ตลาดหุ้นกำลังฟื้นตัว เงินที่เราลงทุนไว้จะเป็นอย่างไร “หุ้นไทยเพิ่งจะเริ่มดี แต่ทั้งปีก็แพ้หุ้นนอก”

วันนี้ FX insight จะพาไปสำรวจผลตอบแทนการลงทุนหุ้นแต่ละประเทศอีกครั้ง ตั้งแต่ช่วงเกิด Covid-19 ตลาดหุ้นทั่วโลกต่างปรับลดลง รวมถึงหุ้นไทย เวลาผ่านไปสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย รวมถึงหลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ เริ่มแน่นอน ทำให้หุ้น US กลับมาขึ้นเอาๆ

ล่าสุดตลาดหุ้นเกาหลีขึ้นไป all time high เรียบร้อย ส่วนคนที่ยังอยู่หุ้นไทย แน่นอนว่า ยังคงอากาศเย็นๆ อยู่บนดอยกัน (เยอะ) (หนาวกันเป็นหมู่คณะ)

โดยลองมาดูว่าหากเรานำเงินจำนวน 1 ล้านบาท ไปลงทุนหุ้นแต่ละต่างประเทศ จะได้กำไรเท่าไร
แยก return เป็น 1.กำไรจากหุ้นโดยตรง 2.กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (ถ้าบาทอ่อนกว่าค่าเงินประเทศนั้นๆ เราจะกำไร แต่ถ้าบาทแข็งกว่า เราจะขาดทุน )
หากเราลงทุนในตลาด NASDAQ จะทำให้เรากำไรที่สุด เพราะประกอบด้วยหุ้น Tech ในสหรัฐฯ เช่น Apple Microsoft และน้องใหม่ที่ยังคงไฟแรงอย่าง Tesla Motors ซึ่งนอกจากเราจะได้กำไรจากราคาหุ้นแล้ว ยังได้กำไรจากค่าเงินบาทที่อ่อนลงด้วย
ด้านตลาด S&P500 ก็ไม่น้อยหน้า ยังคงได้กำไรจากทั้งสองส่วนเช่นกัน
หากมองตลาดเอเชีย ทั้ง KOSPI ของเกาหลีที่พุ่งทะยานไปในสัปดาห์นี้ และ NIKKEI ของญี่ปุ่น เรายังคงได้กำไรจากทั้งหุ้นและค่าเงินเช่นกัน เรียกว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเลยทีเดียว
ด้านตลาด HANGSENG ถึงแม้เราอาจจะขาดทุนจากหุ้น แต่สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงที่แข็งค่ากว่าเงินบาท ทำให้เราขาดทุนน้อยลง
ถึงตอนนี้ คุณอาจจะคิดอยู่ว่าจะออกไปลงทุนต่างประเทศอย่างไร? ทางไหนดี?
การลงทุนต่างประเทศนั้นทำได้หลายช่องทางอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น
1. ลงทุนผ่านกองทุนรวม (สำหรับมือใหม่ไม่คิดอะไรมาก)
นอกจากกองทุน SSF ซึ่งเป็นที่นิยมกันทุกวันนี้ ยังมีกองทุนที่ไปลงทุนในต่างประเทศที่เขาเรียกกันว่า Foreign Investment Fund (FIF) โดย FIF เป็นช่องทางที่สะดวกในการหาผลตอบแทนจากดัชนีหุ้นต่างประเทศโดยตรงเนื่องจากกองทุน track ดัชนีหุ้นต่างประเทศอยู่ เช่น SCBS&P500 ของ SCBAM ที่ track S&P500 หรือ K-USXNDQ-A(D) ของ KAsset ที่ track NASAQ
2. ลงทุนผ่าน บล./ธพ. (ซื้อหุ้นรายตัว เลือกเอง รวยเอง เจ็บเอง)
สมัยนี้การออกไปซื้อหุ้นต่างประเทศสะดวกสบายกว่าที่เราคิด ผ่านช่องทางของบริษัทหลักทรัพย์และธนาคารพาณิชย์ ปัจจุบันมีหลายเจ้าที่มีบริการ platform ซื้อขาย ให้เราสามารถเลือกซื้อขายหุ้นเองผ่าน internet/mobile trading เหมือน app streaming หุ้นไทยเลยจ้า
3. ลงทุนโดยตรง
(ไปเองไม่ต้องผ่านใคร เพียงลงทะเบียนกับแบงก์ชาติ)
ล่าสุดแบงก์ชาติได้ประกาศขยายเพดานการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยเพิ่มวงเงินให้นักลงทุนรายย่อย หรือคนธรรมดาเช่นเราสามารถออกไปลงทุนโดยตรงได้ถึง 5 ล้าน USD ต่อปี หรือ ประมาณ 150 ล้านบาท
ถึงกระบวนการอาจดูยุ่งยากกว่าการลงทุนผ่าน บล./ธพ. แต่ต้นทุนของการออกไปลงทุนแบบไม่มีตัวกลางอาจต่ำกว่า ซึ่งมีผลมากหากขนาดของเราลงทุนเป็นเงินเยอะระดับหนึ่ง
เรียกได้ว่าไม่มีอะไรขวางกั้นกันแล้วตอนนี้ เราสามารถออกไปลงทุนกันได้อย่างเสรีกันแล้ว ทุกท่านพร้อมจะออกกันไปหรือยังครับ
Source: Page F/X insight


------------------------------------------------------------------------
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"