หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ หลายตลาดภูมิภาคหยุด-รอผลประชุมเฟด จับตาครม.นัดแรก

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA จาก บล.ทิสโก้ คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะมีการแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากหลายตลาดในเอเชียปิดทำการในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ทำให้บรรยากาศการซื้อขายค่อนข้างเงียบเหงา นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

โดยมีความคาดหวังเพิ่มขึ้น 60% ว่าเฟดอาจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% อย่างไรก็ตาม บล.ทิสโก้ คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ อาจสร้างความผันผวนในตลาดหรือเกิดแรงขายทำกำไรได้

สำหรับปัจจัยในประเทศ นักลงทุนควรติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก โดยคาดว่ามีโอกาสอนุมัติงบประมาณเพื่อฟื้นฟูน้ำท่วมและโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จึงแนะนำให้เก็งกำไรในหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างและค้าปลีกที่น่าจะได้รับประโยชน์จากนโยบายเหล่านี้

แนวรับของตลาดอยู่ที่ 1,425-1,420 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,440-1,450 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  1. ตลาดหุ้นต่างประเทศ:

    • ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในส่วนของดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 แต่ Nasdaq ปิดลบ ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 41,622.08 จุด (+0.55%) ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,633.09 จุด (+0.13%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,592.13 จุด (-0.52%).
    • ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย โดยดัชนีนิกเกอิในโตเกียวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนฮั่งเส็งในฮ่องกงปรับตัวลดลง ตลาดหุ้นจีนปิดทำการเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์.
  2. ตลาดหุ้นไทย:

    • ตลาดหุ้นไทยปิดบวกล่าสุดที่ 1,435.53 จุด (+0.78%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 61,118.04 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 395.71 ล้านบาท.
    • แนวโน้มตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการประชุม ครม. ที่มีการอนุมัติแผนฟื้นฟูน้ำท่วมและโครงการดิจิทัลวอลเล็ต.
  3. ปัจจัยเศรษฐกิจสำคัญ:

    • ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับเพิ่มขึ้น 2.1% ปิดที่ 70.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน.
    • การประชุมเฟดที่รอผลเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะมีผลต่อตลาดและการเคลื่อนไหวของเงินบาท.
  4. โครงการรัฐบาล:

    • การประชุม ครม. นัดแรก มีการพิจารณาโครงการดิจิทัลวอลเล็ตและงบฟื้นฟูน้ำท่วม ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนกลุ่มวัสดุก่อสร้างและค้าปลีก.
    • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีเป้าหมายเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวไทยเป็น 3 ล้านล้านบาทภายในปี 2567.

หุ้นเด่นวันนี้:

  1. AAV (กสิกรไทย) ราคาเป้าหมาย 3.22 บาท: คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลงและการแข่งขันที่น้อยลง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/67 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว.

  2. SAWAD (คิงส์ฟอร์ด) ราคาเป้าหมาย 37.50 บาท: แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในครึ่งปีหลังมีโอกาสเติบโตจากการกระตุ้นเศรษฐกิจและโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟสแรก. คาดการณ์กำไรปี 2567-2568 จะเติบโตต่อเนื่อง.

  3. CPALL (อินโนเวสท์เอกซ์): กำไรคาดว่าจะเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งหลังของปี โดยเฉพาะในไตรมาส 4/67 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ. Valuation ยังน่าสนใจที่ระดับ PER 25 เท่า.

คลิก

Cr.สำนักข่าวอินโฟเควสท์

----------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"