เมื่อรัสเซียทิ้งการคลังสหรัฐ แล้วใครที่ต้องรับผิดชอบหนี้อเมริกา?

หนี้สหรัฐที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ในขณะมากกว่า 21 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสื่อส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับผู้ถือหุ้นการคลังสหรัฐที่เป็นคนต่างชาติ โดยทั้งหมดถือเป็นสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 30 ของทั้งหมด

และล่าสุดรัสเซียได้หลุดจากสุดยอด 10 อันดับผู้ถือหุ้นของกระทรวงการคลังสหรัฐ จากการที่มูลค่าถือหุ้นของรัสเซียร่วงจาก 96.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนมีนาคม เหลือเพียง 14.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในเดือนพฤษภาคม อ้างอิงจากสถิติล่าสุดของกระทรวงการคลังสหรัฐ รัสเซียได้ตกจาก 33 อันดับชาวต่างชาติที่ถือหุ้นของกระทรวงการคลังสหรัฐมากที่สุด

การลดปริมาณหุ้นที่รัสเซียถือ เกิดขึ้นเนื่องจากการประเมินความเสี่ยงด้านการเงิน เศรษฐกิจ และภูมิศาสตร์การเมือง โดยเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางรัสเซียระบุว่า การสะสมทองคำจะช่วยให้รัสเซียสามารถกระจายความเสี่ยงได้

แม้ว่าภัยคุกคามจากสงครามการค้าจะยกระดับมากขึ้น จีนยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งของกระทรวงการคลังสหรัฐ ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า หุ้นที่จีนถือครองเพิ่มขึ้นจาก 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนพฤษภาคม เป็น 1.183 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และยังคงมูลค่าในระดับดังกล่าวตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่แล้ว

ในขณะที่ญี่ปุ่น ที่แม้จะมีการลดปริมาณหุ้นที่ถือครองตามระบบ แต่ก็ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของสหรัฐ โดยในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้ลดปริมาณหุ้นที่ถือครองเหลือ 1.031 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งแตะต่ำสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2011 แต่ได้เพิ่มปริมาณหุ้นอีก 17.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ กลายเป็น 1.049 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในเดือนพฤษภาคม

นอกจากจีนและญี่ปุ่นแล้ว ในอันดับที่เหลือยังประกอบไปด้วยประเทศ ต่าง ๆ เช่น บราซิล อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ ลักซัมเบิร์ก เป็นต้น

https://www.rt.com/business/434111-russia-dumps-treasuries-creditors/ 

RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : หมี CNN

บทความสนับสนุนโดย FXPro
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"