ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่ม หลังสงครามการค้ามีแนวโน้มคลี่คลายหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 5 มีนาคม 2562+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจีนและสหรัฐฯ
มีแนวโน้มที่จะยุติสงครามการค้า (trade war) ซึ่งการประชุมอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงวันที่ 27 มี.ค. โดยสหรัฐฯ เรียกร้องให้จีนปรับกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิทางปัญญาให้เคร่งครัดมากขึ้น และอาจส่งผลให้สหรัฐฯ มีความมั่นใจที่จะมาลงทุนบริษัทเทคโนโลยีในจีนมากขึ้น และสหรัฐฯ ต้องการในจีนซื้อสินค้าทางการเกษตรและสินค้าโรงงานอื่นๆ อาทิ รถ และเคมีภัณฑ์ ให้มากขึ้น+ รัสเซียวางแผนมี่จะเร่งอัตราการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ โดยในเดือน มี.ค. 62 คาดว่าจะปรับลดกำลังการผลิตลงราว 228,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อเทียบกับระดับเดือน ต.ค. 61- โอเปก (OPEC) และประเทศพันธมิตรคาดว่าจะยังไม่มีข้อตกลงเกี่ยวกับทิศทางการปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมในวันที่ 17-18 เม.ย. ณ กรุงเวียนนา ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด อย่างไรก็ตาม โอเปก (OPEC) และประเทศพันธมิตร จะจัดการประชุมอีกครั้งในวันที่ 25-26 มิ.ย. ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปว่าการปรับลดกำลังการผลิตจะขยายเวลาต่อไปหรือไม่- ลิเบียประกาศยกเลิก force majeure หลุมขุดเจาะ El Sharara ซึ่งเป็นหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เมื่อวันที่ 4 มี.ค. หลังหยุดดำเนินการผลิตตั้งแต่เดือน ธ.ค. 61 จากการยึดครองของกองกำลังกบฏ โดยกำลังการผลิตจะเริ่มที่ 315,000 บาร์เรลต่อวัน ก่อนที่จะปรับเพิ่มสู่ระดับปกติราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานมีแนวโน้มตึงตัวขึ้นหลังโรงกลั่นในไต้หวันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งเริ่มปิดซ่อมบำรุง ซึ่งจะส่งผลให้การผลิตน้ำมันเบนซินออกมาน้อยลงใน 2 เดือนข้างหน้าราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเนื่องจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตามคาดว่าอุปทานของน้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียจะปรับลดลงในช่วงปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นประจำปี
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 54-59 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 63-68 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลปัจจัยที่น่าจับตามองปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดปรับตัวลดลง หลังสหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันดิบน้อยลง เนื่องจาก ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกปรับตัวลดลง ประกอบกับ โรงกลั่นในสหรัฐฯ บางส่วนเริ่มกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันดิบเพื่อไปกลั่นมากขึ้นจับตาการหารือกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพื่อยุติปัญหาสงครามการค้าในช่วงปลายเดือนมี.ค. 62 หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไปจากผลบังคับใช้เดิมในวันที่ 1 มี.ค. 62 ซึ่งหากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยุติลง จะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมันโลกกำลังการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจาก รัฐบาลลิเบียตกลงกับบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC) ที่จะให้แหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Sharara ซึ่งมีกำลังการผลิต 315,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาดำเนินการอีกครั้ง หลังถูกปิดตั้งแต่เดือนธ.ค. 61ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
Cr.ฐานเศรษฐกิจ
สนับสนุนข่าวโดย ICMarkets
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/