(2) ดอลล่าร์: อาวุธทำลายล้างสูงของ Fed เริ่มแล้ว......2019 คงได้เห็นผล

หลังปี 2008 Fed เริ่ม QE โดยการซื้อคืนพันธบัตรจำนวนมากจากแบ้งค์เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แบ้งค์ มากจนถึง $4.5 ล้านล้าน จากแค่ตอนเริ่มต้นที่ $900,000 ล้าน ผลจาก QE คือเงินดอลล่าร์ไหลท่วมตลาดและอัตราดอกเบี้ยลดไปถึงศูนย์

..ทำให้เงินต้นทุนถูกไหลออกไปทั่วโลกกินกำไรส่วนต่างดอกเบี้ยกันถ้วนหน้า มันไปทำให้เกิดจั๊งบอนด์เต็มไปหมดตั้งแต่ภาคการผลิตน้ำมันถึงภาคอสังหาฯ เงินดอลล่าร์เริ่มเข้าสู่ตลาดเสี่ยงมากขึ้นเช่น เตอรกี บราซิล อาร์เจนติน่า อืนโดนีเซีย อินเดีย (แต่ไทยโดนจนเข็ดมาก่อนหน้านั้นแล้ว) ...ดอลล่าร์ไหลเข้าจีนมหาศาลจากการที่เศรษฐกิจบูมมากกว่าทุกประเทศ รวมถึงรัสเซียก่อนที่จะถูกแซงค์ชั่นเมื่อต้นปีนี้ที่ทำเอานักลงทุนพากันหนาว

มาตอนนี้ Fed เริ่มทำ QT ที่มันตรงกันข้ามกับ QE ..ตั้งแต่ปี 2017 Fed ค่อยๆลดการถือครองพันธบัตรที่เท่ากับลดสภาพคล่องให้กับระบบแบ้งกิ้ง และเริ่มดันให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น .....ที่ผ่านๆมามันเป็นเรื่องที่ทำแบบนิ่มๆ ..จนมาเมื่อซัมเมอร์นี้ที่ ปธน. เริ่ม launch สงครามการค้ากับโลก ที่ไปเพิ่มความไม่แน่นอนต่อ ..จีน ..ลาตินอเมริกา ..เตอรกีและอื่นๆ

กฏหมายการเว้นภาษีของทรัมพ์ ไปเพิ่มการขาดดุลงบประมาณขึ้นไปอีกนับพันๆล้านดอลล่าร์ ทำให้ต้องออกพันธบัตรใหม่ที่จ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้น ..ดอกเบี้ยที่สูงเหมือนเป็นแม่เหล็กที่ดูดเอาเงินดอลล่าร์จากทั่วโลกกลับคืนสหรัฐ

ที่เพิ่มความตึงตัวเข้าไปอีกนอกจากแรงกดดันจาก Fed ก็คือ Bank of Japan และธนาคารกลางยุโรปถูกบีบให้ประกาศว่าจะยุติ QE ...ตั้งแต่เดือนมีนาคมมาแล้วโลกเข้าสู่ยุคใหม่ของ QT

ธนาคารกลางทั่วโลกต้องเต้นตามเพลงของ Fed เพิ่มขึ้นมาตลอดตั้งแต่ปี 2008 ..ก็เป็นไปตามที่ Henry Kissinger เคยพูดไว้เมื่อช่วงปี '70s "ถ้าควบคุมการเงินของโลกไว้ได้ คุณก็คุมโลกไว้ได้ทั้งใบ"

A 2019 New Global Crisis?

