ตอนที่จีนยกเลิกมาตรการควบคุมโควิดที่ใช้อย่างเข้มงวดมานานสามปี ธุรกิจห้างร้านต่างหวังว่ายอดขายจะพุ่งขึ้น แต่กลายเป็นว่าความต้องการซบเซามากจนร้านค้าต้องหั่นราคาและยอมลดกำไร
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน สัญญาณแรงกดดันเงินฝืดกำลังเล่นงานภาคธุรกิจจีน
เมื่อเศรษฐกิจกำลังซบเซาส่อเค้าบั่นทอนแผนกระตุ้นของรัฐบาลปักกิ่ง หากผู้บริโภคเลือกที่จะเก็บเงินไว้แทนการใช้จ่าย อย่างกรณีของหนี่ เซี่ยงกวน เจ้าของธุรกิจรองเท้าหนังแฮนด์เมด “อิตาลี เอลซินา กรุ๊ป” ในเมืองเวิ่นโจวทางภาคตะวันออกของจีน ต้องลดราคาลง 3% จากปีก่อน
ลูกค้าของหนี่มีทั้งผู้บริโภครายย่อยและร้านค้าปลีกจีน แต่ธุรกิจซบเซาลงมาตั้งแต่เดือน ก.พ. ลูกค้าหลายคนยังหวาดกลัวความเสียหายจากโควิด ร้านค้าปลีกไม่กล้าสั่งซื้อเพิ่ม ได้แต่ขายของในสต็อกให้หมดพร้อมๆ กับคาดหวังว่ายอดขายจะพุ่งขึ้น
“ทุกๆ คนได้แต่รอ และทำอย่างดีที่สุดเพื่อให้มีกำไรพออยู่รอดและยังแข่งขันได้” หนี่ให้ความเห็นกับบลูมเบิร์ก
เมื่อตอนต้นปีนักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งคาดการณ์ว่า ราคาสินค้าในจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่กลายเป็นว่าราคากับร่วงลง ตรงข้ามกับกระแสเงินเฟ้อพุ่งหลังเปิดประเทศในสหรัฐและเขตเศรษฐกิจใหญ่อื่นๆ สภาพเช่นนี้เห็นได้ทั้งจากฝั่งโรงงานและค้าปลีก
ตั้งแต่เดือน ต.ค.2565 เป็นต้นมาราคาผู้ผลิตหดตัวเมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนใหญ่เนื่องมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างถ่านหินและน้ำมันดิบลดลง วันนี้ (9 ส.ค.) จีนมีกำหนดเผยแพร่ราคาผู้บริโภคประจำเดือน ก.ค.ที่น่าจะลดลง ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปี 2563 ที่ราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคหดตัวพร้อมกัน
บลูมเบิร์กระบุว่า หากใช้ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP Deflator) เป็นเกณฑ์ จีนเข้าสู่ภาวะเงินฝืดเรียบร้อยแล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ให้นิยามเงินฝืด หมายถึง “การลดลงอย่างต่อเนื่องของมาตรวัดราคาโดยรวม เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ”
การที่ราคาผู้บริโภคจีนลดลงรอบนี้ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องกังวลหลายเรื่อง แตกต่างจากที่เคยลดลงชั่วคราวช่วงปลายปี 2563 และต้นปี 2564 ครั้งก่อนสาเหตุหลักมาจากราคาเนื้อสุกรลดลง ตอนนี้การส่งออกดิ่งเหวเนื่องจากผู้บริโภคในตลาดใหญ่สุดของจีนบางตลาด เช่น สหรัฐ ยุโรป ไม่ยอมใช้จ่าย ประกอบกับภาคอสังหาริมทรัพย์จีนที่เข้าสู่ขาลงมายาวนานส่งผลให้ค่าเช่าบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านลดลง
ไม่เพียงเท่านั้น สงครามราคาในตลาดรถยนต์ชนวนจากการลดราคาของเทสลา ทำให้แบรนด์รถยนต์ใหญ่อื่นๆ ร่วมวงหั่นราคาลงอย่างมากช่วงก่อนหน้านี้ด้วย
ถ้าสินค้าหลากชนิดลดลงต่อไปผู้บริโภคอาจชะลอการซื้อ ไม่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม บีบให้ธุรกิจต้องลดราคา ส่งผลต่อเนื่องถึงรายได้และกำไรลดลงถึงขั้นต้องลดการลงทุนและการจ้างงาน วงจรเศรษฐกิจชะงักงันที่ญี่ปุ่นเคยเผชิญมาแล้วหลายสิบปี
