โรงงานชิ้นส่วนแห่ปิดกิจการ พิษยอดขายรถดิ่ง-เตะฝุ่นนับแสน

สถานการณ์การปิดกิจการของโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในภาคตะวันออกของไทยดูเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากเลยครับ เนื่องจากมีการปิดกิจการกว่า 500 แห่งในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 ส่งผลให้พนักงานตกงานจำนวนมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์

ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายรถที่ตกต่ำและปัญหาการขาดสภาพคล่องหลังจากโควิด

การที่บริษัทเหล่านี้มีการลดเวลาการทำงานและเสนอโปรแกรมสมัครใจลาออก ก็เป็นวิธีหนึ่งในการลดค่าใช้จ่ายและพยายามลดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในขณะนี้ ส่วนที่เมืองชลบุรีก็มีการวางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อพยายามฟื้นฟูสถานการณ์

ปัญหานี้น่าจะมีผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจในพื้นที่และภาคการผลิตโดยรวม อาจต้องติดตามการดำเนินมาตรการและแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐและท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด

การใช้มาตรา 75 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานเป็นการตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ยากลำบากในการจัดการกับต้นทุนและการผลิตในภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ข้อกำหนดนี้ช่วยให้โรงงานสามารถลดเวลาทำงานและลดค่าจ้างได้เพื่อควบคุมต้นทุน แต่ในขณะเดียวกัน ก็อาจทำให้พนักงานที่ได้รับผลกระทบต้องแบกรับภาระ

การลดกำลังการผลิตและการลดเวลาทำงานในโรงงานยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมรถยนต์ เช่น ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของรถไฟฟ้า (EV) และต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศและการส่งออกลดลง

สำหรับพนักงานซับคอนแทร็กต์ที่ตกงาน ส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบหนัก เพราะมักจะไม่ได้รับสวัสดิการที่เหมือนพนักงานประจำ และยากที่จะหางานใหม่ในช่วงที่ธุรกิจซบเซา

การเปิดโครงการสมัครใจลาออกของบริษัท ไทยแอโรว์ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการพยายามลดต้นทุนเมื่อมีการลดกำลังการผลิตลง ซึ่งการจ่ายเงินชดเชยสูงถึง 38 เดือน เป็นวิธีการหนึ่งในการบริหารจัดการต้นทุนและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัทและพนักงานในระยะยาว

สถานการณ์นี้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้างและสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่ออุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ

สถานการณ์ของบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในภาคธุรกิจรถสันดาปดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและหนักหน่วงมากสำหรับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในระดับ Tier-3 ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาด้านสภาพคล่องและการลดกำลังการผลิต

หลายบริษัทต้องเผชิญกับปัญหาหลัก ๆ ดังนี้:

  1. การลดยอดการผลิตและการชะลอการรับซื้อ: บริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนได้รับผลกระทบจากการลดยอดการผลิตของลูกค้าและการชะลอการรับซื้อชิ้นส่วนที่ผลิตไว้ ซึ่งส่งผลให้ต้องรับค่าชดเชยที่ต่ำกว่าต้นทุนการลงทุนของตนเอง

  2. ปัญหาสภาพคล่อง: เนื่องจากการได้รับค่าชดเชยที่ต่ำและการขายที่ลดลง บริษัทจึงขาดสภาพคล่องและไม่สามารถหมุนเวียนเงินทุนได้อย่างเพียงพอ ทำให้บางบริษัทต้องขอกู้เงินจากธนาคาร แต่พบปัญหาในการได้รับการอนุมัติสินเชื่อ เนื่องจากผลประกอบการขาดทุน

  3. หนี้สินและการปรับตัว: บางบริษัทต้องหันไปกู้เงินจากแหล่งเงินนอกระบบ ซึ่งนำมาซึ่งปัญหาหนี้สินเพิ่มเติม และต้องพยายามปรับตัวโดยการเปลี่ยนไปผลิตสินค้าหรือหาช่องทางใหม่เพื่อความอยู่รอด

  4. ผลกระทบต่อพนักงานซับคอนแทร็กต์: พนักงานซับคอนแทร็กต์มักได้รับผลกระทบหนักกว่าพนักงานประจำ เนื่องจากมักไม่ได้รับสวัสดิการที่เหมือนพนักงานประจำ และหางานใหม่ได้ยากในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ซบเซา

สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความยากลำบากที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญและความท้าทายที่พนักงานต้องเผชิญ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำและการเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์กำลังเกิดขึ้น

คลิก

Cr.ประชาชาติธุรกิจ

------------------------------------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"