ดาวโจนส์ร่วง 176 จุดกังวลเฟดขึ้นดบ.-ทำ QT ฉุดศก.ถดถอย

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(1มิ.ย.)ร่วงลง 176 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐโดยหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มเดียวที่ปรับตัวขึ้นในวันนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 176.89 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 32,813.23 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500

ลดลง 30.92 จุด หรือ 0.75% ปิดที่ 4,101.23 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 86.93 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 11,994.46 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มเดียวที่ปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก
ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 222 จุดเมื่อวันอังคาร(31พ.ค.) โดยถูกกดดันจากความผันผวนของราคาน้ำมัน รวมทั้งการที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทุกเดือนจนกว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง
นักลงทุนวิตกว่าการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากหดตัวลง 1.4% ในไตรมาส 1/65
นอกจากนี้ เฟดเริ่มใช้มาตรการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ในวันนี้ ตามมติในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 4 พ.ค.
ในการประชุมดังกล่าว เฟดมีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 0.75-1.00% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี
นอกจากนี้ เฟดยังเปิดเผยแผนทยอยปรับลดขนาดงบดุล โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งงบดุลดังกล่าวประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (MBS)
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม และตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม
นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 14-15 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว รวมทั้งในการประชุมเดือนก.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ตลาดจับตาข้อมูลแรงงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันพรุ่งนี้ ส่วนในวันศุกร์จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร
นอกจากนี้ นักลงทุนรอดูรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด หรือ Beige Book ในวันนี้ เพื่อประเมินมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.1 ในเดือนพ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าดัชนีร่วงลงสู่ระดับ 54.5 จากระดับ 55.4 ในเดือนเม.ย.
ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้คำสั่งซื้อใหม่ดีดตัวขึ้น แม้ว่าดัชนีการจ้างงานร่วงลงต่ำกว่าระดับ 50 ท่ามกลางปัญหาแรงงานตึงตัวในตลาด
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"