“อเมริกา ชวนแกมขู่ อิตาลี อย่าร่วมทางสายไหมใหม่กับจีน”

... เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานด้านความมั่นคงของ “อเมริกา” ได้ออกมาชวนให้ “อิตาลี” ประเทศที่มีเอกราชและอธิปไตยของตัวเอง ว่าอย่าไปร่วมการเป็นส่วนหนึ่งของ “ทางสายไหมใหม่” ที่มี “จีน” เป็นผู้นำในการ “เชื่อมเอเชียและยุโรป” เขาด้วยกันและกำลังจะโดดเดี่ยว

“อเมริกา” โดยอเมริกาบอกว่า มันเป็นโครงการที่หยิ่งทะนง ฟุ้งเฟ้อ

... “อิตาลีเป็นประเทศเศรษฐกิจที่สำคัญของโลกและเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่ยอดเยี่ยม จึงไม่จำเป็นสำหรับรัฐบาลอิตาลีที่จะให้ความชอบธรรมกับโครงการที่ฟุ้งเฟ้อ เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานนี้จากจีน” นายการ์เร็ตมาร์กีส์ โฆษกของ “อเมริกา” กล่าวบน Twitter

... โดยการทวิตของโฆษก อเมริกา นั้นก็มีขึ้นไม่นานหลังจากที่ นายกรัฐมนตรี “อิตาลี” นายจูเซปเป้ คอนเต พูดในเดือนมีนาคม2019 ที่ผ่านมา ว่าเขากำลังพิจารณาการลงนามข้อตกลงกับประธานาธิบดีสีจินผิงของ “จีน” แม้จะมีรายงานว่าผู้บริหารของอเมริกา อย่าง โดนัลด์ทรัมป์ เป็นกังวลกับโอกาสของอิตาลีที่เข้าร่วมโครงการนี้อย่างมาก

... โดยลุงสีจิ้นผิง ของ “จีน” จะมาเยือน “อิตาลี” ในระหว่างวันที่ 22 – 24 มีนาคม 2019 นี้ ซึ่งนายกอิตาลีนั้น คาดหวังมากว่าจะมีการหาแนวทางเพื่อลงนามร่วมกับจีนในหลายด้าน

... ก่อนหน้านี้โฆษกของอเมริกานายมาร์ควิส เคยเตือนอิตาลีว่า “โครงการนี้น่าจะไม่นำผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนมาสู่ประชาชนชาวอิตาลี” และ“ อาจกลายเป็นอันตรายต่อชื่อเสียงระดับโลกของอิตาลีในระยะยาว” ( เหมือนขู่ยังไงไม่รู้ ประเทศเลือกตั้งอธิปไตยระดับโลก เขาทำกันแบบนี้ก็ได้หรือ )

... “อเมริกา” พยายามเรียกร้องให้“ พันธมิตรและหุ้นส่วน ทั้งหมดของตนรวมทั้งอิตาลีออกแรงกดดันจีน” โดยอ้างว่าเพื่อนำความพยายามในการลงทุนทั่วโลกให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและแนวทางปฏิบัติขั้นสูง”

... “อิตาลี” นั้น เคยไม่พอใจ “อเมริกา” อย่างมาก เพราะอิตาลีนั้น เคยเป็นเจ้าอาณานิคมของ “ลิเบีย” ระหว่างปี 1910 – 1947 และก่อนที่กัดดาฟี่จะถูกฆ่าตายและโค่นล้มในปี 2011 นั้น อิทธิพลทางการเมืองและการค้าของอิตาลีมีมากมายที่นั่น เช่นการค้าน้ำมัน แต่พอหลังจากกัดดาฟี่สลายไป กลายเป็น ฝรั่งเศส เยอรมัน อเมริกา เข้ามาลงทุนผูกขาดการค้า การลงทุนแทน ที่ยังทำให้อิตาลี ยังไม่พอใจ เหมือนถูกหลอกออกโรงเรียน เจ็บแค้นอเมริกาอยู่จนถึงปัจจุบัน

