ธปท.ย้ำยังไม่เปลี่ยนทิศทางการดำเนินนโยบายการเงิน หลังมุมมองเศรษฐกิจไทย เงินเฟ้อยังคงเดิม แม้มีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกถดถอยมากขึ้น ไม่หวั่นวิกฤติในประเทศเกิดใหม่ เชื่อนักลงทุนแยกแยะ ไม่เหมารวบ ย้ำเงินบาทไทย ยังเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มภูมิภาค
ภายใต้โอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยของโลกที่มีความเสี่ยงสูงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เสาหลักอย่างธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ยังมองว่า เศรษฐกิจไทยยังสามารถเอาตัวรอด และสามารถฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ทำให้มีการประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ปีนี้ที่ 3.3%และปีหน้าที่ 3.8%
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า โอกาสการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยของโลก มีการพูดถึงค่อนข้างมากในเวทีโลก ร่วมถึงเงินเฟ้อที่หนืด และลงช้ากว่าที่คิด ซึ่งภาพของโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยของโลก เป็นภาพที่ธปท.คาดการณ์ไว้อยู่แล้วทำให้ การประเมินภาพเศรษฐกิจไทยที่ผ่านมา ธปท.มีการปรับตัวเลขส่งออกลดลง จากปีนี้ที่คาดว่าส่งออกขยายตัวที่ 8% แต่ปีหน้าธปท.ปรับตัวเลขส่งออกลดลงเหลือ 1% จากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ดังนั้นตัวเลขเหล่านี้ได้ถูกรับรู้ผ่านการปรับประมาณการณ์ไปแล้ว
ส่วนภาพการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก จะทำให้เศรษฐกิจไทย ไม่ฟื้นตัวแบบที่คิดหรือไม่ ขอตอบว่าไม่ ตามการคาดการณ์ของธปท.เศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัว 3.3% ปีหน้า ขยายตัว 3.8%
แม้ปีหน้าการเติบโตเศรษฐกิจจะน้อยกว่า 3.8% ก็ได้ แต่การฟื้นตัวเศรษฐกิจจะยังมีต่อเนื่อง ไม่ได้เปลี่ยนจากที่คาดการณ์ไว้
แต่ตัวที่กระทบต่อการคาดการณ์ธปท. คือภาคท่องเที่ยว หากไม่กลับมาเหมือนที่คาด จะทำให้การประเมินเศรษฐกิจของธปท.เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการฟื้นตัวของท่องเที่ยว เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ปีหน้านักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 20ล้านคน
“วันนี้ภาพรวมเศรษฐกิจยังเป็นไปตามที่ธปท.คาดการณ์ไว้ แต่เราก็ไม่ได้ชะล่าใจ เรามีการรีเช็ค มีการทบทวน assumption เราตลอดเวลา และตัวที่มองไว้ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง เช่นเงินเฟ้อ ก็ยังมั่นใจว่าจะเข้ากรอบ ในปี 66 และเฮดไลน์ก็จะลดลง และเข้ากรอบได้ปีหน้า ดังนั้นต้องรีเชค สมมุติฐานตลอดเวลา หากตรงนั้นเปลี่ยนเราก็พร้อมปรับนโบบายการเงิน แต่ตอนนี้ยังดูสอดคล้องกับที่มองไว้”
อย่างไรก็ตาม การปรับนโยบายการเงิน ธปท.ประเมินสถานการณ์จาก ข้อมูลต่างๆที่ออกมา หรือ Data dependent ซึ่งไม่ใช่ดูเฉพาะวันนี้ แต่มองไปข้างหน้าด้วย ว่าเป็นอย่างไร ต่างกับที่ประเมินไว้หรือไม่ เพราะธปท.รู้ดีกว่า นโนบายต่างๆ ที่ทำอาจใช้เวลานานกว่าจะมีผล
