญาณการฟื้นตัวของโควิดและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ได้ทำให้ดัชนี MSCI's 50-country world index มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีก 10 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 13% แต่ดัชนีหุ้นแต่ละตัวก็มีผลงานแตกต่างกัน โดยวอลล์สตรีตปรับตัวขึ้น 23% แต่จากการคำนวณของแบงก์ ออฟ อเมริกา ประมาณ 65% ของหุ้นที่ปรับตัวขึ้นในดัชนีแนสแดก (3,780 ตัว) เป็นเพราะหุ้นเพียง 5 ตัว คือ ไมโครซอฟต์ กูเกิล แอปเปิล เอ็นวิเดีย และเทสลา
ปี 64 ถือได้ว่าเป็นปีที่ดีที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ของกลุ่มธนาคารในยุโรป โดยได้ปรับตัวขึ้นถึง 33% แต่หุ้นในตลาดเกิดใหม่ได้ปรับตัวลง 7% โดยบริษัทบิ๊กเทคจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกงดิ่งถึง 30% เพราะผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของรัฐบาลปักกิ่งเพื่อจำกัดอิทธิพลของบริษัทเหล่านี้โดยรวมแล้วตลาดหุ้นทั่วโลกมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นในปีนี้ 10 ล้านล้านดอลลาร์
ราคาน้ำมันดีสุดในรอบ 5 ปี
ตลาดโภคภัณฑ์ทำให้คนตาบอดมากเมื่อเศรษฐกิจใหญ่ ๆ ที่กระหายทรัพยากรมาก ได้พยายามที่จะทำให้ภาวะบางอย่างกลับสู่ปกติ ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น 40% และ 50% ตามลำดับนั้น ถือว่าดีที่สุดในรอบ 5 ปี และยังมีราคาสูงกว่าระดับก่อนโควิดระบาด
ทองแดงซึ่งเป็นโลหะอุตสาหกรรมสำคัญกลับมาพุ่งสูงทำสถิติใหม่ในเดือนเมษายน และได้พุ่งขึ้นเกือบ 25% เป็นปีที่สองติดต่อกัน ขณะที่สังกะสีก็ปรับตัวขึ้นในแบบเดียวกัน ส่วนอะลูมิเนียมได้ปรับตัวขึ้น 40% ซึ่งดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552
ทองคำซึ่งเป็นโลหะมีค่าได้ปรับตัวลง แต่ตลาดสินค้าเกษตรกลับเบ่งบาน ราคาข้าวโพดได้ปรับตัวขึ้นประมาณ 25% น้ำตาลเพิ่มความหวานอีก 25% ส่วนกาแฟปรับตัวขึ้น 67%
บิ๊กเทคและอสังหาฯ จีนดิ่งระนาว
การกวาดล้างของทางการจีนต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ประกอบกับวิกฤตที่เกิดขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีต้นตอมาจาก ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ได้ทำให้มูลค่าตลาดในตลาดหุ้นจีนหายไปในปีนี้กว่าหนึ่งล้านล้านดอลลาร์
หุ้นอาลีบาบาที่ถือเป็นอเมซอนจีน ได้ปรับตัวลงเกือบ 50% และดัชนีหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐปรับตัวลง 40% ขณะเดียวกัน ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ได้เริ่มผิดนัดชำระหนี้ครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมี นั่นส่งผลให้เกิด “ลูกตุ้มทำลาย” ผลตอบแทนในตลาดพันธบัตร “ขยะ” ที่มีผลตอบแทนสูงของจีน จนได้ปรับตัวลงประมาณ 30%
นักวิเคราะห์เตือนว่า หากยอดขายบ้านลดลงในอัตราเท่าปัจจุบัน อาจจะลดมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนได้อีก 1% อย่างง่ายดาย และรายงานเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ของฟิตช์ เรตติ้ง ระบุว่า บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนที่ฟิตช์ได้จัดอันดับไว้ 40 บริษัท อาจประสบปัญหาเงินสดมากถึงหนึ่งในสามในกรณีที่ยอดขายลดลงประมาณ 30% ในปีหน้า
ไม่มีเวลาให้ซื้อพันธบัตรอีก
เงินเฟ้อที่พุ่งแรง และการเริ่มลดโครงการซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางต่าง ๆ ได้ทำให้ปีนี้เป็นปีที่ลำบากต่อตลาดพันธบัตร พันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐปรับตัวลงประมาณ 2% ซึ่งถือเป็นปีแรกที่ได้ปรับตัวลงนับตั้งแต่ปี 2556 ในขณะเดียวกันการอ่อนตัวของเงินยูโรในปีนี้ 8% ก็หมายถึงว่าพันธบัตรเยอรมันได้ปรับตัวลงกว่า 9% เมื่อคำนวณในรูปเงินดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ยังมีด้านดีในตลาดพันธบัตรเช่นกัน โดยจังก์ บอนด์ที่มีความเสี่ยง ที่อยู่ในอันดับ CCC หรือต่ำกว่านี้ ได้ปรับตัวขึ้นประมาณ 10% ทั้งในสหรัฐและยุโรป
