ส่องดูโอกาสตลาด "สมุนไพรไทย" ในตลาดโลก เค้กก้อนใหญ่ 5.5 ล้านล้านบาท

โควิด-19 เป็นตัวทำให้ตลาดสมุนไพรคึกคัก วันนี้จะพามาส่องดูโอกาสตลาด "สมุนไพรไทย" ในตลาดโลก เค้กก้อนใหญ่ 5.5 ล้านล้านบาท มีชนิดไหนบ้างที่ตลาดต้องการ พร้อมแผนผลักดันส่งเสริมของรัฐจะเป็นอย่างไร

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าโควิด-19 เป็นตัวปลุกกระแสสมุนไพรให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะจากเดิมคนไทยก็ใช้สมุนไพรในการทำยาอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้รับความนิยมแพร่หลายสักเท่าไหร่ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กันเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่...ในปัจจุบันสมุนไพรไทยได้ถูกนำมาใช้พัฒนาต่อยอดมากขึ้นในกลุ่มสินค้าอาหารเสริม เครื่องสำอาง ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งจากทั้งในไทย และทั่วโลก
สมุนไพรไทยหลายชนิดยังเป็นที่ต้องการของตลาด
ทั้งนี้สมุนไพรไทยมีหลายชนิดที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ ด้วยกระแสที่ร้อนแรงต่อเนื่องจึงทำให้เกิดงานสัมมนา Thailand Survival Post Covid-19 ครั้งที่ 6 “Thai Herb สร้างภูมิ เสริมเศรษฐกิจ สยบพิษโควิด” เปิดโลกสมุนไพร พืชเศรษฐกิจอนาคต ขึ้นมาโดยงานนี้ ‘ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมงานสัมมนาด้วย พร้อมได้ เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญการพัฒนาสมุนไพรหลังจากพบว่าปัจจุบันไทยมีอัตราการบริโภคสมุนไพรไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 มูลค่าการบริโภควัตถุดิบสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายในประเทศ 43,100 ล้านบาท ในปี 2560 เป็น 52,100 ล้านบาท ในปี 2562
พร้อมกันนี้ยังจะมีการผลักดันสมุนไพรไทยอย่างยั่งยืนโดยจะให้ทุกฝ่ายสร้างองค์ความรู้ให้เกษตรกรทำสมุนไพรให้มีคุณภาพ และต้องจัดหาแหล่งทุนเพื่อสนับสนุน มีตลาดที่ชัดเจนให้แก่เกษตรกร รวมถึงอีกหนึ่งสำคัญคือการวิจัยและพัฒนาทั้งการแปรรูป สกัด เพื่อสร้างมูลค่าสมุนไพรอย่างยั่งยืน รัฐบาลและเอกชนต้องร่วมมือกันเพื่อพัฒนาและยกระดับสมุนไพรไทยในตลาดเป็นอย่างมากทำให้สมุนไพรไทยเป็นหนึ่งในตลาดให้ได้
ทางด้าน ‘รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่’ ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรของสหประชาชาติ อาจารย์ประจำวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ให้ข้อมูลว่า ตลาดสมุนไพรทั่วโลกตลาดโลกมีมูลค่า 5.57 ล้านล้านบาทต่อปี ในจำนวนนี้แบ่งผลิตภัณฑ์เป็น 3 ประเภทหลักคือ 1.ยาสมุนไพร ส่วนแบ่งการตลาด 61% อาหารเสริม 30% และเครื่องสำอาง 9% ส่วนตลาดสมุนไพรไทย มีมูลค่าการตลาดประมาณ 3 แสนล้านบาทต่อปี แต่มูลค่าอันดับหนึ่งเป็นของกลุ่มเครื่องสำอางที่ 54% สวนทางกับตลาดโลก ขณะที่ยาสมุนไพรไทยที่อยู่ในบัญชียาหลักยังน้อยเกินไป
สำหรับอุตสาหกรรมที่มีความต้องการสูงสมุนไพรไทยไปใช้ในกระบวนการผลิต คือ
-ยา
-อาหารเสริม
-เครื่องสำอาง
สมุนไพรไทยชนิดไหนที่ตลาดต้องการ
ในส่วนของสมุนไพรไทยมาแรงที่ต่างชาติเป็นที่ต้องการ คือ
-ขมิ้นชัน
-ว่านหางจระเข้
-หญ้าหวาน
-ส้มแขก
-อบเชย
-ขิง
-กัญชง กัญชา กำลังมาแรง
แล้วหากถามว่าตลาดต้องการนำสมุนไพรไทยไปช่วยในเรื่องอะไรบ้าง ?
-เสริมภูมิคุ้มกัน
-ใช้ลดการอักเสบ
-บำรุงหลอดเลือด บำรุงหัวใจ
อย่างไรก็ตามในส่วนของโอกาสสมุนไพรไทยในตลาดโลก คือ ยุโรปใช้ยาสมุนไพรมากที่สุดในโลกถึง 50% ส่วนตลาดโลกอื่น ๆ ก็ยังมีความต้องการอยู่มากเพื่อนำไปต้านโรคและบำรุงร่างกาย ที่สำคัญไทยต้องพัฒนายาให้สู้กับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น มะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ ซึ่งสมุนไพรไทยหลายตัวมีสรรพคุณอยู่แล้ว
Source: Springnews

 

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"