โดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวอีกครั้งด้วยนโยบายเศรษฐกิจในประเทศและมาตรการภาษี “ชั่วคราว” นักวิเคราะห์วอลสตรีท ชาวร์ล โอเท็ลกล่าวว่า ภาวะค่าเงินดอลลาร์ที่ตกฮวบเมื่อไม่นานมานี้ไม่ได้เกิดจากสงครามการค้าของสหรัฐฯ
แต่เกิดจากกลยุทธ์เศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอ ทว่าขณะนี้ ค่าเงินกำลังแข็งตัวขึ้นอีกครั้งท่ามกลางการเติบโตใน GDP ของสหรัฐฯ กับเศรษฐกิจโลกที่ปั่นป่วนจากสงครามการค้าและมาตรการคว่ำบาตรของทรัมป์
ค่าเงินเรียล อิหร่านลดมูลค่าลง 50% ตั้งแต่ต้นปี วิกฤตเงินลีราของตุรกีก็อาจลุกเป็นไฟลามใส่ยูโร ส่วนเงินรูเบิลของรัสเซียและเงินหยวนของจีนต่างก็อ่อนตัวลงเช่นกัน
นักวิเคราะห์เถียงว่า สหรัฐฯและทั้งโลก “จะขึ้นถ้าเราลดถอนการใช้เงินในระบบกระทรวง แต่อุทิศให้การ ‘บริหาร’ ภาคส่วนทั่วโลกแทน” ความผิดพลาดในนโยบายเศรษฐกิจเป็นส่วนสำคัญที่สั่นคลอนค่าเงิน ไม่ใช่การกระทำของทรัมป์
นักวิเคราะห์ยืนยันว่ามาตรการภาษีของทรัมป์ออกแบบมาเพื่อใช้ชั่วคราวเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรมของชาติที่เข้าถึงตลาดสหรัฐฯ และในขณะเดียวกันทำให้ผู้ส่งออกสหรัฐฯลำบาก ในปี 2014 นักวิเคราะห์ผู้นี้ได้ย้ำความสำคัญที่จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์เป็น “สกุลเงินที่แข็งแรงที่สุดในโลก” อีกครั้ง
"ภายใต้ประธานาธิบดีทรัมป์ สหรัฐฯได้เริ่มเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ไม่ดีต่างๆซึ่งลดความดึงดูดในการลงทุนภายในประเทศ” การปฏิรูปนโยบายเช่น การลดอัตราภาษีองค์กรและรายได้ส่วนบุคคล การกำจัดข้อบังคับต่างๆ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดโครงการการลงทุนมากมาย และโครงการส่วนใหญ่มีเป้าหมายคือผู้บริโภคในอเมริกาซึ่งเป็นตลาดผสมผสานที่ใหญ่สุดในโลกตอนนี้
ตรงกันข้ามกับยุโรปที่ยังคงยึดกับนโยบายที่ทำลายการเจริญเติบโต และยึดติดกับข้อบังคับ ระบบราชการ และภาษี ในขณะที่ตนแบกภาระของประชากรผู้สูงอายุท่ามกลางประชากรวัยทำงานหรือหนุ่มสาวลดน้อยลง
ส่วน ตุรกี อิหร่าน จีน และรัสเซียพึ่งพาการใช้เงินสกุลในประเทศ และรัฐบาลเตหะรานหันไปพึ่งทองคำแทนเงินดอลลาร์ นักวิเคราะห์กล่าวว่า กระแสเหล่านี้อาจคุกคามค่าเงินดอลลาร์ได้สักวันหนึ่ง แต่จะต้องใช้เวลาหลายปีและจะต้องมีนโยบายเศรษฐกิจที่มั่นคงถึงจะส่งผลกระทบอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม อียูมีทีท่าสนับสนุนตุรกีและไม่พอใจกับนโยบายภาษีของทรัมป์ที่ทำให้วิกฤตเงินตุรกีแย่ยิ่งขึ้น ตั้งแต่ต้นปี 2018 ค่าเงินตุรกีลดลง 40% ทำให้ธนาคารยุโรปใต้และนักลงทุนเยอรมันหวาดกลัว
นักวิเคราะห์เชื่อว่า จะมีความเป็นไปได้น้อยที่ อียู ตุรกี และจีนจะร่วมมือกันต่อต้านนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เนื่องจากความยากลำบากด้านเศรษฐกิจและการเงินที่แต่ละประเทศกำลังเผชิญ
"หากมองที่ปริมาณ เศรษฐกิจอเมริกาและผู้บริโภคของเรายังคงอันดับหนึ่ง หากต้องเลือก นักลงทุนต่างๆน่าจะเลือกแข่งขันในสหรัฐฯมากกว่าที่อื่น”
https://sputniknews.com/analysis/201808211067343969-us-dollar-gold/
RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : หมี CNN
บทความสนับสนุนโดย FXPro
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman