ราคา Bitcoin ร่วงแรงในช่วงต้นสัปดาห์ หลังไม่สามารถประคองตัวเหนือระดับ 92,000 ดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทรุดลงแตะ 84,000 ดอลลาร์ พร้อมล้างโพซิชั่นเลเวอเรจฝั่ง Long ออกจากตลาดกว่า 388 ล้านดอลลาร์ สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อนักลงทุนทั่วโลก
Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin รายใหญ่ที่สุดของโลก กลายเป็นศูนย์กลางความร้อนแรงอีกครั้ง หลังจาก S&P Global Ratings ประกาศปรับลดคะแนนความสามารถในการตรึงมูลค่า 1 ดอลลาร์ของ USDt ลงสู่ระดับ “Weak” ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดบนสเกลการประเมินของสถาบัน
ธนาคารกลางจีน (PBoC) ส่งสัญญาณแข็งกร้าวอีกครั้งต่ออุตสาหกรรมคริปโต หลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานรัฐกว่า 13 แห่งในกรุงปักกิ่ง โดยย้ำชัดว่า “คริปโตยังคงผิดกฎหมายในจีนแผ่นดินใหญ่” พร้อมประกาศเดินหน้าปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด
ท่ามกลางกระแสที่โลกคริปโตถูกทำให้ “เป็นทางการ” มากขึ้น ไม่ว่าจะผ่านกฎหมาย กลไกตลาดทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันยักษ์ใหญ่ คำถามสำคัญที่ยังไม่เคยหายไปคือ นักลงทุนควร ถือครองคริปโตด้วยตัวเอง (self-custody)
ความผันผวนของราคา Bitcoin ไม่ได้กระทบเพียงฝั่งนักลงทุนเท่านั้น แต่แรงกดดันกำลังกระจายไปถึงผู้ประกอบการเหมืองทั่วโลก เมื่อทั้งค่า Difficulty, Hashprice, ราคาพลังงาน และความเสี่ยงด้านซัพพลายเครื่องขุด ต่างขยับเข้าสู่จุดที่ตึงตัวมากขึ้น
"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"