ภาคบริการยังแกร่ง
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าจีนจะซ้ำรอยญี่ปุ่นไปเสียทั้งหมด การใช้จ่ายของผู้บริโภคในภาคบริการยังคงแข็งแกร่ง ราคาการท่องเที่ยวพุ่งขึ้น 7.1% ช่วงหกเดือนแรกของปีนี้เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ราคาห้องพักโรงแรมเพิ่มขึ้น ค่าบริการสันทนาการ การศึกษา การดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ปัญหาราคาตกต่ำอย่างรวดเร็วส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค
“ดูเหมือนผู้คนไม่อยากซื้อเสื้อผ้ามากเหมือนเมื่อก่อน การแข่งขันจึงรุนแรงขึ้น หลายโรงงานหั่นราคาเพื่อให้ขายออก นำไปสู่วงจรอุบาทว์” เจิ้น หยูปิง ผู้จัดการเจียเหยา เท็กซ์ไทล์ ผู้ผลิตผ้าโพลิเอสเตอร์และไนลอนในมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของประเทศให้ความเห็น ปีนี้โรงงานของเจิ้นลดราคาไปแล้ว 5% แม้ต้นทุนเพิ่มขึ้นมากก็ตาม
ห้ามพูดเรื่องเงินฝืด
รัฐบาลเมินความกังวลเรื่องเงินฝืด เจ้าหน้าที่จากธนาคารประชาชนจีน สำนักงานสถิติเแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นๆ กล่าวเสมอมาว่า ไม่มีพื้นฐานให้ราคาลดลงในระยะยาว การพูดถึงเงินฝืดอย่างเปิดเผยเป็นเรื่องที่นักเศรษฐศาสตร์จีนไม่ควรพูดเช่นกัน
นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทหลักทรัพย์จีนรายหนึ่งเผยว่า ได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการกำกับดูแลไม่ให้พูดเรื่องเงินฝืด ให้บอกเพียงว่า เศรษฐกิจจีนดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นักเศรษฐศาสตร์ในจีนอีกรายกล่าวว่า ได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการกำกับดูแลและฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทไม่ให้พูดเรื่องเงินฝืดออกสื่อ
สินค้าขายไม่ออกฉุดราคา
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาสินค้าให้ต่ำลงในปีนี้คือสินค้าคงค้างที่พอกพูนตลอดช่วงโควิดและในไตรมาสแรก ที่ใครๆ ต่างคาดหวังว่ายอดขายจะดีหลังยกเลิกมาตรการคุมโควิด แต่กลายเป็นตรงกันข้ามธุรกิจพากันลดราคาเพื่อระบายสต็อก
วิเวียน เฟิ่ง ชาวเมืองเซี่ยงไฮ้ผู้ซื้อสินค้าลดราคาตั้งแต่สินค้าเกษตรไปจนถึงเสื้อยืดไนกี้ แล้วนำไปขายให้กับเพื่อนบ้านในชุมชน กล่าวว่า ปีนี้ซัพพลายเออร์ของเธอลดราคาให้สูงมากเนื่องจากสินค้าเหลือมากแต่ความต้องการน้อย
“แบรนด์ดังบางแบรนด์ เมื่อปี 2564 เคยขายสินค้าให้ลูกค้าแบบกลุ่มลด 40% จากราคาเดิม ตอนนี้ขายได้แค่ 10% หรือไม่ถึงด้วยซ้ำไป”
นักเศรษฐศาสตร์บางคนคาดว่า เงินเฟ้อผู้บริโภคมีแนวโน้มลดลงต่อไปอีก 2-3 เดือน ก่อนจะขยับขึ้นไปจนถึงสิ้นปี เมื่อฐานเปรียบเทียบจากปีก่อนไม่ต่ำแล้วประกอบกับความต้องการในประเทศเพิ่มขึ้น ผลการสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์โดยบลูมเบิร์กคาดว่า ทั้งปี 2566 เงินเฟ้อจีนจะแค่ 0.8% ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Cr.Bank’s Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you