ระบบการเงินเข้มแข็ง แต่เศรษฐกิจ และ ประชาชนอ่อนแอ ...อนาคตไทย?

เสี่ยงบ่นค้าขายฝืดเคือง เศรษฐกิจไม่ดีดังขึ้นเรื่อยๆ ข่าวว่าจะมีวิกฤติก็มาจากทั้งไทย และต่างชาติ แต่ละคนก็ไม่ธรรมดา เป็นนักเศรษฐศาสตร์กับ ผู้จักการกองทุนชื่อก้องโลก แต่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาจากธนาคารแห่งประเทศไทยก็ออกมาดี

ธนาคารมีเงินสดมหาศาล ผลกำไรจากบริษัทในตลาดหุ้นก็โตดี มีบางคนบอกด้วยซ้ำว่าบริษัทของตน หรือที่ตนทำงานอยู่ยอดพุ่งทำงานกันไม่ทัน โอทีกระจาย

การไม่ปรับตัว หนี้สิน และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นสิ่งที่ใช้อธิบายสภาวะเศรษฐกิจตอนนี้

แต่ผมคิดว่ามีอีก 2 ปัจจัยที่ทำให้เกิดสภาวะนี้ขึ้น และคนให้น้ำหนักกับมันน้อยเกินไปมาก วัฎจักรเศรษฐกิจ และสังคมผู้สูงอายุ

วัฎจักรเศรษฐกิจ โดยส่วนตัวผมมีความเชื่อว่าวัฎจักรเศรษฐกิจเกิดจากหนี้ โดยตอนที่คนมีความสามารถในการก่อหนี้มาบริโภค และลงทุนจึงทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ทุกคนกู้หนี้ได้จำกัด เมื่อกู้ไม่ได้แล้วก็ต้องลดการบริโภคลง และยังต้องจ่ายดอกเบี้ยอีกเศรษฐกิจจึงหดตัว ถ้าผู้กู้จำนวนมากไม่สามารถชดใช้ได้ก็อาจทำให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ในอีกคำนึงของวิกฤติคือ “การกระจายความมั่งคั่งใหม่” เป็นการเอาทรัพยากรจากคนที่ไม่มีประสิทธิภาพไปสู่คนที่มีเทคโนโลยีทำให้เราได้ยินนักลงทุนจำนวนมาก อยากให้เกิดวิกฤติ หรือจะรวยจากวิกฤติ เศรษฐกิจก็จะเติบโตอีกครั้ง ดังนั้นวัฎจักรเศรษฐกิจจึงมีความสำคัญมาก และเมื่อปี 2008 จริงๆแล้วบริษัทมากมายในอเมริกา และทั่วโลกควรจะล้มมากกว่านี้ สาเหตุก็มาจากหนี้ แต่รัฐบาลอเมริกาเลือกที่จะพิมพ์เงินเพื่อบิดเบือนวัฎจักร ตอนนี้ปลายปี 2018 หนี้ของทั้งโลกสูงกว่าปี 2008 เป็นเท่าตัว ดังนั้นวิกฤติเกิดแน่แต่ไม่รู้เมื่อไหร่

สังคมผู้สูงอายุ จากข้อมูลอายุประชากร ของสถาบันวิจัยประชากร มหาวิทยาลัยมหิดล น่าจะประมาณ 20 ปีเราจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ อัตราการเกิดว่าต่ำมากแล้ว อัตราการตายยิ่งต่ำกว่า เราเหมือนญี่ปุ่นเมื่อ 20 ปีก่อน

แต่ญี่ปุ่นเมื่อ 20 ปีก่อน ส่งออกสินค้าไปทั่วโลก มีแบรนดังๆมากมาย สำหรับคนไทยเมื่อก่อน สินค้าญี่ปุ่นคือของพรีเมี่ยม ราคาแพง ขนาดเศรษฐกิจภายในใหญ่กว่าไทย ประชากรมากกว่า ระดับการศึกษา อัตราการเก็บออม และระเบียบวินัย สูงกว่าคนไทย ญี่ปุ่นในปัจจุบันยังลำบากมากเลย ไม่กี่ปีมานี้รายได้ญี่ปุ่นต้องเริ่มหันมาพึ่งการท่องเที่ยว แต่เรามีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นสัดส่วนที่สูงอยู่แล้ว เศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่โตมาเกือบ 20 ปี แต่เราพึ่งจะเริ่ม

เมื่อคนเราอายุเกิน 50 ปีจะเริ่มลดการบริโภคสิ่งต่างลง รวมถึงสิ้นค้าบางประเภทเราก็จะบริโภคตามช่วงอายุ เช่น ขนม การซื้อบ้าน สถานบันเทิง และอีกหลายอย่างมากมาย ทำให้ขายของไม่ดี

แถมหนี้ส่วนบุคคลจากข้อมูลปี 2017 จากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ พบว่าคนไทยเป็นหนี้เร็ว เป็นหนี้นาน

ช่วงอายุวัยทำงานอายุ 25-35 ปีมีหนี้เสียสูงที่สุด
ช่วงอายุวัยทำงานอายุ 33-58 ปีมีมูลค่าหนี้สูงที่สุด
จนมีคนเขียนได้เจ็บว่า เจนX(อายุ 38-53ปี) มีเงินไม่พอเกษียณ เจนY (อายุ 20-37ปี) เกษียณแล้วยังไม่หมดหนี้

ปัญหาในด้านวัฏจักรเศรษฐกิจอาจกินเวลา 3-5 ปี แต่สังคมคนแก่ กับหนี้ อาจกินเวลาเกือบสิบปี

ดั้งนั้นถ้ารวมปัญหาเหล่านี้มาพิจารณาอนาคตเศรษฐกิจไทย เป็นไปได้ไหมว่า ตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงที่เศรษฐกิจแย่ที่สุด แต่จะแย่ลงกว่านี้อีกหลายปีถึงจะเจอจุดต่ำสุด และปัญหารอบนี้คนชั้นกลางลงไปได้รับผลกระทบก่อน และเมื่อเศรษฐกิจค่อยๆทรุดลงเรื่อยๆ กว่าทุกคนจะรู้ตัวเองก็อยู่ในวิกฤติแล้ว

บทความนี้เป็นความคิดเห็นของผมแต่เพียงผู้เดียว
ไม่ว่าจะเกิดวิกฤติหรือไม่ เศรษฐกิจจะทรุดจริงหรือเปล่า แต่ข้อมูลเหล่านี้ก็น่าเชื่อถือว่าน่าจะเป็นความจริง แสดงว่าอย่างน้อยปัญหาต่างๆก็มีอยู่จริงเช่นกัน

น่าจะได้เวลาแล้วที่เราจะเก็บออม ระมัดระวังตัว และถ้าจะหวังรวยหลังวิกฤติ เราควรต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อน และรักษาสินทรัพย์ให้ได้มากที่สุดหากวิกฤติมา

#ADMINสรธร #SORATHORN_WATTANAMALACHAI #DINOTECH5_0 #คุยการเงินกับที


Cr.DinoTech5.0

สนับสนุนข่าวโดย ICMarkets
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"