เลือกตั้งฝรั่งเศส

ผลคาดการณ์ระบุ มาครง ชนะ เลอเปน ครองตำแหน่งประธานาธิบดีสมัย 2 - คาดการณ์ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุ นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของฝรั่งเศส ชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียง 58%

และได้ครองตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ชนะเลือกตั้งได้ดำรงตำแหน่งต่อ นับตั้งแต่ที่นายฌัก ชีรัก ทำได้ในปี 2002
ส่วนนางมารีน เลอเปน คู่แข่ง ผลคาดการณ์ระบุว่า เธอได้รับคะแนนเสียง 42% โดยเธอได้ออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว และบอกกับผู้สนับสนุนว่า การต่อสู้จะดำเนินต่อไป
นายมาครง ได้เดินทางไปกล่าวสุนทรพจน์หลังคว้าชัยเลือกตั้งที่หน้าหอไอเฟล กลางกรุงปารีส โดยเขาได้ขอบคุณทุกคนที่เลือกเขา และกล่าวว่า เขารู้ว่า คนจำนวนมากเลือกเขาเพราะต้องการสกัดกั้นฝ่ายขวาจัด
เขากล่าวว่า "จากนี้ต่อไป ผมไม่ได้เป็นผู้สมัครของฝ่ายใดอีกแล้ว แต่ผมเป็นประธานาธิบดีสำหรับทุกคน"
เขากล่าวไปถึงผู้ที่เลือกฝ่ายขวาจัดด้วยว่า ความรับผิดชอบของเขาและของทีมงานเขา คือ การแก้ปัญหาที่พวกเขากังวลใจ
ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งของฝรั่งเศสต้องเลือกระหว่างนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่เป็นสายกลาง และนางมารีน เลอเปน ผู้นำพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบชี้ขาดเมื่อ 24 เม.ย. โดยหน่วยเลือกตั้งเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
นายมาครง วัย 44 ปี ต้องการที่จะกลายเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนแรกที่ชนะเลือกตั้งได้ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 2 คนแรกในรอบ 20 ปี แต่ก็เผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง
ส่วนนางเลอเปน วัย 53 ปี ลงเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นครั้งที่ 3 และเคยพ่ายให้กับนายมาครงในปี 2017 มาแล้ว
แม้ว่า เธอจะมีคะแนนตามหลังในผลการสำรวจความคิดเห็นช่วงท้าย ๆ แต่นางเลอเปน ก็ไม่เคยได้คะแนนสูงถึงขนาดนี้มาก่อน
คนออกมามาใช้สิทธิ์ต่ำลง
ตัวเลขจำนวนคนออกมาใช้สิทธิ์ในวันเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบชี้ขาดอยู่ที่ 63.23% ณ เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ก่อนปิดหีบเลือกตั้ง 3 ชั่วโมง บริษัทสำรวจความคิดเห็นต่าง ๆ ใช้ตัวเลขนี้ในการประเมินว่า หลังปิดหีบตัวเลขคนออกมาใช้สิทธิ์จะอยู่ที่ 72% ของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนราว 28% ที่ไม่ออกมาใช้สิทธิ์ จะเป็นตัวเลขสูงสุดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบชี้ขาดนับตั้งแต่ปี 1969 สะท้อนถึงความไม่ใส่ใจของชาวฝรั่งเศสในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งที่นายมาครง ซึ่งอยู่สายกลาง และนางเลอเปน ซึ่งเป็นฝ่ายขวาจัด จะเป็นผู้สมัครที่ค่อนข้างแบ่งข้างกันอย่างชัดเจน
ในประเทศประชาธิปไตยอื่น ๆ ตัวเลขผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งออกมาคะแนนที่มากกว่า 70% จะถือเป็นตัวเลขที่สูง แต่สำหรับฝรั่งเศสถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำ โดยในฝรั่งเศสมองว่า การเลือกตั้งคือหน้าที่ระดับประเทศ
BFMTV รายงานว่า ตัวเลขคนออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก เมื่อวันที่ 10 เม.ย. หรือ 2 สัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 65%
โพลบอกอย่างไรบ้าง
ในช่วงวันสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 เม.ย.) บริษัทสำรวจความคิดเห็นหลายแห่งระบุว่า นายเอ็มมานูเอล มาครง จะเอาชนะนางมารีน เลอเปน คู่แข่งฝ่ายขวาจัดได้ในการเลือกตั้งรอบที่ 2
โดยคาดว่า ส่วนต่างผลคะแนนที่นายมาครงได้จะมากกว่ารอบแรก โดยอยู่ที่ 8-9% แต่ผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสสายกลางผู้นี้ได้เตือนบรรดาผู้สนับสนุนของเขาให้ระวังว่า อย่าชะล่าใจ และเรียกร้องให้พวกเขาออกไปลงคะแนนเพื่อให้มั่นใจว่า จะคว้าชัยเลือกตั้งครั้งนี้
บรรดานักวิเคราะห์ ระบุว่า เลอเปนได้ปรับเปลี่ยนจุดยืนของเธอในบางประเด็นในช่วงไม่กี่วันนี้ เพื่อพยายามที่จะคว้าคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนที่ยังไม่ตัดสินใจ
โดยเธอเคยรับปากว่า จะปกครองฝรั่งเศส "เหมือนกับแม่ โดยใช้สามัญสำนึก"
มุมมองผู้สมัครทั้งสองคนต่อประเด็นสำคัญต่าง ๆ
ค่าครองชีพ
นี่น่าจะเป็นประเด็นที่กดดันที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ และผู้สมัครทั้ง 2 คน ต่างก็เน้นย้ำเรื่องค่าอาหาร เชื้อเพลิง และสินค้าอื่น ๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้น