การหดตัวของปริมาณเงินดอลล่าร์ก่อผลกระทบที่ยังไม่เห็นชัดนักมาเรื่อยๆ ..แต่จากนี้ไปกำลังจะเป็นไปอย่างรุนแรงในไม่ช้า ....balance sheet ในธนาคารกลางของประเทศกลุ่ม G-3 (สหรัฐ ญี่ปุ่น อียู...ผู้แปล) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยแค่ $76,000 ล้านในครึ่งปีแรกของ 2018 เทียบกับ $703,000 ล้านเมิ่อหกเดือนก่อนหน้า ..กองทุนเงินกู้ลดไปถึงเกือบครึ่งล้านล้าน บลูมเบิร์กคาดว่าธนาคารกลางจะยุติการซื้อทรัพย์สินเข้าเหลือศูนย์ภายในปลายปีนี้ จากเกือบ $100,000 ล้านต่อเดือนเมื่อสิ้นปี 2017 ...เท่ากับว่าสภาพคล่องทั่วโลกจะหายไปถึง $1.2 ล้านล้านต่อปีในปีหน้า 2019

เงินลีร่าของเตอรกีตกไปครึ่งหนึ่งตั้งแต่ต้นปีมาเมื่อเทียบกับดอลล่าร์ นั่นหมายถึงเอกชนขนาดใหญ่ของเตอรกีที่เคยกู้เงินดอลล่าร์แบบถูกๆ จะต้องหาเงินดอลล่าร์ที่ราคาสูงขึ้นเท่าตัวเพื่อใช้หนี้คืน หนี้ดอลล่าร์ส่วนใหญ่เป็นของภาคเอกชนประมาณ $300,000 ล้าน เกือบครึ่งของ GDP ของประเทศ ...สภาพคล่องดอลล่าร์ทำให้เศรษฐกิจเตอรกีเติบโตมาตลอดตั้งแต่วิกฤติ 2008 ของสหรัฐ ..ไม่ใช่แค่เตอรกี แต่ยังเป็นไปทั้งเอเซียตั้งแต่ปากีสถานยันถึงเกาหลีใต้ ...ถ้าไม่รวมจีนด้วย เป็นหนี้ถึง $2.1 ล้านล้าน

Fed กำลังจะออกอาวุธยูเอสดอลล่าร์ ในขณะที่เงื่อนไขตอนนี้มีหลายอย่างเหมือนกับเงื่อนไขที่ก่อวิกฤติช่วงปี 1997 ที่เอเซีย (ต้มยำกุ้ง) ..ตอนนี้ขาดแค่กลุ่ม hedge fund ที่เข้าโจมตีเหมือนตอนโจมตีค่าเงินบาทที่ก่อปัญหาไปทั่วเอเซียยันถึงเกาหลีใต้และฮ่องกงเมื่อยี่สิบปีก่อน ...แต่ตอนนี้หวยกำลังจะออกที่เตอรกี

Trade war และนโยบายการลดภาษีของทรัมพ์เป็นบริบทที่ชัดเจนมาก ในยุทธศาสตร์ของ Fed เกี่ยวกับการลดสภาพคล่องดอลล่าร์ เพื่อเตรียมการสำหรับการทำสงครามที่ไม่จำเป็นต้องประกาศ ..แค่ออกมาตรการทางเศรษฐกิจเป็นซีรี่ส์มาต่อกรกับเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของจีน และมาตรการทางการเมืองต่อรัฐบาลเตอรกี ..หรือการแซงค์ชั่นที่ไม่ต้องอ้างเหตุผลต่อรัสเซีย

ประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่เป็นลูกหนี้ดอลล่าร์ จะพากันหนีตายทิ้งเงินสกุลของตนเองแบบเตอรกีจาก panic selling นี่จะเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นจาก dollar shortage

ยุทธศาสตร์ดอลล่าร์ของ Fed ถือเป็น "อาวุธเงียบ" ถ้าได้ผลมันจะทำให้เกิดการชะงักงันในความเป็นอิสระของกลุ่มประเทศในยูเรเซียน รอบๆจีนในโครงการ Belt Road Initiative ....นี่คืออาวุธทำลายล้างสูงที่อยู่ในมือของมหาอำนาจสหรัฐ กลุ่มยูเรเซียเทรดโซน หรือ แม้แต่ ECB พร้อมที่จะรับมือแล้วหรือยัง

F. William Engdahl is strategic risk consultant and lecturer, he holds a degree in politics from Princeton University and is a best-selling author on oil and geopolitics, exclusively for the online magazine “New Eastern Outlook”

From QE to QT…

Cr.Sayan Rujiramora

บทความสนับสนุนโดย FXPro
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"