รายงานหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ (ฉบับเต็ม) โควิด-19 ไม่ใช่อาวุธชีวภาพ ที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์

เมื่อวันศุกร์ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯได้เปิดเผยรายงานฉบับเต็ม 17 หน้าชื่อ Covid-19 Origins รายงานนี้ระบุว่า ไม่น่าเป็นไปได้ ที่จะได้ข้อสรุปที่มีความหนักแน่นในเรื่อง ต้นกำเนิดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์โควิด-19 หากว่าไม่ได้ข้อมูลมากขึ้นจากจีน

ในเรื่องที่เกี่ยวกับผู้ติดเชื้อในระยะแรกๆ หรือไม่ได้มีการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ เกี่ยวกับธรรมชาติของไวรัสนี้
หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯทั้งหมด 17 หน่วยงาน เห็นพ้องกันว่า โคโรนาไวรัสสายพันธุ์โควิด-19 ไม่ได้เกิดจากการประดิษฐ์ทางพันธุกรรมของมนุษย์ แต่ก็เป็นเรื่องมีความยากลำบากมากขึ้น ที่จะตรวจจับการที่มนุษย์เราจะเข้าไปดัดแปลงไวรัสดังกล่าว แต่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ มีความเห็นแตกต่างกันถึงปัญหาที่ว่า ไวรัสระบาดจากสัตว์สู่คน หรือเป็นอุบัติเหตุจากห้องทดลอง ปัญหานี้จะไม่มีทางรู้ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากจีน
โควิด-19 ไม่ใช่อาวุธชีวภาพ
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กำหนดเวลา 90 วัน ให้หน่วยข่าวกรอง ทำการประเมินเรื่องต้นต่อแหล่งที่มาของโควิด-19 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานผู้อำนวยการ ข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ (Office of the Director of National Intelligence) ได้เคยเผยแพร่บทสรุปของรายงานนี้มาแล้ว แต่การเปิดเผยรายงานฉบับเต็มครั้งนี้ เพื่ออธิบายข้อสรุปการวิเคราะห์ของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ
รายงาน Covid-19 Origins กล่าวว่า หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ ได้ประเมินแหล่งที่มาของโควิด-19 โดยนักวิเคราะห์เน้นหนักประเด็นที่ว่า
(1) โควิด-19 ถูกสร้างขึ้นมาจากการดัดแปลงพันธุกรรม (genetic engineering) หรือไม่ โดยเฉพาะการสร้างเป็นอาวุธชีวภาพ
(2) จุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดมาจากธรรมชาติ หรือว่าเป็นอุบัติเหตุจากห้องทดลอง ปฏิกิริยาและการรับมือของจีนต่อการแพร่ระบาด ทำให้นักวิเคราะห์เข้าใจในประเด็นดังกล่าว
หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯประเมินว่า ไวรัส SAR-CoV-2 ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ไม่ได้พัฒนาโดยจีน เพื่อเป็นอาวุธทางชีวภาพ ก่อนหน้านี้ ทฤษฎีที่ว่าไวรัส SAR-CoV-2 คืออาวุธทางชีวภาพ ถูกเผยแพร่โดยนักการเมืองหัวรุนแรงของพรรครีพับริกัน แต่รายงาน Covid-19 Origins กล่าวว่า แนวคิดอาวุธชีวภาพไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สมเหตุสมผลมาสนับสนุน
รายงาน Covid-19 Origins กล่าวว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า ไวรัสโควิด-19 เป็นไวรัสทางธรรมชาติ ไม่ได้สร้างขึ้นมาโดยมนุษย์ หรือจากการตกแต่งทางพันธุกรรม ความคล้ายกันของไวรัส SARS-CoV-2 กับไวรัสโคโรนาอื่นๆในธรรมชาติ แสดงว่าไวรัส SARS-CoV-2 ไม่ได้เกิดจากการตกแต่งทางพันธุกรรม แต่รายงานก็อ้างงานทางวิชาการที่ระบุว่า วิธีการบางอย่างในตกแต่งทางพันธุกรรม ทำให้แยกไม่ออกระหว่างไวรัสที่มีการตกแต่งกับไวรัสทางธรรมชาติ
จีนไม่รู้เรื่องไวรัส SARS-CoV-2 มาก่อน