นอกจากนี้ หากดูการดำเนินโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักหลายประเทศ มีการขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงเนื่องจากเงินเฟ้อสูง กลายเป็นว่า overact เร็ว เพื่อให้มีผลทันที ทำให้ดูเหมือนว่า overact เร็วเกินไป เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ
แต่เงินเฟ้อของไทย ที่มาจากอุปสงค์ไม่ได้ชัดเจน ทำให้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำทำนโยบายการเงินแบบเร็วและแรงแบบหลายประเทศ
อย่างไรก็ตาม พบว่า แม้มีความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกถดถอยมากขึ้น หรือโอกาสเกิดวิกฤติในประเทศเกิดใหม่ ใน Emerging Market แต่นักลงทุนไม่ได้กังวลมากนัก แต่ครั้งนี้ ให้น้ำหนักไปที่ปัญหา จากประเทศญี่ปุ่น อังกฤษ ยุโรปมากกว่า
อีกทั้งพบว่า นักลงทุนมีการแยกแยะมากขึ้น เมื่อเกิดวิกฤติในประเทศเกิดใหม่ๆ ไม่ได้เหมารวมว่าประเทศใน Emerging Market ทั้งหมดมีปัญหาไปด้วย ต่างกับอดีต เมื่อมีเกิดวิกฤติที่ประเทศใดประเทศหนึ่ง ความกังวลมักลามไปหลายประเทศด้วย
ดังนั้นภาพวันนี้ การมองภาพของเศรษฐกิจในประเทศ EM ไม่ได้แย่ หากเทียบกับฝั่งประเทศยุโรป ดังนั้นกรณีที่ เวียดนาม กำลังเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อ ค่าเงินอ่อนค่าแรง และทุนสำรองลดลงมาก ทำให้ต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยนั้น เชื่อว่า คงไม่มีผลกะทบต่อไทย แม้จะมีผลบ้างระยะสั้นๆ แต่มองว่าจะไม่ถูกผลกระทบหนัก
เงินบาทเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มภูมิภาค
เศรษฐพุฒิ กล่าวต่อว่า การเคลื่อนไหวของเงินบาท ยังอินไลน์ หรือยังเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มภูมิภาค โดยยังไม่เห็นเงินทุนเคลื่อนย้ายที่ผิดปกติจากกลุ่ม ซึ่งค่าเงินบาท ถือว่าอ่อนค่าระดับกลางๆหากเทียบกับภูมิภาค
ส่วนการป้องกันความเสี่ยง หรือการทำเฮดจิ้ง ในปัจจุบัน ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นเท่าที่ธปท.อยากเห็น ส่วนหนึ่งมาจากความคุ้นเคย และเรื่องของต้นทุนที่มีต่อผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นสิ่งที่ธปท.พยายามหาแนวทางส่งเสริมให้เกิดการทำเฮดจิ้งเพิ่มขึ้น
ดังนั้นมองว่า อินโนเวชัน จะเข้ามาตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ ดังนั้นต้องทำระบบเอื้อให้โซลูชั่นต่างๆเกิดขึ้น
“การสนับสนุนให้เอสเอ็มอีทำเฮดจิ้งมากขึ้น เป็นโจทย์ที่เราอยากเห็น แต่การจะเกิดแบบนั้นได้ต้องทำให้ต้นทุนการทำเฮดจิ้งถูกลง แต่เรามองว่าแบงก์ชาติไม่ควรไปทำประกันให้ทุกคน เพื่อทำให้ค่าเงินไม่เคลื่อนไหวเลย อันนี้เราได้บทเรียนมาแล้ว จากปี40 ที่พยายามทำแบบนี้ฝืนกลไกตลาดเพราะห่วงผลกระทบต่อผู้ประกอบการ แต่การทำแบบนี้ แม้จะลดความผันผวน แต่ทำให้ความเปราะบางต่างๆเพิ่มขึ้น แต่เราไม่อยากเห็นความผันผวนมาก ทำให้บางจังหวะที่ตึงเป็นพิเศษก็ต้องเข้าไปดูแลความผันผวน แต่ไม่ได้เข้าไปฝืนตลาด”
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you