ดาวโจนส์ปิดบวก-น้ำมันWTI เพื่มขึ้น 41 เซนต์

ดาวโจนส์ปิดบวก 95.83 จุด ขณะน้ำมัน WTI ขยับ 41 เซนต์ ทองขึ้น แตะ 1,810.90 ดอลลาร์/ออนซ์ บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (28 ธ.ค.) ดาวโจนส์ปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19

สายพันธุ์โอไมครอน อย่างไรก็ดี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่หุ้นบริษัทผลิตวัคซีนร่วงลง หลังจากกระแสความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโอไมครอนเริ่มบรรเทาลง
ดาวโจนส์ปิดที่ 36,398.21 จุด เพิ่มขึ้น 95.83 จุด หรือ +0.26%
Nasdaq ปิดที่ 15,781.72 จุด ลดลง 89.54 จุด หรือ -0.56%
S&P500 ปิดที่ 4,786.35 จุด ลดลง 4.84 จุด หรือ -0.10%
ขณะสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ หลังจากศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐออกคำแนะนำให้รัฐบาลร่นเวลาในการกักตัวชาวอเมริกันที่ติดเชื้อโควิด-19 แบบไม่แสดงอาการ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และเชื่อมั่นว่าไวรัสโอมิครอนจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 75.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 78.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,810.90 ดอลลาร์/ออนซ์
Source: INN

**********
ดาวโจนส์ปิดบวก 95.83 จุด ตลาดคลายกังวลผลกระทบโอมิครอน
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่หุ้นบริษัทผลิตวัคซีนร่วงลง หลังจากกระแสความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโอมิครอนเริ่มบรรเทาลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,398.21 จุด เพิ่มขึ้น 95.83 จุด หรือ +0.26%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,786.35 จุด ลดลง 4.84 จุด หรือ -0.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,781.72 จุด ลดลง 89.54 จุด หรือ -0.56%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกัน 4 วันทำการเมื่อคืนนี้ หลังจากผลการวิจัยในแอฟริกาใต้ อังกฤษ และสกอตแลนด์ต่างบ่งชี้ว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมีความเสี่ยงน้อยในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และมีอาการเจ็บป่วยน้อยกว่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา
ล่าสุด ผลการวิจัยของคณะนักวิทยาศาสตร์ในแอฟริกาใต้ระบุว่า การติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันชนิดลบล้างฤทธิ์ (Neutralizing Antibody) ที่สามารถต้านไวรัสเดลตาได้ โดยนายอเล็กซ์ ซีกัล ศาสตราจารย์ประจำสถาบันวิจัยสุขภาพแอฟริกาใต้กล่าวว่า หากเชื้อโอมิครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าเมื่อพิจารณาจากการระบาดในแอฟริกาใต้ ก็อาจจะทำให้สายพันธุ์เดลตาหายไป
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคดีดตัวขึ้น 0.93% และหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคปรับตัวขึ้น 0.62% ทั้งนี้ หุ้นพีจีแอนด์อี คอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้น 1.17% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี เพิ่มขึ้น 1.24% หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) เพิ่มขึ้น 0.54% หุ้นไทสัน ฟู้ดส์ บวก 0.59% หุ้นคราฟท์ ไฮนซ์ พุ่งขึ้น 1.21%
หุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้น หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ได้ออกคำแนะนำให้รัฐบาลร่นเวลาในการกักตัวชาวอเมริกันที่ติดเชื้อโควิด-19 แบบไม่แสดงอาการลงเหลือเพียง 5 วัน จากเดิม 10 วัน ทั้งนี้ หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 1.55% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 2.04% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ดีดขึ้น 1.62% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน เพิ่มขึ้น 1.27%
หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 1.46% ขานรับข่าวอินโดนีเซียอนุญาตให้เครื่องบินโบอิ้ง 737 Max กลับมาให้บริการตามปกติแล้ว หลังระงับการใช้งานนานกว่า 2 ปี อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุเครื่องบินรุ่นดังกล่าวตกในอินโดนีเซียและเอธิโอเปีย ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี หุ้นบริษัทผลิตวัคซีนร่วงลงหลังจากตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน โดยหุ้นไฟเซอร์ ร่วงลง 2.01% หุ้นไบออนเทค ดิ่งลง 5.27% หุ้นโมเดอร์นา ดิ่งลง 2.2% หุ้นโนวาแวกซ์ ร่วงลง 1.24%
ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้น Nvidia ร่วงลง 2.01% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.35% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ ปรับตัวลง 0.78% หุ้นแอปเปิล ลดลง 0.58% หุ้นอินเทล ลดลง 0.35%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 19.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี แต่ต่ำกว่าระดับ 19.7% ในเดือนก.ย. โดยราคาบ้านยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของผู้ซื้อบ้าน และสต็อกบ้านที่ตึงตัว รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ระดับต่ำ
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"