โพสนี้ขอขยายรายละเอียดเกี่ยวกับงานเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ของAmazon และจะวิเคราะห์ให้เห็นภาพว่าก้าวต่อไป Amazon กำลังมุ่งไปทางไหน โดยท่านที่ภาษาอังกฤษดี เชิญไปอ่านโพสนี้ก่อนครับ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1462944483813356&id=1401954436579028
ส่วนโพสนี้จะขอสรุปข้อสรุปโพสด้านบนและชวนทุกท่านมาวิเคราะห์ก้าวต่อไปของ Amazon ซึ่งผมคิดว่าเจ้าแห่งการ Disrupt จะทำอะไรให้ได้สะเทือนโลกอีกเหรือเปล่า? และ โดยส่วนตัวมองว่างานเปิดตัวนี้อาจมีแรงกระเพื่อมต่อภาพของโลกอนาคตที่จะมาถึง เท่ากันหรือมากกว่า IphoneX ที่มี face recognition ครับ
งานเปิดตัวครั้งใหม่ของAmazonให้ภาพถึงความทุ่มเทที่บริษัทจะนำ Alexa ซึ่งเป็น AI เหมือน SIRI ที่สามารถคุยกับเราได้อย่างเป็นธรรมชาติใส่เข้ามาในอุปกรณ์ที่เปิดตัวใหม่หลายชนิด เช่น Echo Spot นาฬิกาทรงกลมเอาไว้ไปวางบนหัวเตียง ที่มี Alexa คอยช่วยบอกข้อมูลยามเช้าแก่เรา เช่น นัดหมายและสั่งงานอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้าน Echo Spot ยังมีกล้องติดมาด้วยเพื่อให้เราสามารถ VideoCall คุยกับใครก็ได้ฟรีในเขตอเมริกาและแคนาดา โดยบริษัทฝังกล้องลงมาเพื่อเทสว่าลูกค้าไว้ใจผลิตภันท์ของAMazonแค่ไหนที่จะเก็บความลับให้ (ลองนึกภาพนาฬิกาปลุกที่ต่ออินเตอร์เนท มีกล้องหันมาที่เราตลอดเวลาเรานอนสิ) นอกจากนี้ยังเปิดตัว FireTVรุ่นใหม่ อุปกรณ์(เหมือน Chromecast)ที่เสียบเข้ากับทีวีแล้วทำให้ทีวีเรากลายเป็นSmartTV โดย FireTVใหม่ใช้งานร่วมกับเวบ TV streaming เช่น Netflix หรือ Bravo ให้สั่งงานด้วยเสียงได้ (ส่วน Google ทำแบบเดียวกันกับ SamsungTV) ความจริงจังของAmazonคือลงทุนใช้พนักงาน 5000 คนพัฒนาแต่เฉพาะกับ Alexa ให้ Alexa ใช้งานได้หลากหลายที่สุด มีการเซทอัพ ห้องนั่งเล่น หรือ ห้องครัวในบริษัท แล้วลองให้ใช้งานจริง อีกประเด็นสำคัญคือ Alexa จะเป็นระบบสั่งงานด้วยเสียงที่มีใน BMW รุ่นใหม่ด้วย
ทำไมAmazon ถึงให้ความสำคัญกับ Alexa?
สังเกตุจากงานเปิดตัวเทคโนโลยี CES2017 ที่ทุกฝ่ายบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า Alexa is everywhere คืออุปกรณ์ไหนๆก็ฝั่งแต่ Alexa เต็มไปหมด มันกลายเป็นว่าอยู่แทบเกือบทุกอุปกรณ์ที่สั่งงานด้วยเสียง
ตามที่เคยเขียนไว้ Jeff Bazos ผู้บริหาร Amazon มองว่าถ้าเราเอาแต่ทำในสิ่งที่เราถนัด ความถนัดของเราสักวันนึงอาจล้าหลัง แต่ถ้าเรามองความต้องการลูกค้าเป็นหลัก ว่าในอนาคตลูกค้าต้องการอะไร แล้วเริ่มพัฒนาบริษัทให้ไปถึงจุดนั้น เราอาจต้องพัฒนาในด้านที่เราไม่ถนัด มันอาจจะลำบาก ทุลักทุเล แต่สุดท้ายเราจะอยู่รอด คุณสมบัติพิเศษของคุณJeffคือแกมองอนาคตขาดแกรู้ว่าต้องเน้นด้านไหน แล้วตอนทำแกไม่ได้ทำเล่นๆแกทุ่มหมดตัว(กำไรก็ไม่เอาด้วย) Alexa Echo เป็นผลผลิตจากสิ่งนั้น มันกลายเป็นอุปกรณ์Home Assistance ตัวแรกของโลกซึ่งพัฒนามาก่อน Google home ซึ่งเป็นคู่แข่งที่พอจะสูสีรายเดียวถึงสองปี ในเวลาสองปีนี้ Alexa พัฒนาไปเยอะมาก มันจึงเป็น AI ที่ดีที่สุดในตอนนี้
