รายงานเด็ดจาก HSI ยัน! คริปโตฯไม่ใช่แหล่งฟอกเงินยอดนิยมของอาชญากร

รายงานฉบับใหม่จาก HSI และ Crypto ISAC ที่จัดทำโดย Robert Whitaker ได้หักล้างความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลในการใช้ก่ออาชญากรรม โดยเน้นถึงบทบาทสำคัญของแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการกำกับดูแล ซึ่งช่วยให้การบังคับใช้กฎหมายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยอาศัยความโปร่งใสของบล็อกเชนเพื่อป้องกันและต่อสู้กับกิจกรรมผิดกฎหมาย รวมถึงการเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ

แม้ว่าจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้บล็อกเชนในกิจกรรมการเงินผิดกฎหมาย แต่ข้อมูลจาก Merkle Science และ Chainalysis แสดงให้เห็นว่าสัดส่วนของธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมายในสกุลเงินดิจิทัลนั้นต่ำมาก ตัวอย่างเช่น รายงานของ Merkle Science พบว่าเพียง 0.61% ของธุรกรรม USDT ระหว่างกรกฎาคม 2021 ถึงมิถุนายน 2024 อาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย ในขณะที่ธุรกรรม USDC มีเพียง 0.22% ที่ถูกระบุว่าผิดกฎหมาย และน้อยกว่า 0.005% ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตร

นอกจากนี้ Chainalysis รายงานว่าในปี 2023 กิจกรรมผิดกฎหมายบนเครือข่ายคริปโตคิดเป็นเพียง 0.34% ของธุรกรรมทั้งหมด ซึ่งลดลงจาก 0.42% ในปี 2022 เมื่อเปรียบเทียบกับระบบการเงินแบบดั้งเดิมที่มีสัดส่วนกิจกรรมผิดกฎหมายสูงกว่ามาก ตามที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ประเมินไว้ในปี 2024

ในระบบการเงินแบบดั้งเดิม เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายต้องผ่านกระบวนการขอข้อมูลทางการเงินจากสถาบันต่างๆ ซึ่งมักต้องใช้หมายเรียกและการรวบรวมหลักฐานจำนวนมาก นอกจากนี้ กิจกรรมผิดกฎหมายหลายรูปแบบยังอาศัยการใช้เงินสด เนื่องจากมีความไม่สามารถติดตามได้ และรายงาน DEA ปี 2024 ยืนยันว่าเงินสดยังคงเป็นวิธีหลักในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด เนื่องจากความเป็นนิรนามและไม่มีหลักฐานที่บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

การติดตามธุรกรรมบนบล็อคเชนจึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับการต่อสู้กับอาชญากรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงินและการสนับสนุนการก่อการร้าย โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับการเงินแบบดั้งเดิม บล็อคเชนมีความโปร่งใสและเปิดโอกาสให้สามารถติดตามเงินทุนได้แบบเรียลไทม์และข้ามพรมแดน ซึ่งสามารถทำได้ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า "Know Your Transaction" (KYT) KYT ช่วยให้สามารถประเมินและติดตามธุรกรรมได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบกิจกรรมทางการเงินที่น่าสงสัย

KYT แตกต่างจากกระบวนการ Know-Your-Customer (KYC) ในการเงินแบบดั้งเดิม เนื่องจาก KYT ใช้ประโยชน์จากความโปร่งใสของบล็อคเชน ทำให้บริษัทและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถประเมินความเสี่ยงของธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยได้มากกว่าระบบดั้งเดิม นอกจากนี้ การใช้ KYT ยังช่วยให้แพลตฟอร์มคริปโตสามารถปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยสามารถคัดกรองและบล็อกธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่ที่ถูกระบุว่ามีความเสี่ยงสูงจากหน่วยงานอย่าง OFAC และ Crypto ISAC

คลิก

Cr.bitcoinaddict

----------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"