ถึงแม้การชุดบิทคอยน์จะเป็นธุรกิจแนวใหม่ที่นักลงทุนหลายคนสนใจ เพราะเชื่อว่ามีโอกาสทำกำไรได้เป็นจำนวนมาก แต่ก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่าบิทคอยน์ยังเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน สำหรับสิ่งที่นักลงทุนต้องระวังหากเข้ามาขุดบิทคอยน์ คือ
1. ราคามีความผันผวนสูงมาก
ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าบิทคอยน์และเงินดิจิทัลเกือบทุกชนิด มีความผันผวนสูงมาก ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงขึ้น - ลง ได้อย่างรวดเร็วกว่า 20 % ภายใน 1 วัน ทำให้ยากต่อการคาดเดาทิศทางราคาได้ อย่างที่หลาย ๆ คนมองว่า ไม่ต่างอะไรจากบ่อนการพนัน ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบการสวิงของราคา ถือว่ามาถูกทาง เพราะใน 1 วัน อาจจะผันผวนในระดับ 1 หมื่นบาท ถึง หนึ่งแสนบาทก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งนักลงทุนบางคนก็เข้าซื้อตอนราคาต่ำและขายออกในราคาแพง ก็สร้างกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ถ้านักลงทุนคนใดที่ไม่ชอบความหวือหวาก็อาจจะทยอยปรับสัดส่วนเงินลงทุนในบิทคอยน์ก็ได้
2. มีคนใช้บิทคอยน์เป็นช่องทางธุรกิจด้านมืด
จะเห็นว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อบิทคอยน์ ทำเป็นแชร์ลูกโซ่ แล้วหลอกให้คนหันไปลงทุน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีข่าวออกมาให้เห็นอยู่ รวมทั้งอาจเป็นช่องทางในการฟอกเงิน หรือทำธุรกรรมผิดกฎหมาย
3. กลุ่มแฮกเกอร์
การขุดเหรียญดิจิทัล เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เป็นเป้าหมายหลักในการเจาะข้อมูลของกลุ่มแฮกเกอร์เลยก็ว่าได้ และมีให้เห็นอยู่ตลอดว่าเว็บไซต์ Cloud Mining หลายแห่ง โดนแฮกเกอร์เจาะระบบจนล่มแล้วขโมยข้อมูลทางการเงินไป จริงอยู่ที่บิทคอยน์ไม่อาจแฮกได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า โจรจะโจรกรรมไม่ได้ เพราะว่าเว็บเทรดใหญ่ ๆ ทั่วโลกหลายแห่งล้วนเป็นตำนานเมื่อถูกแฮก ทำให้บิทคอยน์ที่สะสมอยู่ในเว็บเทรดเหล่านั้นถูกโอนออกไปยังกระเป๋าของแฮกเกอร์จนหมด ไม่สามารถตามตัวกลับมาได้ ท้ายสุดเว็บก็ล้มละลายปิดตัวไป ปล่อยให้ลูกค้าที่เป็นเจ้าหนี้ไปฟ้องร้องเอากับเว็บเทรดเอาเอง
4. ธุรกิจมีความซับซ้อนสูง
ความรู้และเทคนิคต่าง ๆ มีความจำเป็นมากกับคนที่จะเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้ ด้วยความซับซ้อนของระบบการทำงาน ดังนั้นหากมีใครไม่มีความรู้ที่ดีพอในเรื่องนี้ก็ควรระวัง อาจจะเป็นการลงทุนได้ไม่คุ้มเสีย
5. ธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่ยอมรับ
ถึงแม้บิทคอยน์จะเริ่มแพร่หลายมากในประเทศไทย แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงไม่มีกฎหมายอะไรที่รองรับการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลนี้ออกมา และยังไม่ถือเป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายไทย จึงเป็นหน้าที่ของนักลงทุนที่ต้องยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง
6. กฎหมายที่เข้มงวด
กฎหมายนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากต่อตลาดทุนในรัฐหรือประเทศนั้น ๆ ซึ่งในประเทศไทยมีความก้าวหน้าทางกฎหมายเป็นอย่างมาก มองในแง่หนึ่งก็เป็นข้อดี ที่ช่วยคุ้มครองสินทรัพย์ได้เป็นอย่างดี แต่ในอีกด้านหนึ่งก็สร้างปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวที่เว็บเทรดจำเป็นต้องส่งรายงานรายได้ประจำปีของนักลงทุนเพื่อใช้ในการเสียภาษี ซึ่งเหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ คุณสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยการจดทะเบียนบริษัทเพื่อหักค่าใช้จ่าย และเสียภาษีในเรทนิติบุคคลก็ได้
7. ลงโปรแกรมเถื่อนในเครื่องคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ที่ลงโปรแกรมเถื่อน ล้วนมีโอกาสตกเป็นเหยื่อในการเก็บรหัสผ่านในการเข้าถึงเว็บเทรด อีเมลต่าง ๆ ในส่วนนี้ต้องระวังให้ดี ในการทำธุรกรรมกับเว็บเทรด เช่นการซื้อหรือขาย ควรทำบนระบบปฏิบัติการที่เน้นความปลอดภัย เช่น iOS บน iphone ipad หรือ MacOS ถ้าเป็นระบบปฏิบัติการอื่นล้วนตกอยู่ในความเสี่ยงในเรื่องของระบบความปลอดภัย
8. ความเทาของสินทรัพย์
เนื่องด้วยบิทคอยน์มีจุดเด่นในด้านของการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ทำธุรกรรม จึงมีลักษณะเป็นสีเทา ที่เราไม่รู้ว่าต้นสายปลายทางของบิทคอยน์นั้นมาจากไหน ซึ่งอาจจะมาจากการกระทำความผิดในตลาดสีดำก็เป็นไปได้ ดังนั้นจึงมีโอกาสที่รัฐบาลต่าง ๆ ทั่วโลกออกมากำกับดูแลอย่างเข้มงวด
ท้ายที่สุดนี้ ใครคิดจะลงทุนขุดบิทคอยน์หรือเหรียญดิจิทัลทางเลือกอื่น ๆ ขอให้คิดและศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อน ต้องเข้าใจว่าการลงทุนแบบนี้มีความเสี่ยงสูง เต็มไปด้วยความซับซ้อนและผันผวนมาก หากขาดความรู้ ความเข้าใจที่ดีพอ ก็มีโอกาสที่จะหมดตัวเอาง่าย ๆ
Cr.FXhanuman
------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you