จากบทสัมภาษณ์ Qi Lu จาก Baidu บริษัทยักษ์ใหญ่จีนที่บอกว่า AI คือทุกอย่างในอนาคต แกบอกว่า Baidu พัฒนา AI ชื่อว่า DuerOS ที่เคลมว่าสามารถโต้ตอบบทสนทนาได้เป็นธรรมชาติกว่า พูดได้ยาวกว่า Siri และ Google now (และ Cortana ด้วย อย่าเพิ่งลืม Microsoft) แต่แกยังหาวิธีชนะ Alexa ไม่ได้ เพราะ Google และ Microsoft นั้นเน้นพัฒนาอุปกรณ์ของตัวเองมากกว่า AI โดยเขาเรียกบริษัทเหล่านี้ว่า "finger first" แต่ Amazon ที่ไม่ได้มีอุปกรณ์โดดเด่นเน้นที่ "AI First"
ความแม่นยำและฉลาดของ Alexa ส่งผลให้ Echo ของ Amazon ครองตลาดด้วยสัดส่วน 76% ของอุปกรณ์ทั้งหมด โดยเท่าที่อ่านจากรีวิว ถ้าคุณมี Smart Home Device อื่นๆ Alexa จะสั่งงานได้แม่นยำกว่า Google (และบางอุปกรณ์ google ไม่ support) จน Capital One บริษัทด้านการเงินยักษ์ใหญ่ของอเมริกาอนุญาติให้คนที่ใช้ Alexa สามารถทำธุรกรรมทางด้านการเงินผ่านทาง Alexa ได้! (ยำ้อีกที ธุรกรรมด้านการเงินนะ) ทั้งเชคประวัติการทำธุรกรรมล่าสุด ยอดเงินคงเหลือ เช็ควันจ่ายค่าบัตรเครดิต และจ่ายค่าบัตรได้ด้วยเสียงเราเอง ก้าวนี้ผมคิดว่าเป็นก้าวสำคัญ เพราะ
1. การที่อุปกรณ์มากมายรองรับ Alexa และ Alexa ก็อยู่มานานกว่าเจ้าอื่น ผมเดาว่า Amezon จะเน้นเรือ่ง Big Data และ Machine Learning เก็บข้อมูลทุกอย่างที่เราสั่งงานด้วยเสียง ประกอบกันหลายๆอุปกรณ์จนรู้ข้อมูลทุกอย่างของเรา และตามที่รู้กัน โลกยุคต่อไปข้อมูลคือทุกอย่าง ใครมีข้อมูลลูกค้าอยู่ในมือจะครองตลาด
2. Alexa จะทำให้ Call center รวมถึงบริการให้คำปรึกษาไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะ Alexa เริ่มคุยได้เหมือนคนจริงๆแล้ว การมี Alexa จะทำให้ตัดต้นทุนด้านคนไปได้มหาศาล มันเชื่อมต่อ internet และ bigdata ทำให้มันรู้เยอะกว่า Call center แถมยิ่งใช้ไปมากๆ มันก็ยิ่งรู้ข้อมูลเราเพิ่มมากขึ้นไปอีก
ถ้า 1 และ 2 เป็นจริงในอนาคตโลกนี้จะกระเทือนแค่ไหน อย่าลืมว่า Alexa คือAiที่มี Machine Learning ที่พูดภาษมนุณย์ได้และมีข้อมูลBigdataอยู่ในมือ เพราะฉะนั้นมันจะรู้ทุกเรื่อง และทำธุรกรรมทุกอย่างแทนเราได้ (หรือผมมโน? คำตอบอยู่ที่ว่าเราจะพึ่งพามันมากขึ้นกว่าgoogle facebookไหม และมีแต่ alexa ที่จัดการชีวิตเราทั้งหมดหรือเปล่า)
กลับมามองประเทศไทย AI ตัวที่รู้ใจคนไทยน่าจะเป็น DuerOS ของ Baidu เพราะวัฒนะธรรม โครงสร้างครอบครัว ลักษณะบ้านของไทยคล้ายคนจีนมากกว่าอเมริกา ทำให้ Duer น่าจะทำงานได้ดีกว่า
บอม DionTech5.0
Compare Google with Alexa คลิก
**Compare Google with Alexa (อันนี้แนะนำให้ดูครับ) คลิก
ทดลองใช้ Alexa คลิก
alexa ใน CES2017 คลิก
Google Assist with Samsung and NVIDIA คลิก
Capital ONe with Alexa คลิก
สัมภาษณ์ Qi Lu จาก Baidu คลิก
Amazon own its growing market คลิก
ขอบคุณผู้สนับสนุน
https://line.me/R/ti/p/%40brandname3j
Line ID:@brandname3j
- + - + - + - + - + - + - + - + - +
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman