ดอลลาร์สูญเสียมูลค่ากว่า 96% นับตั้งแต่ Fed เกิดขึ้นมา 109 ปี คริปโตจะเป็นทางออกหรือไม่

เงินดอลลาร์สหรัฐสูญเสียกำลังซื้อไปมากกว่า 96% ในช่วงปี 1913-2017 อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นมาจากอุปทานของดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการพิมพ์เงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed จากเงิน 1 ดอลลาร์ ที่สามารถนำไปซื้อเบียร์ได้ถึง 10 ขวดในปี 1933

สามารถนำไปซื้อได้เพียงกาแฟ 1 แก้วเท่านั้นในวันนี้ นักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างแสดงความเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่อาจเป็นทางออกในโลกอนาคต
อำนาจซื้อ (Purchasing Power) ของดอลลาร์ลดลงจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทุกปี
ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ถูกก่อตั้งมาเป็นเวลา 109 ปีแล้ว และค่าเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินหลักของโลกก็มีมูลค่าลดลงมากกว่า 96% ข้อมูลในอดีตที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ดอลลาร์สูญเสียกำลังซื้อไปมากกว่า 96% ในช่วงปี 1913-2017 โดย 1 ดอลลาร์ในปี 1913 เท่ากับกำลังซื้อประมาณ 30.07 ดอลลาร์ในปัจจุบัน เนื่องจากดอลลาร์มีอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยที่ 3.17% ต่อปี ทำให้จนถึงปัจจุบันนี้คิดเป็นเงินเฟ้อสะสมมากถึง 2,907.18% เลยทีเดียว
อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นมาจากอุปทานของดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากการพิมพ์เงินของ Fed โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จากเงิน 1 ดอลลาร์ ที่สามารถนำไปซื้อเบียร์ได้ถึง 10 ขวดในปี 1933 สามารถนำไปซื้อได้เพียงกาแฟ 1 แก้วในวันนี้
การระบาดของโควิดทำให้สหรัฐฯ พิมพ์เงินออกมามหาศาลเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดย 80% ของดอลลาร์ทั้งหมดถูกพิมพ์ออกมาในช่วงเดือนมกราคม 2020 ถึงเดือนตุลาคม 2021
อุปทานที่ไม่จำกัดของเงินดอลลาร์ทำให้หลายคนสนับสนุนสินทรัพย์อื่น เช่น ทองคำหรือสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากมีอุปทานที่จำกัดและไม่สามารถพิมพ์ออกมาได้ตามใจ
Bitcoin จะเป็นทางออกหรือไม่?
ค่าเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินหลักของโลกมีมูลค่าลดลงมากกว่า 96% ในช่วง 109 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ถือกำเนิดขึ้น
Friedrich A. Hayek นักเศรษฐศาสตร์ได้วิเคราะห์ว่า แม้ทองคำและเงินจะมีมูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic Value) แต่มีความยุ่งยากในการจัดเก็บมากกว่า ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin (BTC) พกพาได้ง่ายและมีต้นทุนในการดำเนินการที่ถูกกว่า
Mark Cuban นักลงทุนชื่อดัง ได้ให้สัมภาษณ์ล่าสุด (27 ธันวาคม) ว่าเขามีมุมมองที่ดีต่อ Bitcoin และหวังว่าราคาจะลดลงไปมากกว่านี้ เพื่อที่เขาจะได้ซื้อเพิ่ม นอกจากนี้เขายังคิดว่า BTC เป็นที่เก็บมูลค่า (Store of Value) ที่ดีกว่าทองคำอีกด้วย และในตอนนี้ก็เป็นช่วงเริ่มต้นเท่านั้น เปรียบเสมือนจุดเร่ิมต้นของอินเทอร์เน็ตในยุค 90
อย่างไรก็ตาม Peter Schiff ผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักลงทุนทองคำตัวยง และทำนายถูกต้องเกี่ยวกับการล่มสลายของตลาดที่อยู่อาศัยเมื่อปี 2008 และอัตราเงินเฟ้อที่สูงในปี 2022 กล่าวว่า ทองคำไม่เคยล้มเหลวในฐานะสกุลเงินเป็นเวลานานกว่าหลายพันปีแล้ว แม้ว่ารัฐบาลและเงินกระดาษจะล้มเหลว แต่ไม่ใช่ทองคำ ในทางตรงกันข้าม Bitcoin ยังไม่ประสบความสำเร็จในฐานะเงินด้วยซ้ำ และจะไม่มีวันสำเร็จ เขายังเผยอีกว่า การขาย BTC จะเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในตอนนี้
ไม่ว่า Bitcoin จะมีโอกาสมาแทนที่สกุลเงินดอลลาร์หรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 จะยังมีหนทางอีกยาวไกลที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องกฎระเบียบ การกำกับดูแล รวมถึงความปลอดภัยในการจัดเก็บอีกด้วย
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
Source: Standard Wealth

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"