... ตอนนี้บริบทการเมืองไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศมีแนวโน้มสูงมากที่จะซ้ำรอยเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ" เมื่อปี 1992 หรือ 2535... ตอนนั้นมีการออกแบบวาทะกรรมโดยก๊อกปี้ไร้ท์เตอร์มืออาชีพว่า "พรรคเทพ" กับพรรคมาร"
เป็นสองฝั่งพรรคคือพรรคเทพที่ไม่เอาพรรคทหารหนุนของพล.อ.สุจินดา, อีกฝ่ายรับได้ที่ร่วมกับพรรคที่ทหารหนุนเรียกกรอกหูให้สื่อกระแสหลักเรียกตามว่า "พรรคมาร"
... มาคราวนี้ปี 2562,หรือ 2019 มีการดีไซน์วาระกรรมว่า "ฝ่ายประชาธิปไตย" กับ "ฝ่ายเผด็จการ" เพื่อให้สื่อกรอกหูย้อมสมองชาวบ้านตามนี้ไปทุกวันๆ โดยฝ่ายประชาธิปไตย(เลือกตั้งธิปไตย) ทั้งๆที่ทั้งหมดก็มาจากการหย่อนบัตรเหมือนกัน
... ปี2535, มีการออกวาทะกรรม "นายกต้องเป็น สส.มาจากการเลือกตั้ง" ก็เหมือนครั้งนี้, ครั้งนั้นพล.อ สุจินดาบอกตอนแรกว่าจะไม่รับเป็นนายก แต่ตอนหลังเปลี่ยนคำมารับ ยิ่งทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น
... ครั้งนั้น "พรรคสีฟ้า" ที่เป็นนายหน้าเมกาอกหัก ต้องอยู่เบื้องล่างหมดวาสนา, คราวนี้เขาหมายมั่นปั้นมือมากเพราะจะสกัด "พรรคเขียว" อย่างสุดกำลัง, พรรคฟ้าอาจจะเชื่อมโยงร่วมมือกับม "พรรคแดง" และ "พรรคส้ม" ที่เป็นบริษัทลูกของแดงอีกที, หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พรรคสีฟ้ากลับมาอย่างอาจองหลังการดีไซน์วาทะกรรม "จำลองพาคนไปตาย"
... "ต่างชาติจัดหนักมาก"
... "บริบททางเทคโนโลยี" ในปี2535 เรียกว่า "ม็อบมือถือ" มีการปลุกระดมคนมาต่อต้านได้ผลเร็วผ่านมือถือ เจาะตลาดคนทำงานหนุ่มสาว เป็น"กระแสเกลียดกลัวทหาร", มาปีนี้ "สมาร์โฟนท" ส่งได้มากกว่าทั้งภาพเสียงวีดีโอ4จี ฟูลเอชดี, "กระแสเกลียดกลัวทหารรื้อฟื้นอีกครั้งหนึ่ง" แต่ครั้งนี้ "กลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กเยาวชน" ที่ยังไม่รู้ประวัติศาสตร์มากนัก มีการสร้าง "นักรบไซเบอร์" เพื่อต่อสู้รบรากับฝ่ายทหารอย่างเป็นระบบ, หรือมีการแฮคข้อมูลแก้ไขข้อมูลจากหน้าเพจ กกต.เพื่อให้ดูว่าตั้งใจโกง (หรืออาจจะจริง) เหมือนกับที่ลูกเขยทรัมป์ทำเรื่องนักรบไซเบอร์นี้อย่างจริงจัง จนชนะนางฮิลลารี่เมื่อเกือบสามปีก่อน, ขณะที่ในปี2535 มี "ไอ้แหลมเป็นนักรบไซเบอร์" ที่น่าสงสัยว่าใครอยู่เบื้องหลัง
..."บริบทภายนอก" ครั้ง 2562,2019 นี้ " อิทธิพลจีน" ศัตรูอเมริกา แรงมากกว่าครั้งปี 1992 หรือ 2535 โน้น ที่ตอนนั้น "สงครามเย็น" เพิ่งจบแล้วอเมริกาเลยไม่มีความจำเป็นต้องหนุนรัฐบาลทหารไทยอีกต่อไป (เด็กเยาวชนอาจจะไม่ทราบว่า ตอนสงครามเย็น เช่นสงครามเวียตนามนั่น เมกา นั้น หนุนรัฐบาลทหารไทยแบบสุดตัว ไม่สนใจคำว่ารัฐบาลทหารหรือเผด็จการ, เพื่อหวังใช้ฐานทัพและอำนวยความสะดวกอื่นๆ) อเมริกาสร้างวาทะกรรมใหม่ "เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า" ในสมัยน้าชาติทหารที่สนิทกับเขา แต่โดนสุจินดารัฐประหารเขาเพราะรัฐบาลน้าชาติโกงกินมาก และตัดอำนาจทหารลงเรื่อยๆ เลยโดนรัฐประหาร, เมกาเลยโกรธ ตั้งเป้าล้มสุจินดากับบิ้กจ๊อดให้ได้, เพื่อจะขยายอิทธิพลต่ออาเซี่ยนอินโดจีนแทนคอมมิวนิสต์หลังสงครามเย็น
... ครั้งนี้ 2562, หรือ 2019 อิทธิพลจีนมาก เขาต้องเก็บ"ไทย" เอาไว้ให้ได้สุดชีวิตเหมือน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย เวียตนาม ฟิลิปปินส์ ต้องควบคุมรัฐบาลได้หรืออย่างน้อยต้องคุมทหารในประเทศนั้นได้ เพื่อใช้ฐานทัพเรือสนามบินเพื่อทัพอากาศได้แบบสองประเทศหลัง เอาไว้ปิดล้อมจีนหรือปฏิเสธไม่ร่วมมือกับโครงการที่เกี่ยวข้องกับจีน เช่น "ทางสายไหมใหม่"
... และยังมีบริบทกับพระราชพิธีราชาภิเษกของในหลวงรัชกาลที่สิบด้วย
... สุดท้ายที่สำคัญที่สุด ถ้าจำเป็น เขาอาจจะ "ก่อให้เกิดการประท้วง" ในไทยแบบพฤษภาทมิฬ ภาค2 อีกครั้งค่อนข้างแน่ ถ้าเขาพลาดการจัดตั้งรัฐบาล
... ดังนั้นสิ่งที่สำคัญและน่ากลัวมากที่สุดที่ต้องย้ำกันก็คือ ถ้ามีลูกหลานญาติพี่น้อง โดยเฉพาะวัยเยาว์ที่อารมณ์ร้อนแรงแต่ยังไตร่ตรองข้อมูลเก่าน้อย พยายามอย่าปล่อยให้ออกไปร่วมประท้วงใน "ม็อบต่อต้านทหาร" หรือ "ม็อบชนม็อบ" ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ที่น่าจะมีขึ้นในเร็ววันนี้
... "คุกตรวลแสลง" ในกัมพูชาช่วงสงครามเย็นเขมรสามฝ่ายสอนให้เรารู้ว่า แนวคิดต่างๆทางการเมืองนั้นที่สวยหรูสวยงามนั้น ท้ายที่สุดแล้วสำคัญน้อยกว่าชีวิตผู้คนและความเป็นเอกภาพและความกลมเกลียวของคนในชาติและอธิปไตยของประเทศที่ไร้การแทรกแซงจากต่างชาติ
Cr.Jeerachart Jongsomchai
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/