สักวันหนึ่งที่ระบบการเงินจะต้องระเบิด ถึงวันนั้นชีวิตประจำวันของพวกเราก็คงไม่เหมือนอย่างทุกวันนี้

ผมพยายามพูดถึงเรื่องนี้ทุกครั้งที่ให้สัมภาษณ์ ทุกวันนี้เราอยู่ในระบบการเงินที่ entirely run on credit เพราะถ้าไม่มีเครดิต..ระบบนี้ต้องปิดตัวไปนานแล้ว ถ้าไม่มีระบบเครดิต เมื่อคุณเข้าไปในร้านค้าหรือ WalMart ก็จะไม่มีสินค้าอาหารหรืออื่นๆบน shelf

เพราะจะไม่มีใครทำสต๊อกสินค้าได้ ....กระบวนการชิปปิ้งหรือโลจิสติกทุกขั้นตอน ทุกช่องทางที่สินค้าต้องผ่าน ล้วนต้องใช้เครดิต .....ทุกวันนี้โลกเราอยู่กับการเก็บสต๊อกในแบบ just-in-time inventory ซึ่งถ้ามีการปะทะกันทางเครดิต การขนส่งชะงัก...ชั้นวางของจะว่างภายในพริบตา

มีการพูดกันว่า ทุกเช้าที่เราตื่นขึ้นมา เราอยู่ห่างจากระบบอนาธิปไตย (anarchy) เพียงแค่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง..นั่นเป็นเรื่องจริง เพราะนี่มันเกี่ยวข้องโดยตรงกับปากท้องของผู้คน

8:15.....ถาม...คุณพร้อมที่จะออกจากประเทศทันทีหรือเปล่าถ้าเกิดอะไรขึ้น

Bill.....ผมเคยคิดและออกจากประเทศไปแล้วเมื่อปี 2006 แต่นั่นผมมองล่วงหน้าเร็วเกินไป ผมไปที่ Costa Rica ...แต่เมื่อคิดอีกที ถ้าระบบมันล่มสลายลง มันก็คงเป็นกันไปทั่วโลก แล้ว Gringo ฝรั่งอย่างเราๆ ก็คงถูกคนท้องถิ่นที่มองเราเป็นคนรวยกว่ากวาดทิ้งแน่ๆ

9:30.....ถาม.....คุณบอกว่าเราอยู่ในสังคมบ้าๆ..ที่ขับเคลื่อนด้วยหนี้และเครดิต ทั้งรัฐบาล เอกชน และส่วนบุคคล ในระดับสูงสุด ในออสเตรเลียนี่ก็เหมือนกัน จนคาดว่าออสซี่คงจะต้องมีอัตราดอกเบี้ยเป็นศูนย์ในกลางปีหน้า คุณคิดอย่างไรในเรื่องดอกเบี้ยต่ำนี้

Bill......ดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซนต์หรือติดลบเป็นการแสดงว่าค่าของเงินมันไม่เหลือแล้ว ผมมองว่านี่เปรียบได้กับงูที่กำลังกินหางตัวเอง เพราะนี่เป็นการทำลายเงินทุนที่ตรงข้ามกับการสร้างทุนเพิ่ม ....ระบบจะต้องมีทุนที่เพิ่มขึ้นเพื่อการอยู่รอด

มีหนี้ในโลกนี้ถึง $17 ล้านล้านที่กำลังเทรดกันอยู่ด้วยดอกเบี้ยติดลบ เหตุผลก็คือ ระบบเศรษฐกิจไม่อาจสร้างกระแสเงินสดได้เพียงพอที่จะ service จ่ายดอกเบี้ยให้หนี้ที่มีได้แล้ว

การเคลื่อนจากศูนย์เปอร์เซนต์ไปสู่อัตราติดลบเป็นเรื่องอันตรายมากๆ ...แต่ปฏิกิริยาของพวกเขาคือ พิมพ์เงินเพิ่มสภาพคล่องเข้าระบบไปอีก เท่ากับเพิ่มหนี้ไปอีก ....ในเมื่อระบบเศรษฐกิจไม่อาจ service หนี้ที่มีอยู่ได้แล้ว ยังจะเพิ่มมาเพื่ออะไรอีก .....ทำให้เห็นว่าพวกเขาไม่มีกระสุนเหลือที่จะสู้ได้อีกแล้ว 100% ......พวกเขามาถึงสุดถนนแล้ว ไม่มีอะไรให้ทำได้อีก

ตอนนี้ก็เหลือทางเดียวคือการรีเซ็ทระบบ หนี้ทั้งหมดต้องถูก liquidate .... ที่จริงตั้งแต่ครั้งที่เศรษฐกิจถดถอยเมื่อปี 1991 นั่นแล้ว ไม่ควรให้มีการถดถอยเกิดขึ้นอีกหลังจากนั้น ...ให้มันเป็นการล้าง Balance Sheet ของประเทศไปเลย ...แต่เพราะ Federal Reserve กลัวว่าจะเกิดเงินฝืดอย่างปี 1930s อีกครั้ง จึงเป็นอย่างที่เราเห็นกันอยู่