... ก่อนนั้นในปี 1970 ลิเบีย เคยขับไล่ชาวอิตาลี ออกนอกประเทศไปพร้อมยึดทรัพย์สินของบริษัทอิตาลีทั้งหมดเป็นของรัฐ หลายสิบปีผ่านไป ในวันที่ 30 สิงหาคม 2008 “อิตาลี” ได้ลงนามขอโทษ “ลิเบีย” อย่างเป็นทางการที่ได้กระทำบาปกรรมทำลาย ฆ่าคนมากมายในสมัยอาณานิยม ระหว่าง 1910 – 1947 และได้อนุมัติจ่ายเงินชดเชยมูลค่า 5 พันล้านดอลล่าร์ รวมทั้งความช่วยเหลือจากเวชกรรมสำหรับชาวลิเบียผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามในอดีต รวมทั้งรื้อฟื้นความร่วมมือในหลายด้าน ทั้งทางเศรษฐกิจ ทางวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์

... ต่อมาในสมัย “โมฮัมมา กัดดาฟี่ กับ อิตาลี” นั้น มีการรื้อฟื้นสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก “ลิเบีย” ส่งออกน้ำมันไปขายให้อิตาลี และช่วยใช้มาตราการที่เข้มงวดในการดูแลห้ามคนอพยพจากอาฟริกาไปอิตาลี หรือยุโรป ทำให้อิตาลีตอบแทนลิเบียโดยการให้ความช่วยเหลือมากมาย รวมทั้งการพยายามให้ยูโรปยกเลิกคว่ำบาตรลิเบีย ตามแรงบีบของอเมริกา

... ในปี 2009 กัดดาฟี่ ผู้นำลิเบีย ได้ไปเยือน “อิตาลี” ครั้งแรกในการปกครองลิเบียมากกว่า 40 ปีของเขา แสดงถึงการพยายามจะร่วมมือกันในหลายด้าน แต่สุดท้ายในปี 2011 ถูกสกัดดาวรุ่งเสียก่อน โดยการนำของ “อเมริกา” และบริวารในยุโรป ซึ่งตอนนั้นอิตาลีเองก็ไปถูกหลอกเดินตามยูเอ็นและอเมริกาเองด้วย โดยไปยึดทรัพย์ของกัดดาฟี่และครอบครัวด้วย หลังจากสมัยกัดดาฟี่ ทำให้อิทธิพลของตัวเองในลิเบียค่อยๆลดหายลง แต่อเมริกา เยอรมัน ฝรั่งเศส เข้ามาแทน

... ดังนั้น วันที่ 22 -24 มีนาคม 2019 นี้ ที่ลุงสีจิ้นผิงจะมาเยือน , “อิตาลี” จะได้แสดงความเป็นประเทศที่มีอธิปไตยของตัวเองได้แค่ไหน ต้องคอยดูกัน

.
... A spokesman for the US White House’s national security adviser said on Saturday that the Italian government should not support China's ‘Belt and Road’ infrastructure initiative, calling it a “vanity project.”

... "Italy is a major global economy and great investment destination. No need for the Italian government to lend legitimacy to China's infrastructure vanity project," said US spokesman Garrett Marquis on Twitter.

… On the 30th of August 2008 Italy signed a Treaty confessing to and apologizing for the damages suffered by the Libyan people during the period of Italian colonialism, and that was the first time in history that a country had apologized and compensated (5 Billion Dollars plus the medical care for those who were Harmed from the remnants of colonialism) for its previous colonization

… In 2009, Gaddafi visited Italy for the first time in his 40-year rule.[5] However, when Gaddafi faced a civil war in 2011, Italy imposed a freeze on some Libyan assets linked to him and his family, pursuant to a United Nations-sponsored regime[6] and then bombed the country with the violation of Libya of the No-Fly Zone. After the death of Gaddafi, Italy recognized the National Transitional Council as the government of Libya.

… On 26 September 2011, Italian energy company Eni announced it had restarted oil production in Libya for the first time since the start of the 2011 Libyan civil war. The quick return of Eni to Libyan oilfields reflected the positive relations between Rome and Tripoli under the NTC.[7]

... The Italian embassy in Tripoli is one of the few Western embassies still active in Libya during the Post-civil war violence in Libya due the fact that Italy is the most important trade partner for Libya.[8]

คลิก

คลิก

Cr.Jeerachart Jongsomchai

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"