1:05.....SilverDoctors.....จากบทความล่าสุดของคุณเรื่องที่ ปธน.นิกสันยุติการใช้ทองคำทางการเงินในปี 1971 คุณบอกว่านี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อยากให้คุณช่วยอธิบายว่ามันจะมีผลกระทบต่อการเงินของโลกและทองคำอย่างไร
Egon.....สิ่งที่นิกสันทำเมื่อปี 1971 นั้นไม่ค่อยมีใครรู้ถึงผลของมันในตอนนั้น แต่จีนออกบทความว่านี่คือจุดจบของระบบการเงินของตะวันตก และพวกเขาพูดถูก มันแสดงออกที่ราคาทองคำในช่วงปี '70s ..จาก $35 ไปถึง $850 ต่อออนซ์ ..และซิลเวอร์จากไม่กี่ดอลล่าร์ไปเป็น $50 ..และแน่นอนว่าหนี้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ...ช่วงนั้นเป็นการเริ่มต้นของเงินเฟ้อ เฉพาะที่อังกฤษก็ 17-18% ภายใน 5 ปี และนั่นเป็นการเริ่มของจุดจบการเงินตะวันตกที่จะลามทั่วโลก มันพยุงมาเป็นเวลานานมากจนถึงวันนี้
ราคาทองคำหยุดขึ้นในปี 1980 และมีการทำ correction จนมาเริ่มขึ้นสูงอีกในช่วงปี 2000s ....สิ่งที่เราได้เห็นมาตลอดช่วงนั้นคือการเพิ่มปริมาณเงิน money supply และหนี้อย่างมหาศาล ....หนี้สหรัฐเพิ่มขึ้นสามเท่าตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปี 2006 จากนั้นก็เพิ่มสองเท่าจนถึงวันนี้
วันนี้เรากำลังมาถึงตอนที่ FED กำลัง panic ...และจากรายงานในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม เราพอจะบอกได้ว่า ทั้ง Fed ..ECB ..BoJ รวมถึงจีน ต่างก็บอกว่าเราต้องทำทุกอย่างที่จำเป็นต้องทำเพื่อพยุงระบบนี้ต่อไป ...และเราก็ได้เห็นอัตราดอกเบี้ยเป็นศูนย์และบางแห่งก็ติดลบ ที่แน่ๆเรามีพันธบัตรทั้งโลก $17 ล้านล้านที่ให้ผลตอบแทนเป็นลบอยู่ขณะนี้
เมื่อผมนำไปเทียบกับเหตุการณ์เดือนสิงหาคมปี 1971 ตอนนี้ก็เห็นถึงวาระสุดท้ายของการพิมพ์เงินเพิ่ม money supply แล้ว ...การพิมพ์เงินตอนนี้ไม่ให้ผลอีกเพราะไม่มีพื้นที่เหลืออีกแล้วจากการที่ดอกเบี้ยลงมาติดพื้นแล้ว ....เงินทุกสกุลมูลค่าหายไปถึง 98-99% นับจากปี 1971 เป็นต้นมาเมื่อดอลล่าร์ถูกถอนออกจากการอิงค่าทองคำ ....ภายในห้าปีข้างหน้า 1-2% นั้นก็จะหายไปจนเหลือศูนย์ .....แรกๆเราจะเห็นค่าเงินแต่ละสกุลจะร่วงอย่างรุนแรงแต่ไม่พร้อมกันนัก ดอลล่าร์อาจจะอยู่เป็นรายสุดท้ายหรืออาจเป็นรายแรกก็ได้เพราะมีหนี้มากที่สดในโลก
5:40...SD....ดอลล่าร์คงเป็นผ้าซักที่สกปรกน้อยที่สุดในตะกร้า ....คุณคิดว่าสถานการณ์นี้จะลากยาวไปอีกหลายปีหรือไม่
Egon.....ไม่มีใครรู้ได้แน่นอนหรอก แต่ผมคิดว่าให้ดูที่น้ำหนักที่จะลงไปที่ตลาดบอนด์ หมายถึงนักลงทุนจะหนีออกจากตลาด และจีนเองอาจทำอะไรซักอย่างในตลาดบอนด์ที่เป็นการเอาคืนสงครามการค้าก็ได้ ...ตอนนี้จีนอาจมีทองคำ 20,000 ตัน ในขณะที่ตัวเลขเป็นทางการแค่ 2,000 ตัน แต่อาจทิ้งพันธบัตรสหรัฐเพื่อเก็บทองคำเพิ่มอีก
