เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเกาหลีใต้ หลังสื่อท้องถิ่นรายงานว่า คิม บยองกี (Kim Byung-ki) ผู้นำเสียงข้างมากในสภาแห่งชาติจากพรรค Democratic Party และสมาชิกคณะกรรมาธิการที่มีบทบาทกำกับดูแลหน่วยงานด้านการเงิน กำลังเผชิญคำถามเรื่อง ความขัดแย้งทางผลประโยชน์

(Conflict of Interest) จากกรณีที่เกี่ยวข้องกับบุตรชายและธุรกิจเว็บเทรดคริปโต

รายงานระบุว่า ในช่วงเวลาที่บุตรชายของคิมได้รับตำแหน่งหรือโอกาสเข้าทำงานกับ Bithumb ซึ่งเป็นเว็บเทรดคริปโตรายใหญ่และเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Upbit (ให้บริการโดย Dunamu) ได้เกิดข้อกล่าวหาว่า ทีมงานของคิมในสภาได้รับคำสั่งให้เดินหน้า “โจมตี” Dunamu ผ่านการอภิปรายและตั้งคำถามด้านนโยบาย โดยเฉพาะประเด็น ความเสี่ยงการผูกขาดในตลาดคริปโตเกาหลีใต้

อย่างไรก็ตาม คิม บยองกี ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยยืนยันว่า กระบวนการรับเข้าทำงานของบริษัทเอกชนไม่เกี่ยวข้องกับตัวเขา และแสดงความเสียใจที่บทบาทหน้าที่ในสภาถูกนำไปเชื่อมโยงกับการสมัครงานของบุตรชาย

ด้าน โฆษกของ Bithumb ระบุว่า การรับพนักงานเป็นไปตามขั้นตอนที่โปร่งใส และย้ำว่า การพูดถึงปัญหาการผูกขาดของตลาดคริปโตเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงในสังคมเกาหลีใต้มานานแล้ว ไม่ได้เกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองส่วนบุคคล

ทำไมประเด็น “ผูกขาด Upbit” ถึงถูกจับตาหนักขึ้น

ประเด็นดังกล่าวยิ่งถูกขยายความสนใจ หลังจากก่อนหน้านี้ Naver Financial ในเครือ Naver ประกาศดีลเข้าซื้อหุ้นใน Dunamu มูลค่าราว 15.13 ล้านล้านวอน (ประมาณ 10.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นดีลขนาดใหญ่ที่อาจต้องผ่านการพิจารณาและอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันและการเงิน

เมื่อดีลระดับนี้เกิดขึ้น บทบาทและ อำนาจตลาดของ Upbit ซึ่งครองส่วนแบ่งการซื้อขายคริปโตในประเทศในระดับสูง จึงถูกจับตาอย่างเข้มข้นมากขึ้น และทำให้ข้อกล่าวหาเรื่องการใช้บทบาททางการเมืองเพื่อกดดันหรือกระทบคู่แข่งทางธุรกิจ ถูกตั้งคำถามในวงกว้าง

ประเด็นที่ตลาดกังวล: “การกำกับดูแล” ต้องไม่ถูกครอบงำ

แก่นของปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าใครถูกหรือผิด แต่คือ ความเชื่อมั่นต่อระบบกำกับดูแลคริปโตของเกาหลีใต้ ว่าการตรวจสอบผู้เล่นรายใหญ่จะดำเนินไปอย่างเป็นธรรม เป็นอิสระ และไม่ถูกชี้นำด้วยผลประโยชน์ของบุคคล ครอบครัว หรือกลุ่มอำนาจใด ๆ โดยเฉพาะเมื่อผู้ถูกตั้งคำถามดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการที่ดูแลภาคการเงินโดยตรง

ประเด็นที่ต้องจับตาต่อจากนี้

• จะมีการเปิดกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือจริยธรรมในสภาเพิ่มเติมหรือไม่

• การพิจารณาดีล Naver–Dunamu จะถูกกำหนดเงื่อนไขด้านการแข่งขันทางการค้าหรือไม่

• ท่าทีของเว็บเทรดรายใหญ่ ทั้ง Upbit และ Bithumb ต่อการสร้างความเชื่อมั่นของผู้ใช้งานและภาคกำกับดูแล

บริบทใหญ่: เกาหลีใต้ยัง “คุยไม่ลงตัว” เรื่องกฎหมาย Stablecoin วอน

ในภาพรวมด้านนโยบาย รายงานจากหลายสำนักชี้ว่า เกาหลีใต้ยังอยู่ระหว่างการถกเถียงอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับ กรอบกฎหมายกำกับ Stablecoin ที่ผูกกับเงินวอน (KRW Stablecoin) โดยเฉพาะบทบาทของธนาคารพาณิชย์และธนาคารกลาง ส่งผลให้กระบวนการร่างกฎหมายมีความล่าช้า และอาจถูกเลื่อนกรอบเวลาไปถึงช่วงต้นปี 2026

สถานการณ์นี้ยิ่งทำให้ประเด็น ธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และความเป็นอิสระของผู้กำกับดูแลตลาดคริปโต ถูกจับตาเป็นพิเศษ ในช่วงเวลาที่เกาหลีใต้กำลังจะวางกติกาใหม่สำหรับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งระบบ