สงครามแร่หายากปะทุ! จีนปิดวาล์วส่งออก เขย่าระบบดอลลาร์ — Bitcoin ผงาด

Luke Gromen นักวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคชื่อดัง ออกมาเตือนว่า การที่จีนประกาศ ควบคุมการส่งออกแร่หายาก (Rare Earth Minerals) ถือเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” ที่อาจเร่งให้ ยุคแห่งการครองโลกของดอลลาร์สหรัฐ (USD Hegemony) สิ้นสุดลงเร็วกว่าที่คาดไว้

 ในรายการ Truth For the Commoner ของ Marty Bent, Gromen ระบุว่า มาตรการดังกล่าวเป็น “การตอบโต้เชิงยุทธศาสตร์” ของจีนต่อสหรัฐฯ โดยเฉพาะต่ออุตสาหกรรมทหารและเทคโนโลยีขั้นสูงที่พึ่งพาแร่หายากเป็นหลัก

“จีนเพิ่งสั่งห้ามขายแร่หายากให้กับอุตสาหกรรมทหารของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกหลักที่ค้ำค่าดอลลาร์ผ่านอำนาจทางทหาร” — Gromen กล่าว

ดอลลาร์อ่อนแรง — จีนถือไพ่เหนือกว่า

หลังคำสั่งแบนส่งออกมีผล ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 100% แต่ Gromen ชี้ว่านี่คือ “สัญญาณของการยอมรับทางอ้อม” ว่าจีนกำลังมีอำนาจต่อรองเหนือกว่าสหรัฐฯ

“ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ใครแตะต้องระบบดอลลาร์ สหรัฐฯ จะใช้กำลังทางทหารตอบโต้ เหมือนที่เคยเกิดกับซัดดัม ฮุสเซน และกัดดาฟี” — เขากล่าว

ข้อมูลจาก Reuters ระบุว่า ปัจจุบันจีนผลิตแร่หายากมากกว่า 90% ของทั้งโลก และเป็นผู้ผลิต แม่เหล็ก Rare Earth Magnets ที่จำเป็นต่อทั้งอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และการทหาร ซึ่งทำให้จีนมี “อำนาจชี้ชะตา” ต่อห่วงโซ่อุปทานโลก

Gromen มองว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะ “เปลี่ยนโครงสร้างระบบการเงินโลกทั้งระบบ” โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ ไม่สามารถใช้ “อำนาจดอลลาร์” ควบคุมโลกได้เช่นเดิม

Hard Money คือคำตอบ — ทองคำและ Bitcoin จะกลับมาผงาด

Gromen ระบุว่า ทางรอดของระบบการเงินในอนาคตไม่ใช่การพิมพ์เงินเพิ่ม แต่คือการกลับไปสู่ มาตรฐานเงินแข็ง (Hard Money Standard)

“Bitcoin คือสินทรัพย์ Hard Money ที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจที่กำลังป่วยไข้ของสหรัฐฯ”

เขาคาดว่า ราคาทองคำและ Bitcoin จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เมื่อผู้คนทั่วโลกเร่งหาทรัพย์สินที่รักษามูลค่าได้จริง ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของดอลลาร์

ในทางกลับกัน Gromen แสดงความสงสัยต่อแนวคิดการใช้ Stablecoin เพื่อรักษาอิทธิพลของดอลลาร์ โดยมองว่าเป็นเพียง “การแก้ปัญหาชั่วคราว” ที่ไม่แตะถึง “รากของปัญหา” ซึ่งคือ การพิมพ์เงินเกินตัวและหนี้สินที่พุ่งทะลุเพดาน

ดอลลาร์ปี 2025: อ่อนค่าหนักสุดในรอบกว่า 50 ปี

รายงานจาก The Kobeissi Letter เสริมว่า ดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังมุ่งหน้าสู่ปีที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่ปี 1973 โดยอ่อนค่าลงมากกว่า 10% ตั้งแต่ต้นปี และสูญเสียอำนาจซื้อไปแล้วกว่า 40% นับตั้งแต่ปี 2000

“การอ่อนค่าของดอลลาร์หมายความว่าราคาสินทรัพย์ทุกประเภทจะยังคงพุ่งขึ้น นักลงทุนจะเร่งหาที่หลบภัยเพื่อรักษามูลค่าทรัพย์สิน” — The Kobeissi Letter เขียน

ดอลลาร์สิ้นยุค — Bitcoin เข้าสู่เวทีประวัติศาสตร์

นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่า มาตรการของจีนครั้งนี้ไม่ใช่เพียง “สงครามการค้า” แต่เป็น “สงครามการเงินโลก” (Global Financial War) ที่อาจเขย่าระบบทุนโลกให้ต้องปรับสมดุลใหม่ทั้งหมด

ในขณะที่ ทองคำและ Bitcoin ทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง การถือ “สินทรัพย์จริง” ที่ไม่ขึ้นอยู่กับสกุลเงินใด กำลังกลายเป็นคำตอบเดียวของนักลงทุนทั่วโลกในยุคที่ ดอลลาร์กำลังหมดอำนาจ

คลิก

Cr.cointelegraph

-----------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"