ราคา Bitcoin ร่วงแรงในช่วงต้นสัปดาห์ หลังไม่สามารถประคองตัวเหนือระดับ 92,000 ดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทรุดลงแตะ 84,000 ดอลลาร์ พร้อมล้างโพซิชั่นเลเวอเรจฝั่ง Long ออกจากตลาดกว่า 388 ล้านดอลลาร์ สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อนักลงทุนทั่วโลก
แม้ตลาดจะโยนความผิดให้กับ “ดราม่าพันธบัตรญี่ปุ่น (JGB)” แต่เมื่อวิเคราะห์เชิงลึกจะพบว่า การดิ่งครั้งนี้มีปัจจัยซ่อนอยู่มากกว่าหนึ่ง และหลายปัจจัยกำลังกดดันตลาดคริปโตพร้อมกัน
พันธบัตรญี่ปุ่น: ตัวประกอบ ไม่ใช่ตัวการหลัก
ในวันเดียวกันกับที่ BTC ร่วง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 20 ปีดีดขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 25 ปี บ่งชี้ความกังวลด้านเงินเฟ้อ หนี้ และเสถียรภาพการเงินของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม การเชื่อมโยง JGB กับราคา Bitcoin แบบ “เหตุ–ผลโดยตรง” ยังไม่ชัดเจน เพราะ
-
ความสัมพันธ์ 30 วันระหว่าง BTC และ JGB แกว่งทั้งบวกและลบตลอดปี
-
การปรับขึ้นของบอนด์ญี่ปุ่นสะท้อนภาพใหญ่ว่า “เศรษฐกิจโลกเริ่มเปราะบาง” มากกว่าจะเป็นปัจจัยเฉพาะที่กระทบคริปโต
กล่าวได้ว่า JGB เป็นเพียง “สัญญาณเตือน” ของระบบการเงิน ไม่ใช่ตัวจุดชนวนตลาดคริปโต
สเตเบิลคอยน์สั่นไหว–กฎระเบียบเข้ม: ตัวถ่วงความเชื่อมั่น
หนึ่งในแรงกดดันสำคัญคือ ความเสี่ยงด้านเสถียรภาพของสเตเบิลคอยน์ และท่าทีเข้มงวดจากหน่วยงานกำกับทั่วโลก
จีนย้ำ “แบนคริปโตเต็มรูปแบบ”
ธนาคารกลางจีน (PBoC) ออกแถลงการณ์ล่าสุด ย้ำว่าธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลยังผิดกฎหมายในจีน พร้อมระบุว่าสเตเบิลคอยน์ถูกนำไปใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น
-
ฟอกเงิน
-
โอนเงินข้ามพรมแดนผิดกฎ
ท่าทีนี้สร้างแรงกดดันต่อสภาพคล่องในตลาดเอเชียทันที
S&P หั่นเรตติ้ง USDT สู่ระดับ “อ่อนแอที่สุด”
ฝั่งสหรัฐฯ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P Global Ratings ได้ปรับลดอันดับ “ความสามารถในการตรึงมูลค่า 1 ดอลลาร์” ของ USDT ลงสู่ระดับต่ำสุด สะท้อนความกังวลต่อความโปร่งใสของรีเสิร์ฟ
ผลลัพธ์คือ
-
USDT เทรดต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ในบางตลาด
-
นักลงทุนบางส่วนเร่งลดความเสี่ยง
-
สภาพคล่องรวมในระบบ DeFi–CeFi หดตัว
บริษัทถือ BTC เริ่มถูกจับตา–โมเดลระดมทุนเริ่มติดขัด
บริษัทจดทะเบียนที่ถือ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองเคยได้รับแรงหนุนจากราคาขาขึ้น โดย
-
ออกหุ้นเพิ่มทุนที่ราคา Premium
-
นำเงินไปซื้อ BTC เพิ่ม
-
หนุนราคาหุ้นและ Bitcoin เกื้อหนุนกันเป็นวงจร
แต่เมื่อ BTC ดิ่งกว่า 23% ภายใน 30 วัน โมเดลนี้เริ่มสะดุด เพราะ
-
หุ้นบางบริษัทเทรดต่ำกว่า NAV
-
การออกหุ้นเพิ่มทุนทำให้เกิด Dilution โดยแทบไม่เพิ่มมูลค่าจริง
ฝั่งผู้บริหารของ Strategy (MSTR US) ก็ยอมรับว่า บริษัทอาจพิจารณาขาย BTC หากราคาหุ้นยังต่ำกว่า mNAV และไม่มีทางเลือกในการระดมทุนอื่น แม้ภายหลังบริษัทจะระดมทุนเงินสดได้ 1.44 พันล้านดอลลาร์ แต่ข่าวลือก่อนหน้าได้สร้างแรงกดดันต่อตลาดไปแล้ว
FUD จาก Tether: ความเสี่ยงเชิงระบบยังคงคุกรุ่น
การที่ S&P ลดอันดับ USDT จุดกระแส FUD (Fear–Uncertainty–Doubt) ในตลาดทันที
นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า หาก
-
สินทรัพย์สำรอง เช่น ทองคำและ Bitcoin ที่ Tether ถือไว้ร่วงแรงพร้อมกัน
-
และความกังวลต่อรีเสิร์ฟทวีความรุนแรง
อาจทำให้มูลค่าตลาดของ USDT ถูกตั้งคำถาม นำไปสู่ความเสี่ยงเชิงระบบที่กระทบทั้ง DeFi, CEX และตลาดอนุพันธ์คริปโตโดยตรง
แม้ว่าฝั่งสนับสนุนจะยืนยันว่า Tether มีกำไรสูงและมีส่วนของผู้ถือหุ้นแข็งแรงกว่าธนาคารหลายแห่ง แต่ในภาวะตลาดเปราะบางเพียงเล็กน้อย ความไม่แน่นอนก็เพียงพอที่จะทำให้นักลงทุน “เทขายลดเสี่ยง” อย่างรวดเร็ว
Cr.cointelegraph
-----------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you