พันธบัตรที่มีความสัมพันธ์กับเงินเฟ้อก็ดีเช่นกัน แต่ไม่น่าแปลกใจ โดยพันธบัตร TIP ของสหรัฐให้ผลตอบแทน 5% ส่วนพันธบัตรที่เทียบเท่ากันที่อยู่ในรูปสกุลเงินยูโร มีผลตอบแทน 7% และพันธบัตรอังกฤษให้ผลตอบแทน 6%
ความบ้าคลั่งหุ้น MEME
นักลงทุนรายย่อยได้มีอิทธิพลต่อการซื้อขายในวอลล์สตรีตมากในปีนี้ โดยทำให้เกิดการซื้อขายหุ้นที่เรียกว่า “MEME” อย่างฉับพลันในปริมาณมาก หุ้นเหล่านี้คือหุ้นที่ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนรายย่อยผ่านโซเชียลมีเดีย ความนิยมของหุ้นเหล่านี้โดยทั่วไปจะอิงตามการแชร์ข้อมูลกันทางอินเทอร์เน็ต หรือบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น r/wallstreetbets ของ Reddit นักลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้มักเป็นนักลงทุนอายุน้อยที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการซื้อขาย
ปรากฏการณ์บ้าคลั่งหุ้น “MEME” ทำให้หุ้น GameStop ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 2,500% ในเดือนมกราคม แต่หลังจากที่ได้ลดลงมาก มันยังสามารถส่งท้ายปีด้วยการปรับตัวขึ้นราว 730% ขณะที่ AMC Entertainment ซึ่งเป็นหุ้น meme ที่ได้รับความนิยมอีกตัวหนึ่ง ยังคงปรับตัวขึ้นประมาณ 1,350% สำหรับปี แม้ว่าได้เพิ่มขึ้นมากถึง 3,200% ในต้นเดือนมิถุนายน
เทสลา ซึ่งเป็นหุ้นที่โดดเด่นในภาครถยนต์ไฟฟ้า ได้ฟื้นตัวจากช่วงต้นปี แต่กองทุนหรือหุ้นอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกับนวัตกรรม เช่น ARK Innovation Fund และหุ้นพลังงานแสงอาทิตย์จำนวนหนึ่ง หุ้นเทคโนโลยีชีวภาพ และบริษัทที่จัดตั้งเพื่อวัตถุประสงค์ในการเข้าถือสิทธิเป็นพิเศษ หรือ SPAC ได้ปรับตัวลงระหว่าง 20% ถึง 30%
ลีรา’ อ่อนค่ารุนแรง
การอ่อนค่าอย่างรุนแรงของเงินลีราตุรกีมักไม่ค่อยเกิดขึ้นในช่วงหลัง ๆ มานี้ แต่แรงระเบิดในปีนี้สร้างความตื่นเต้นเกินกว่ามาตรฐานของมัน สถานการณ์เริ่มรุนแรงในเดือนมีนาคม เมื่อประธานาธิบดีเทย์ยิพ เออร์โดกัน ซึ่งได้ประกาศตัวเองว่าเป็นศัตรูกับดอกเบี้ย ได้เปลี่ยนผู้ว่าการธนาคารกลาง แต่กลายเป็นว่าสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงนับตั้งแต่ผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่เริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
ค่าเงินลีราเด้งกลับมาในสัปดาห์นี้ เนื่องจากรัฐบาลได้ร่างแผนนอกรีตอีกแผนหนึ่งเพื่อจำกัดความเจ็บปวด แต่เงินลีรายังคงอ่อนตัวลงมากกว่า 40% ในปีนี้ และนักลงทุนทุบพันธบัตรของรัฐบาลตุรกีอย่างรุนแรง
เงินเฟ้อพุ่งรัว ๆ
การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อได้กลายเป็นความกังวลที่สำคัญสำหรับนักลงทุนในปีนี้ เนื่องจากการระบาดของโควิดทำให้ซัพพลายเชนหยุดชะงัก และทำให้ยากที่สินค้าทุกอย่างจะเพียงพอต่ออุปสงค์ ตั้งแต่ไมโครชิปจนถึงมันฝรั่งทอด
หลังจากที่เงินเฟ้อสหรัฐพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ ค.ศ. 1980 ธนาคารกลางสหรัฐประกาศในเดือนนี้ว่าจะยุติการซื้อพันธบัตรที่ได้ทำในยุคโควิดเร็วกว่าที่คาดไว้ และธนาคารกลางอังกฤษกลายเป็นธนาคารกลางชาติแรกของกลุ่มจี 7 ที่ได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยนับตั้งแต่โควิดระบาด
มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอื่น ๆ จะทำตามธนาคารกลางสหรัฐในปีหน้า แต่ก็มีธนาคารกลางในตลาดเกิดใหม่ใหญ่ ๆ บางแห่งได้เข้มงวดนโยบายเงินล่วงหน้าไปแล้วเช่นกัน
ตลาดเกิดใหม่แจ้งเกิดไม่สำเร็จ