รายงาน Covid-19 Origins กล่าวว่า นักวิเคราะห์ที่สนับสนุนแนวคิดที่ว่า ไวรัสโควิด-19 เป็นไวรัสเกิดตามธรรมชาติ ให้น้ำหนักในเรื่องที่เจ้าหน้าที่ของจีน ไม่รู้เรื่องมาก่อนเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ที่เกิดการแพร่ระบาดขึ้นมา นอกเหนือจากนี้ การปะทุเกิดขึ้นมาของโรคระบาดในอดีต ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
ในช่วงการระบาดระยะแรกๆ สถาบันไวรัสวิทยาของอู่ฮั่น (Wuhan Institute of Virology – WIV) ระบุว่า การแพร่ระบาดที่เกิดที่อู่ฮั่น มาจากไวรัสใหม่ และมอบหมายเจ้าหน้าที่สถาบันฯให้หาทางจัดการกับการแพร่ระบาด และตรวจหาลักษณะของไวรัส การกระทำดังกล่าวแสดงว่า เจ้าหน้าที่สถาบัน WIV ไม่ทราบถึงการดำรงอยู่ของไวรัส SARS-CoV-2 มาก่อน จนกระทั่งเมื่อการแพร่ระบาดได้เกิดขึ้นและขยายตัวไปแล้ว
ต้นต่อที่มาของไวรัสโควิด-19
รายงาน Covid-19 Origins กล่าวว่า นักวิเคราะห์ของหน่วยข่าวกรองประเมินว่า ทั้งจุดเริ่มต้นจากธรรมชาติ และจากอุบัติเหตุจากห้องทดลอง ล้วนมีความเป็นไปได้ ที่ไวรัส SARCoV-2 จะแพร่เชื้อครั้งแรกสู่คน แต่นักวิเคราะห์เห็นต่างกันว่า การแพร่ระบาดแบบไหน มีความเป็นไปได้มากที่สุด
นักวิเคราะห์ที่มีความเห็นว่า ไวรัสโควิด-19 มีต้นตอมาจากธรรมชาติ ให้น้ำหนักแก่เรื่องที่เจ้าหน้าที่จีนไม่รู้เรื่องเกี่ยวไวรัสนี้มาก่อน และในอดีตที่ผ่านมา การปะทุขึ้นมาของโรคระบาดใหม่ๆ ก็มีต้นกำเนิดจากการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์
นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานสาธารณสุขของจีนยังมีมาตรฐานต่ำ รวมทั้งลักษณะการติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการของโควิด-19 ทำให้ระบบสอบสวนโรคของจีน ไม่สามารถตรวจจับการแพร่ระบาดของโรคได้รวดเร็ว แต่หากต้นต่อการแพร่ระบาดมาจากห้องทดลอง จะสามารถสอบสวนโรคได้รวดเร็วกว่านี้
บทความของ nytimes.com กล่าวว่า สำหรับนักวิเคราะห์ที่เห็นว่า ต้นตอของโควิด-19 มาจากห้องทดลอง ก็ไม่ได้มีหลักฐานอะไรชัดเจน เพียงแต่เห็นว่า การวิจัยโคโรนาไวรัสของสถาบัน WIV ขาดมาตรการความปลอดภัยด้านชีวภาพ ทำให้อาจนำไปสู่โอกาสการเกิดอุบัติเหตุจากการทดลอง ไวรัสที่มีพันธุกรรมใกล้เคียงกับโควิด-19 มากที่สุด ตรวจพบจากค้างคาวในมณฑลยูนาน นักวิจัยที่นำตัวอย่างสัตว์มาที่อู่ฮั่น อาจทำให้เกิดการติดเชื้อระหว่างสัตว์ดังกล่าวกับคนขึ้นมา
ปฏิกิริยาของจีน
หลังจากการเผยแพร่รายงานฉบับเต็มของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ก็ออกมาแถลงว่า การศึกษาเรื่องที่มาของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนทางวิทยาศาสตร์ ที่จะต้องดำเนินการจากความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเท่านั้น การใช้หน่วยงานด้านข่าวกรองมาสอบสวนต้นตอที่มาของไวรัส เป็นหลักฐานที่แสดงว่า เป็นการดำเนินการที่มีเป้าหมายทางการเมือง
ก่อนหน้านี้ในเดือนตุลาคม องค์การอนามัยโลก (WHO) เลือกผู้เชี่ยวชาญ 26 คนเพื่อร่วมในกลุ่ม SAGO (Scientific Advisory Group on the Origin of Novel Pathogens) ที่จะสอบสวนต้นตอที่มาของโควิด-19 ทาง WHO กล่าวว่า การทำงานของ SAGO คงเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว ที่จะเข้าใจแหล่งที่มาของไวรัสโควิด-19
ส่วนทางการจีนแถลงว่า จีนหวังว่า SAGO จะยึดถือทัศนะคติที่เป็นวิทยาศาสตร์ มีมุมมองแบบทั่วโลก โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานงานวิจัยครั้งแรกเรื่องที่มาของโควิด-19 ของ WHO ที่เผยแพร่เมื่อเดือนมีนาคม 2021 ซึ่งเคยระบุว่า ทฤษฎีที่มาของไวรัสว่าเกิดจากการรั่วไหลของห้องทดลอง คือสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อย่างมาก
โดย ปรีดี บุญซื่อ
Source: ThaiPublica

 

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"