ธนาคารกสิกรไทย”เผยยอดปล่อยกู้โดยใช้ที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้กลุ่มลูกค้าคนรวยพุ่ง 1.5 หมื่นล้าน จากลูกค้าหวังนำเงินลงทุนไพรเวทแบงกิ้งเหตุให้ผลตอบแทนสูงคุ้มค่าดอกเบี้ย เตรียมขอธปท.เพิ่มวงเงินปล่อยกู้อีก3หมื่นล้าน รองรับการปล่อยกู้
นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ล่าสุดยอดปล่อยสินเชื่อโดยใช้ที่ดินเป็นหลักประกัน หรือ Land loan for investment ให้กับกลุ่มลูกค้าคนรวย เช่นกลุ่ม ไพรเวทแบงกิ้ง ที่มีสินทรัพย์มากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไปปัจจุบัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ที่พบว่า มีความต้องการนำที่ดินเข้ามาใช้เป็นหลักประกัน เพื่อนำเงินสินเชื่อมาใช้ต่อยอดลงทุนกับ ไพรเวทแบงก์ของกสิกรไทย
โดยล่าสุด ยอดการปล่อยสินเชื่อ Land loan เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 หมื่นล้านบาทแล้วในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จากก่อนหน้าที่ไม่ถึงระดับ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจาก ความต้องการนักลงทุนมีเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้มีการเร่งปิดดีลเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ซึ่งการปล่อยสินเชื่อในวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการปล่อยให้กับกลุ่มนักธุรกิจ หรือครอบครัวใหญ่ ที่มีที่ดินในเมือง หรือปริมณฑลที่มีมูลค่าสูงราว 20 ราย หรือคิดเป็นยอดการปล่อยสินเชื่อ ระดับ 700-800 ล้านบาทต่อครอบครัว
ซึ่งจากการนำสินเชื่อของธนาคารไปลงทุนในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ผ่านไพรเวทแบงกิ้ง พบว่าผลตอบแทนสูงถึง 5-6% หากเทียบกับอัตราเงินกู้ของ Land loan ที่อยู่เพียง 2-2.5% ดังนั้นถือว่าคุ้มค่าและคุ้มภาระดอกเบี้ยที่ลูกหนี้ต้องจ่ายทั้งปีแล้ว
ทั้งนี้ จากยอดการปล่อยสินเชื่อที่เป็นไปตามเป้าหมายอย่างรวดเร็ว ธนาคารได้มีการเรียนได้ธปท.รับทราบ และขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท.เพื่อขยายกรอบวงเงินการปล่อยสินเชื่อ Land loan เพิ่มขึ้น เป็นวงเงิน 3 หมื่นล้านบาทในช่วง 2 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน มีที่ดิน ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มเติม อีกราว 4-5 พันล้านบาท ราว 7-8 ครอบครัว ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นการปล่อยกู้เพิ่มขึ้นได้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
สำหรับความเสี่ยงในการเข้ามาปล่อยสินเชื่อใน Land loan เชื่อว่ามีค่อนข้างต่ำ เพราะการปล่อยสินเชื่อประเภทนี้ มีข้อบังคับว่า ให้ลูกค้านำเงินที่ปล่อยสินเชื่อได้ มาลงทุนกับธนาคาร เหมือนยืมกระเป๋าซ้ายออกกระเป๋าขวา ที่แบงก์สามารถบริหารจัดการได้ ทั้งการให้สินเชื่อ และการควบคุมการลงทุนจากเงินดังกล่าว
อีกทั้ง ที่ดินส่วนใหญ่ที่ธนาคารปล่อยสินเชื่อ มีการให้สินเชื่อที่ต่ำกว่าหลักประกัน เช่น ที่ดินมูลค่า 1.5 พันล้านบาท แต่ธนาคารมีการประเมินหลักทรัพย์ ที่ 1 พันล้านบาท และปล่อยกู้เพียง 70-80% ของมูลค่าหลักประกันเท่านั้น ดังนั้น ทำให้ที่ดินคุ้มยอดปล่อยสินเชื่อ และลูกค้าคนรวย คงไม่ยอมปล่อยให้ที่ดินหลุด หรือยึดทรัพย์ เพราะลูกค้ากลุ่มดังกล่าว เป็นลูกค้ากลุ่มบน ที่มีสินทรัพย์ค่อนข้างมาก
“ลูกค้าไม่ยอมปล่อยให้ที่ดินหลุดหรอก เพราะเราปล่อยสินเชื่อแค่ 700-800 ล้านบาท หากเทียบกับที่ดินจริงที่ 1.5 พันล้านบาท แต่การนำที่ดินมาใช้ขอสินเชื่อ เพราะเขามองถึงโอกาสในการลงทุน ว่าสามารถสร้างผลตอบแทนได้ และที่ดินก็ไม่ได้หายไปไหน ยังถือครองที่ดินอยู่เหมือนเดิม ซึ่งเหล่านี้ จะทำให้ธนาคารได้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยลงทุนกับแบงก์ ให้หันมาลงทุนมากขึ้น”
สำหรับผลตอบแทนในกลุ่มไพรเวทแบงกิ้ง ของธนาคาร พบว่า ผลตอบแทนปัจจุบันอยู่ในระดับที่ดี โดยล่าสุด ผลตอบแทนเฉลี่ย อยู่ที่ราว 6-7% หากเทียบตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
----------------------------------------------------------------------------
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you