ดาวโจนส์พุ่งกว่า 100 จุด ขานรับผลประกอบการแกร่ง,บิตคอยน์ทุบนิวไฮ

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการพุ่งขึ้นของบิตคอยน์ ณ เวลา 21.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 35,589.96 จุด บวก 132.65 จุด หรือ 0.37%

บิตคอยน์พุ่งขึ้นสู่ระดับ 66,299 ดอลลาร์ในวันนี้ ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 64,895 ดอลลาร์ ขานรับการเปิดตัวกองทุน ETF บิตคอยน์เป็นครั้งแรกในตลาดหุ้นนิวยอร์กวานนี้
นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นายพอล ทิวดอร์ โจนส์ ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ กล่าวว่า เขาชื่นชอบบิตคอยน์มากกว่าทองคำในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
ขณะนี้ บริษัทจำนวน 82% ในดัชนี S&P 500 ที่ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 แล้ว ต่างก็มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีการขยายตัวของกำไรในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นถึง 30% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวของกำไรรายไตรมาสสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของบริษัทในดัชนี S&P 500 นับตั้งแต่ปี 2553
นายทอม ลี นักวิเคราะห์จากบริษัทฟันด์สแตรทส์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงสามารถพุ่งขึ้นอีก 6% จนถึงสิ้นปีนี้ แม้ว่าขณะนี้ราคาหุ้นได้ดีดตัวขึ้นมากแล้ว
นายลียังได้ปรับเพิ่มตัวเลขเป้าหมายดัชนี S&P 500 สู่ระดับ 4,800 ในปีนี้ โดยระบุถึงการพุ่งขึ้นของราคาบิตคอยน์ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่านักลงทุนมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังได้ปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง ขณะที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีจำนวนลดลง
"เราเชื่อว่านักลงทุนกล้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยทางเทคนิค เช่น เส้นค่าเฉลี่ย 50 วันกำลังส่งสัญญาณทิศทางตลาดที่แข็งแกร่งขึ้น" นายลีกล่าว
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 200 จุดวานนี้ โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ในรอบ 4 วัน ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 วัน ซึ่งเป็นช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.
การพุ่งขึ้นของดัชนีทั้ง 3 วานนี้ ทำให้ขณะนี้ดัชนีดังกล่าวกำลังเข้าใกล้สถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ โดยดัชนีดาวโจนส์อยู่ห่างจากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เพียง 0.49% ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq อยู่ห่างราว 0.58% และ 1.78% ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจาก "Stock Trader's Almanac" ระบุว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมักฟื้นตัวขึ้นในเดือนต.ค. และปรับตัวขึ้นจนถึงสิ้นปี โดยเดือนต.ค.ถือเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงขาขึ้นตามฤดูกาลของราคาหุ้น ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดตัวขึ้นเฉลี่ย 0.8% ในเดือนต.ค. ก่อนที่จะพุ่งขึ้น 1.6% ในเดือนพ.ย. และ 1.5% ในเดือนธ.ค.
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

 

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"