นักลงทุนได้ตั้งความหวังไว้สูงกับตลาดเกิดใหม่เมื่อเข้าสู่ปีนี้ แต่ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันเกือบจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม การกระเสือกกระสนของจีนและโควิดที่ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง ได้ทำให้หุ้นในตลาดเกิดใหม่ปรับตัวลง 7% ซึ่งถือว่าเลวร้ายมากเมื่อเทียบกับที่ดัชนีหุ้นโลกที่ปรับตัวขึ้น 13% และหุ้นในวอลล์สตรีตปรับตัวขึ้น 23%
พันธบัตรของรัฐบาลในตลาดเกิดใหม่ที่อยู่ในรูปสกุลเงินท้องถิ่นปรับตัวลง 9% ส่วนพันธบัตรที่อยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ดีกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ผลิตน้ำมัน แต่ดัชนีสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ของเจ.พี.มอร์แกน ซึ่งไม่รวมเงินหยวนของจีน ได้ปรับตัวลงเกือบ 10%
นักวิเคราะห์ตลาดเกิดใหม่ กล่าวว่า จีนเป็นสตอรี่สำคัญของตลาดเกิดใหม่ในปีนี้ ส่วนในปีหน้าสตอรี่จะอยู่ที่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นเร็วแค่ไหนและการเติบโตจะเป็นอย่างไร
คริปโตพังพาบ
ราคาบิตคอยน์ซึ่งอยู่ที่เกือบ 70,000 ดอลลาร์ เหรียญ meme (เหรียญที่ไม่ได้วัตถุประสงค์ชัดเจน ไม่มีสิ่งใดรองรับเป็นพื้นฐาน เป็นเหรียญที่ถูกสร้างมาเพื่อสร้างกระแส) ที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ การจดทะเบียนอย่างคึกคักในตลาดสหรัฐ และการกวาดล้างของจีน ทำให้ปี 2564 เป็นปีที่ดุดันสุดสำหรับคริปโตเคอเรนซี แม้ว่ายังไม่มีการกำหนดมาตรฐานในภาคนี้
การกระโดดขึ้นเกือบ 70% ของบิตคอยน์อาจดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับที่มันพุ่งขึ้น 300% ในปีที่แล้ว แต่มันก็ยังพุ่งได้มากขนาดนั้น แม้ว่าจะมีการปราบปรามจากทางการจีนในเดือนพฤษภาคม จนทำให้ราคาลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง
โดชคอยน์ ซึ่งเป็นเหรียญดิจิทัลที่แตกตัวออกมาแบบขำ ๆ จากบิตคอยน์เมื่อปี 2556 ได้พุ่งขึ้นกว่า 12,000% จากต้นปีจนอยู่ในระดับสูงสุดตลอดกาลในเดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะร่วงลงเกือบ 80% ภายในกลางเดือนธันวาคม
ส่วนเหรียญดิจิทัลที่มีลักษณะเฉพาะและไม่สามารถทำซ้ำได้ ที่เรียกว่า Non-fungible tokens หรือ NFT ก็ได้ระเบิดในกระแสหลักเช่นกัน เช่น ภาพตัดปะดิจิทัลของบีเพิล ศิลปินชาวอเมริกัน ขายได้เกือบ 70 ล้านดอลลาร์ในการเปิดประมูลของคริสตี้เมื่อเดือนพฤษภาคม ทำให้มันเป็นหนึ่งในสามผลงานที่แพงที่สุดของศิลปินที่ยังมีชีวิตที่เคยมีการประมูลขาย
ความฝันสีเขียว
ความฝันที่จะรักษาและปกป้องสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นประเด็นสำคัญของปีนี้ โดยมีการออกพันธบัตรสีเขียวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้เกือบครึ่งล้านล้านดอลลาร์
ดัชนีหุ้นโลกของ MSCI เวอร์ชัน “ESG” (ซึ่งเป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ซึ่งย่อมาจาก Environment, Social และ Governance) ปรับตัวขึ้นมากกว่า 2% ซึ่งมากกว่าดัชนีมาตรฐานโดยทั่วไป ในขณะเดียวกันดัชนีหุ้นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมส่วนใหญ่ของจีนพุ่งขึ้นมากกว่า 40% แม้ว่าหุ้นในภาคอื่น ๆ ได้ปรับตัวลง
ทั้งหมดนี้คือภาพรวมและเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2564 ซึ่งหลาย ๆ เหตุการณ์เป็นผลพวงที่เกิดจากการระบาดของโควิด และแม้กระทั่งในช่วงท้าย ๆ ของปีนี้ การพบโควิดสายพันธุ์ใหม่อย่าง “โอมิครอน” ก็ยังคงครอบงำและมีอิทธิพลต่อตลาดการเงินทั่วโลกจนนาทีสุดท้าย
มาลุ้นกันต่อว่าปี 65 ตลาดการเงินจะย่ำอยู่ที่เดิม หรือจะสลัดพ้นจากโควิด และทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างที่หวังแบบปีนี้ได้หรือไม่
Source: ข่าวหุ้น
เพิ่มเติม

 

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"