แต่ความต่างคือ เงินฝืดที่เกิดในช่วง 1930s ไม่ได้ทำลายค่าของดอลล่าร์เพราะมันคือทองคำ ..แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่แล้ว ดอลล่าร์หันหลังให้ทอง 180 องศาเลย ทุกวันนี้ มันคือ man-made money ........ตอนนี้ถ้าหนี้ทั้งหมดพังลง..มันจะเกิดเงินฝืด และจะตามมาด้วยเงินเฟ้อรุนแรงเพราะครั้งนี้ค่าเงินดอลล่าร์ได้ถูกทำลายไปแล้ว

16:30.....Bill......ปัญหาของจักรวรรดิ์ในยุคเราตอนนี้คือ รัฐใช้จ่ายมากเกินไป มันสร้างหนี้ซึ่งจะต้องใช้คืนในรูปใดรูปหนึ่งจนได้ ....จักรวรรดิ์โบราณใช้วิธีลดส่วนผสมทองคำในเหรียญลง แต่เงินเฟียตปัจจจุบันทำได้ง่ายกว่านั้นถ้ารัฐต้องใช้จ่ายเกินตัว ก็แค่ออกพันธบัตรเพื่อกู้เงิน แล้ว Fed ก็พิมพ์เงินซื้อพันธบัตรนั้นไป

เราต้องเข้าใจว่า ทองคำไม่เคยต้องให้คำมั่นใดๆ ในขณะที่เงินเฟียตทั้งหลายต้องให้คำมั่นว่ามันจะมีค่าอยู่เสมอ นั่นเพราะ ทองคำได้มีการใช้แรงงานเป็นต้นทุนไปแล้ว..ในการขุดมันขึ้นมาบนโลก ..ต้นทุนแรงงานจึงอยู่ในตัวทองแท่งนั้นนั่นเอง

19:10....ถาม.....ถ้าเกิดผิดพลาดการส่งมอบทองคำในตลาดทองคำกระดาษ COMEX คุณจะอธิบายถึงการช็อคที่จะเกิดขึ้นอย่างไร

Bill ......เมื่อตอนที่มันเกิดขึ้น จะเหมือนการปิดสวิทช์ไฟฟ้า ดับไปทั้งโลกภายในไม่ถึงสัปดาห์ เพราะเป็นการแสดงถึงมีการขี้โกงเกิดขึ้นแล้วระดับโลก ผู้คนทั่วโลกที่ถือสัญญากระดาษนั้นจะวิ่งโร่เข้าเรียกร้องการให้ส่งมอบทองคำ physical กันหมด ....(ผมไม่เคยลงทุนในกองทุนทองคำเพราะกลัวเรื่องอย่างนี้ครับ........ผู้แปล) ...แล้วมันก็จะลามไปยังสินค้าโภคภัณท์อื่นๆใน commodity complex ทั้งหมด ...และลามต่อเนื่องไปถึงทุกระบบที่ใช้ Fractional Reserve

หลังจากนั้นคุณอาจจะไม่ได้เห็นทั้งทองคำและซิลเวอร์ที่เป็น physical อีก เพราะมันกำลังวิ่งหาที่ซ่อนตัวให้พ้นจากเงินเฟียต ....อาจได้เห็นการแลกเปลี่ยนระหว่างทองคำกับทรัพย์สินที่จับต้องได้อื่นๆ เช่น บ้าน ที่ดิน ฟาร์ม หรือธุรกิจที่ดี แต่จะไม่แลกเป็นเงินไม่ว่าสกุลไหนๆ ...ประชาชนจะเริ่มเข้าใจเกมนี้ดีขึ้น

32:00.....ถาม......คุณเคยพูดถึงเรื่อง Jubilee (การยกหนี้) อยากให้อธิบายและใครจะได้ประโยชน์จาก Jubilee

Bill.......ผมเชื่อว่าเราจะต้องมีการรีเซ็ท แต่ไม่เชื่อว่าจะมี Jubilee ....เหตุผลคือนี่เป็นเรื่องดีของฝ่ายเดียวเท่านั้น เพราะหนี้ของคนๆหนึ่ง เป็นทรัพย์สินของอีกคนหนึ่งเสมอ (one man's debt is another man's asset) ถ้าคุณกวาดทิ้งหนี้ของคนหนึ่ง เท่ากับคุณไปกวาดเงินบำนาญหรือเงินประกันชีวิตของอีกคนหนึ่งทิ้งไปด้วย ....Bottom line คือ ไม่มี free lunch

ถ้าจะถามผมว่าควรจะถือทองคำไว้กี่เปอร์เซนต์ของพอร์ทลงทุน ......ผมตอบได้ว่า มากเท่าที่คุณคิดจะรักษาทรัพย์สินของคุณไว้ ....ถ้าพร้อมจะสูญเสียทรัพย์สินถึง 90% ก็ถือทองคำแค่ 10% ได้เลย

ดีกว่าตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วพบว่าทรัพย์สินทั้งหมดของคุณเป็นศูนย์

******บางคำถามอาจแปลผิดครับ ผมต้องฟังคำตอบก่อน .....ผู้สัมภาษณ์ทั้งสองเป็นออสเตรเลีย ฟังยากมาก*****

Cr.Sayan Rujiramora

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"