เราได้มุมมองและบทเรียนที่มากมายจากเรื่องเด็กนักฟุตบอล13คนของทีมหมูป่าติดถ้ำ เช่น บางคนมองเป็นเรื่องอุบัติเหตุ บางคนมองว่าเป็นความผิดของเด็กที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน, บางคนบอกว่าถึงเป็นอุบัติเหตุเด็กก็ควรจะขอโทษสังคมบ้าง
ที่ทำให้พ่อแม่พี่น้องสังคมทั้งประเทศเป็นห่วง เหมือนแอบหนีไปเที่ยวเล่นซ่อนหากับเพื่อน, นั่นก็ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เอาตามพอสมควรเพราะถ้าเด็กรู้สึกผิดเกินไปอาจจะซึมเศร้ารู้สึกว่าตัวเองผิดมากจนหดหู่เตลิดได้
อาจจะมีการตักเตือนว่ากล่าวบ้างตามความพอดีเพราะโทษการเที่ยวป่าที่ไม่ระวัง หรือเด็กเล่นตู้ไมโครเวป หรือเล่นคอมพิวเตอร์พ่อพังเพราะอยากรู้อยากเห็น ไม่ควรถูกดุด่าทำโทษเท่ากับการที่เด็กแอบเสพยาบ้าหรือขโมยของจากร้านขายของ
... มุมที่ต้องแก้ไข ของผู้ใหญ่เองก็มี เช่นต้องมีระบบการจัดการสถานที่อุทยานท่องเที่ยวให้ปลอดภัยมากขึ้น เช่นเวียตนามบางถ้ำในฮาลองเบย์ เขาจะกั้นให้ไปได้แค่ไหน ส่วนที่อันตรายเขาไม่เปิดให้เขาไปชม กั้นไว้เลย
... เหนือสิ่งอื่นใด พ่อแม่และคนไทยทุกคนควรเอาโอกาศนี้สอนเด็กๆโดยเฉพาะเยาวชนว่า "ชีวิตของพวกเขามีความหมายมากแค่ไหน?"
... เมื่อเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเขาจะรักการมีชีวิตมากขึ้นพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่สุ่มเสี่ยงก็จะน้อยลง และความมองเห็นในความรักและห่วงใยจากคนที่เขาคิดว่าไม่ได้สนใจเขาเลยจะมีมากขึ้นเขาจะมาสนใจความรู้สึกคนเหล่านั้นมากขึ้น
... พี่ที่เคยทำงานด้วยกันที่เขาหลักพังงาก่อนนั้นก็ห้าวๆตามบุคลิกคนทำงานก่อสร้างแต่พอผ่านรอดชีวิตจากสึนามิที่เขาหลักพังงาได้พี่แก่เปลี่ยนไปมาก มีครั้งหนึ่งที่แกย้ายมาทำงานอีกไซท์งานที่ภูเก็ตและเกิดแผ่นดินไหวและมีการออกข่าวเตือนแกเป็นคนแรกๆที่วิ่งออกจากตัวอาคารที่พักเพราะกลัวตึกถล่ม เพราะแกห่วงชีวิตมากขึ้น
... ถ้าพ่อแม่ทุกคนเอาบทเรียนนี้มาสั่งสอนลูกทั่วประเทศ เชื่ือว่าพฤติกรรมเด็กไทยน่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เด็กห้าวๆที่ทำอะไรสุ่มเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของตัวเอง ของผู้อื่นอาจจะน้อยลง
... และถ้าเด็กไทยเยาวชนไทยหรือแม้แต่ผู้ใหญ่ที่ยังห้าวเหมือนเด็กอาจจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และเมื่อนั้นสังคมไทยจะสงบสุขมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
Cr.Jeerachart Jongsomchai
บทความสนับสนุนโดย FXPro
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman