ความมั่งคั่งทั้งหลายที่เรารู้จักกันดีจะต้องพังทลายลงสักวันหนึ่ง ความรุ่งเรืองทั้งหลายที่เห็นๆกันอยู่ มันเป็นของปลอม

เงินกระดาษและเครดิตสร้างผลกำไรให้กับคนส่วนน้อยจำนวนหนึ่งเท่านั้น แก็ประหว่างคนรวยและคนจนมันห่างออกจากกันทุกที แต่ไม่ช้ามันก็ต้องพังลงจนได้ SOCIALISM IN THE WEST WILL LEAD TO VENEZUELAN HYPERINFLATION

ในโลกตะวันตก มาตรฐานการครองชีพของคนโดยเฉลี่ย อยู่ได้ด้วยทั้งหนี้ส่วนตัวและหนี้รัฐบาลจากการทำงบประมาณขาดดุลที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ...งบประมาณส่วนที่ใช้เกินไปนี้ส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อซื้อความนิยมจากประชาชน เป็นการยกระดับการครองชีพจากการเป็นหนี้โดยแท้ ..ดูเหมือนจะไม่มีใครรับรู้เลยว่าหนี้ทั้งส่วนตนและภาครัฐ จะไม่มีการชำระคืนแน่ๆ..จนกว่าดนตรีจะหยุดเล่นนั่นแหละ

เราจะได้เห็นถึงฐานะที่แท้จริง ก็เมื่อตอนที่เกิดเศรษฐกิจถดถอยตามด้วยการพังทลาย depression จนประชาชนไม่มีจะกินหรือไม่มีที่อยู่เลยนั่นแหละ ..ถึงตอนนั้น รัฐบาลก็จะช่วยประชาชนได้โดยการพิมพ์เงินขึ้นมาอีก ...ถ้าอยากเห็นตัวอย่างก็ดูได้เลยจากประเทศเวเนซูล่าว่าเขาทำกันอย่างไร

ก็อย่างที่เคยเขียนในบทความที่แล้ว สังคมนิยมก็ยังคงอยู่ต่อไปได้ตราบที่ยังมีเงินของคนอื่นให้ใช้อยู่ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในเวเนฯ ..เงินที่พิมพ์มาจำนวนมหาศาลและเงินเฟ้อรุนแรงที่เกิดขึ้น ได้พิสูจน์ให้เหล่า keynesian และผู้นิยมในทฤษฎีการเงินแบบโมเดิร์นได้รู้ว่าการทำให้กระดาษไร้ค่าที่พวกเขาเรียกกันว่า money ไหลเข้าท่วมตลาด ไม่ได้สร้างความมั่งคั่งแม้เพียงเศษเสี้ยว ..ตรงกันข้าม มันยิ่งสร้างความเลวร้ายให้กับประชาชนทั้งประเทศ

ในเวเนซูล่า ประชาชนประมาณ 87% มีฐานะต่ำกว่าเส้น poverty line ..อาหารและยารักษาโรคจึงไม่เพียงพอ และประชาชนประมาณ 5 ล้านคนเตรียมที่จะหนีตายออกนอกประเทศก่อนสิ้นปี 2019 นี้

นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลมาร์กซิสต์บริหารประเทศจนพังพาบลงไปคามือ ..และก็จะเหมือนกับสหรัฐ ..อังกฤษกับอีกหลายประเทศในอีกหลายปีที่จะมาถึงนี้

GOLD REVEALS GOVERNMENTS’ FAILURE

ทองคำจะเป็นผู้เล่าเรื่องได้ดีกว่าใครทั้งนั้น ..ราคาทองในเวเนซูล่าอยู่ที่ 150 Bolivar เมื่อปี 1997 ..ปัจจุบันอยู่ที่ 317 ล้าน Bolivar ราคาขึ้นมา 211 ล้านเปอร์เซนต์!

หนี้ของทั้งโลกนี้รวมกันอยู่ที่ $250 ล้านล้าน แต่พอไปรวมกับสัญญาอนุพันธ์และหนี้สินสมทบ (unfunded liabilities) สิริรวมแล้วกลายเป็น $2 พันล้านล้าน ...ปริมาณเงินที่พิมพ์ออกมามากมายของสกุลต่างๆทำให้มูลค่าของมันเสื่อมลง และก็คงจะทำให้ราคาทองคำในประเทศออกมาแนวเดียวกับเวเนซูล่าเลย

ความจริงที่ไม่ต้องแย้งอีกเรื่อง: ..ทองคำคือ money ที่อยู่รอดมาตลอดในประวัติศาสตร์ แต่มันก็จริงเหมือนกันที่มีทรัพย์สินหลายอย่าง outperformed ทองคำอยู่ในรอบร้อยปีที่ผ่านมา นั่นเป็นเพราะจำนวนเงินที่พิมพ์ออกมาและการขยายเครดิตมากมายมหาศาลได้สร้างปาฏิหารย์ให้นักลงทุน ไม่ว่าจะเป็น หุ้น พันธบัตร อสังหาฯ หรือศิลปวัตถุ แต่ปัญหาคือฟองสบู่ในทรัพย์สินเหล่านี้มันโตไม่สิ้นสุดตราบที่เครดิตยังขยายตัว ...แต่เวลานี้ เรามาถึงจุดที่ผลตอบแทนลดน้อยลง (diminishing returns) หรือติดลบด้วยซ้ำไป ...แล้วราคาทองคำก็จะเหมือนกับในเวเนฯนั่นแหละ