นางเลอเปน ได้เน้นเรื่องนี้ในการหาเสียง โดยเสนอที่จะตัดลดภาษีเงินได้แก่คนอายุต่ำกว่า 30 ปีทุกคน ลดภาษีมูลค่าเพิ่มของเชื้อเพลิงจาก 20% เหลือ 5.5% และเลิกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในสินค้าที่จำเป็นอื่น ๆ อีก 100 รายการ
สำหรับนายมาครง เขาระบุว่า รัฐบาลได้ใช้จ่ายเงินหลายพันล้านในควบคุมค่าพลังงาน ซึ่ง "ได้ผลดีกว่าการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม 2 เท่า" และเสนอว่า พนักงานควรจะได้รับอนุญาตเงินโบนัสที่ไม่มีการเก็บภาษีมากถึง 6,000 ยูโร (ประมาณ 220,000 บาท)
บำนาญ
นายมาครง ต้องการปรับอายุผู้ที่ได้รับเงินบำนาญจาก 62 ปี เป็น 65 ปี ซึ่งเป็นนโยบายที่อาจจะไม่ถูกใจผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งนัก โดยเฉพาะฝ่ายซ้าย ซึ่งเป็นกลุ่มที่นายมาครงต้องการเอาใจตั้งแต่ในการเลือกตั้งรอบแรก
ส่วนนางเลอเปน เรียกแผนการของคู่แข่งของเธอว่า "ความอยุติธรรมที่ไม่อาจทานทนไหว" และต้องการที่จะรักษาอายุผู้ได้รับเงินบำนาญไว้ที่ 62 ปี แต่ว่าทุกคนที่เริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 20 ปี สามารถเกษียณอายุตอนอายุ 60 ปีได้
ผู้อพยพ
นางเลอเปน ต้องการที่จะให้มีการลงประชามติเกี่ยวกับการอพยพ เพื่อที่จะยุติสิ่งที่เธอเรียกว่า "การโยกย้ายถิ่นฐานขนาดใหญ่ที่วุ่นวาย" เธอเสนอให้มีการออกกฎที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับการเข้าประเทศฝรั่งเศสและการได้สัญชาติฝรั่งเศส รวมถึงแผนการที่ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในการให้บริการทางสังคมและที่อยู่อาศัยแก่ชาวฝรั่งเศสก่อนชาวต่างชาติ
นายมาครง ตอบโต้เรื่องนี้ด้วยการกล่าวหาเธอว่า เป็น "เผด็จการ" และไม่สามารถที่จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญของฝรั่งเศสได้ เขาได้ประณาม "นโยบายชาตินิยมของนางเลอเปนว่าไม่ใช่การรักชาติ"
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พรรคเนชั่นแนลแรลลี (National Rally) ของนางเลอเปน ได้ลดการใช้ถ้อยคำที่แสดงออกถึงความเป็นชาตินิยมลง และนำเสนอภาพพจน์ที่เป็นกลางมากขึ้น วิธีการนี้ดูเหมือนว่าจะใช้ได้ผล ถ้าพิจารณาถึงตัวเลขคะแนนเสียงที่ทางพรรคได้รับในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก
นางเลอเปน และพ่อของเธอ มักจะได้การสนับสนุนจำนวนมากจากคนในแถบตอนใต้และตะวันออกของฝรั่งเศส
การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญอย่างไร
ถ้ามาครง ชนะ เขาจะกลายเป็นประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งคนแรกที่ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีต่อสมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของฝรั่งเศสที่มีคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภา ส่งผลต่อความต่อเนื่องของนโยบายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยฝรั่งเศสจะจัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาครั้งใหม่ในเดือน มิ.ย. นี้ และนั่นอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
งานหลักของเขาคือ การจะต้องรับมือกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น และการค่อย ๆ ปรับเพิ่มอายุผู้ได้รับเงินบำนาญเป็น 65 ปี ฝรั่งเศสจะยังคงมีส่วนสำคัญต่อยุโรปและนาโต และมาครงจะมีบทบาทสำคัญต่อสงครามของรัสเซีย ประธานาธิบดียูเครนได้เรียกร้องให้ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนในฝรั่งเศสสนับสนุนนายมาครง
การลงคะแนนที่ล้าสมัย
ฝรั่งเศสมักจะมองตัวเองว่า เป็นผู้บุกเบิกด้านพลังประชาชน แต่เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีในการลงคะแนนเลือกตั้ง พวกเขายังคงตามหลังในเรื่องนี้ โดยตามคูหาเลือกตั้งของฝรั่งเศส คุณจะไม่พบอุปกรณ์ไฟฟ้าใด ๆ หรือแม้แต่ดินสอ ถ้าคุณมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง คุณจะได้รับกระดาษที่มีชื่อของผู้สมัครรับเลือกตั้งอยู่ในแต่ละใบ และเดินเข้าคูหาเลือกตั้งไป
หลังจากที่ลากม่านด้านหลังเพื่อความเป็นส่วนตัว คุณจะต้องเลือกหยิบกระดาษที่มีชื่อผู้สมัครที่คุณต้องการลงคะแนนให้ใส่ไว้ในซองและทิ้งกระดาษใบอื่น ๆ
จากนั้น คุณก็ออกมาจากคูหาและหย่อนซองดังกล่าวลงในหีบบัตรเลือกตั้ง แล้วก็จะมีคนเรียกชื่อคุณ จากนั้นก็จะมีเสียงที่ยืนยันว่า คุณได้ทำหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตยของฝรั่งเศสแล้ว
Source: BBC Thai

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"