9:30....SD.....คุณมีความเห็นอย่างไรต่อ gold fever ที่จะเกิดขึ้น จะมาจากพวกสถาบันหรือจากนักลงุทุนรายย่อย นอกเหนือจากการคลังของประเทศต่างๆที่พากันเก็บเป็นรีเสิร์ฟ
Egon.....ที่ว่าคลังของประเทศต่างๆ ไม่มีจากธนาคารกลางของตะวันตกเลยยกเว้นโปแลนด์และฮังการี ...จำนวนมากจะอยู่ในตะวันออก จีน รัสเซีย อินเดีย เตอรกี ฯลฯ ...โลกตะวันตกไม่ค่อยมีผู้เข้าใจทองคำจริงๆ แม้แต่ธนาคารกลางเองก็ขายทองคำออกไปมากในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา
ใช่ ..ที่ว่ามีการซื้อทองคำมากตอนนี้ แต่ยังไม่ใช่ gold rush .....ตอนนี้สวิทเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้ refine ทองคำถึง 70% ของโลกก็ยังมีสต้อกเหลืออยู่ ราคาที่เห็นตอนนี้ก็ยังเป็นราคาในตลาดกระดาษอยู่ มันมีความต่างของจำนวนขายสัญญากระดาษกับ physical มากขึ้น ....และนั่นจะยิ่งเป็นการทำให้ปัญหาใหญ่ขึ้นตอนที่ราคาทองคำ take off จริงๆ ซึ่งน่าจะไม่นาน ...เริ่มต้นจะเห็นจากความพยายามหาทอง physical มาทำ cover สัญญากระดาษที่ขายช้อร์ตเอาไว้ และนั่นจะเป็นการเริ่มของ gold fever
17:05...Egon...ผมเคยให้แนวต้านของราคาทองที่ $1,350 มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ว่าจะ break ภายใน 3-4 เดือน .....ถ้าจะถามถึงราคาสูงสุดของทองคำ ผมคิดว่านั่นไม่สำคัญ ทองเป็นหลักประกันของความมั่งคั่ง มันเป็น money อยู่ในตัวแล้ว..มันไม่ควรจะถูกตีค่าด้วยเงินกระดาษที่ไร้ค่า ไม่ว่าจะดอลล่าร์หรือยูโรที่กำลังเสื่อมค่าลงอยู่ทุกวัน .....ทองคำต่างหากที่เป็นตัวตีค่าว่าสกุลเงินกระดาษพวกนั้นด้อยค่า
คนทั่วไปมักพูดถึงทองคำที่ราคาที่เพิ่มขึ้น นั่นเพราะค่าของเงินเหล่านั้นที่มาตีราคาต่างหากที่สูญไปเรื่อยๆ ...เราจะได้เห็นราคาที่เคยเป็นเมื่อปี 2011 อีกคือ $1,920 ....แต่ตอนนี้หลายประเทศก็ได้เห็นราคาสูงสุดในสกุลเงินของตนไปแล้ว (แต่ไม่ใช่ประเทศไทย)
มันจะขึ้นสูงกว่านั้นไปอีกเรื่อยๆ จนเมื่อถึงคราวเกิด hyperinflation ...คราวนี้คุณก็เติมศูนย์อีกหลายๆตัวเข้าไปในราคาทองคำได้เลย แต่มันก็ไม่มีความหมายแล้วตอนนั้น .....ทองคำจะเป็นตัวกำหนดอำนาจซื้อที่แท้จริง
21:15....SD....คุณจะอธิบายถึงเงินเฟ้อรุนแรง (hyperinflation) อย่างไร
Egon....เราอาจจะต้องพบกับกับเงินฝืด (deflation) และเงินเฟ้อรุนแรง ไปพร้อมกัน เพราะเมื่อทรัพย์สินที่เป็นฟองสบู่เช่นหุ้น พันธบัตร ระเบิดก็จะเกิดเงินฝืดเพราะราคาจะตกรูด ในขณะที่ราคาทรัพย์สินแท้จริงโดยเฉพาะหมวดอาหารจะพุ่งขึ้นเป็นเงินเฟ้อ ...ซึ่งในที่สุดรัฐบาลก็จะแก้ปัญหาโดยการพิมพ์เงินเพิ่มไปอีกจนกลายเป็นเงินเฟ้อรุนแรงจนได้ คราวนี้จะเกิดไปทั่วโลก ....ชีวิตเราจะไม่เป็นอย่างที่เราคุ้นอีกแล้วอย่างน้อยก็ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบใหม่
Cr.Sayan Rujiramora
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you