COMING QE WILL HAVE NO POSITIVE EFFECT

QE ที่กำลังจะมาก็ไม่มีผลดีหรอก

คราวนี้จะไม่เหมือนเมื่อปี 2007-2009 ..การพิมพ์เงินเพื่อมาช่วยระบบการเงินจะไม่เป็นผลดี มันมีแต่จะเป็นจุดเริ่มของเงินเฟ้อรุนแรงที่กลายเป็น depression ในที่สุด ซึ่งไม่มีนักลงทุนคนไหนเตรียมตัวเผชิญกับเรื่องเหล่านี้เลย คิดว่าธนาคารกลางเคยช่วยมาได้สำเร็จ ทำไมจะช่วยอีกไม่ได้ล่ะ ....เหตุผลคือ ครั้งนี้โลกไม่โง่ที่จะถูกหลอกด้วยเงินกระดาษอีกแล้ว สหรัฐคงต้องจัดการกับหนี้กองโตของตัวเองแล้ว

WILL AI BE THE END OF HUMANITY?

หลายคนเชื่อว่า AI (Artificial Intelligence) ปัญญาประดิษฐ์จะทำให้หุ่นยนต์ทำงานได้ซับซ้อนมากขึ้น ในทางทฤษฎีนี่จะเป็นผลทางร้ายต่อมนุษยชาติ ...คนทำงานจะไม่มีความจำเป็นอีกแล้ว ทำให้ไม่มีรายได้ใช้จ่ายสำหรับผลิตภัณท์ที่บรรดาหุ่นยนต์ผลิตขึ้นมา .....แล้วประชากรบนโลกนี้จะมีไว้เพื่ออะไรอีกล่ะ คงจะต้องเกิดการลดประชากรครั้งใหญ่ อาจจะเป็นทางธรรมชาติหรือทางการจัดการอย่างใดอย่างหนึ่ง

รัฐบาลคงต้องเข้ามาเป็นผู้จัดสรรผลผลิตจากเครื่องจักรเหล่านี้หรือไม่ก็เรียกเก็บภาษีอย่างหนัก จนระบบการผลิต AI ไปต่อไม่ได้ ...ในที่สุดแล้ว อิลิตก็จะเข้ามาควบคุมรัฐบาลจนเป็นหนึ่งเดียว

ไม่ว่าจะทางไหน นี่จะเป็นโลกที่น่ากลัวสำหรับพวกกลุ่มน้อยเหล่านี้ ผมเคยทำนายว่าประชากรบนโลกจะต้องลดจำนวนไปครึ่งหนึ่งเนื่องจาก ..เศรษฐกิจล่มสลาย..สงคราม..ความอดหยาก..หรือโรคระบาด ....การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากร จาก 1 พันล้านคนในปี 1850 มาเป็น 7.5 พันล้านคนในปัจจุบัน มันรวดเร็วจนจะต้องเกืดการ spike ทางธรรมชาติ ที่อาจทำให้มีการลดประชากรลงถึง 50% .....ไม่มีเผ่าพันธ์สิ่งมีชีวิตใดหรอกที่จะอยู่รอดตลอดไป

GOLD INVESTORS HAVE HAD 7 LEAN YEARS

นักลงทุนทองคำกับ 7 ปีที่ยากลำบาก .....หลายปีที่ผ่านมานับเป็นการทดสอบความอดทนของนักลงทุนประเภทเก็งกำไรระยะสั้น ถึงแม้ส่วนใหญ่จะรู้ความจริงที่ว่า ทองคำ outperform ทรัพย์สินอื่นรวมทั้งหุ้นในศตวรรษนี้

ตัวชี้วัดทุกตัวชี้ถึงความเลวร้ายทางเศรษฐกิจทั่วโลก เช่นการส่งออก การผลิต ยอดขายรถยนตร์และบ้าน ขณะเดียวกันหนี้เสียก็เพิ่มมากขึ้น หนี้เช่าซื้อรถเลวร้ายมาตั้งแต่ปี 2010 ..หนี้ภาคเอกชนเป็นซับไพร์มที่เลวร้ายสุดๆ ..สงครามการค้าที่เกิดขึ้นจะจบลงด้วยผลร้ายที่ซีเรียสสำหรับการค้าทั่วโลก

GOLD AND SILVER STARTING SPECTACULAR BULL MARKET

downside ของราคาทองคำจบสิ้นไปแล้ว แต่เวลาอาจจะเนิ่นนานออกไปหรือราคาอาจตกไปสักหน่อย ..ตลาดกระทิงอาจจะได้แรงมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่จะเลวร้ายลงจนการพิมพ์เงินจะกลับมาเริ่มทำลายมูลค่าเงินอีกครั้ง

จะมีบางเวลาจากนี้ ที่ราคาทองคำในตลาดกระดาษจะร่วงลง จนทำให้เกิด panic ...นั่นจะเป็นเวลาที่เหมาะที่จะเข้าซื้อมากกว่าตอนที่ราคากำลังขึ้น

Egon von Greyerz
Founder and Managing Partner
Matterhorn Asset Management
Zurich, Switzerland
Phone: +41 44 213 62 45

Matterhorn Asset Management’s global client base strategically stores an important part of their wealth in Switzerland in physical gold and silver outside the banking system. Matterhorn Asset Management is pleased to deliver a unique and exceptional service to our highly esteemed wealth preservation clientele in over 60 countries.

Articles may be republished if full credits are given.

Cr.Sayan Rujiramora

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

#forex #ลงทุน #pepperstone #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"