รัฐบาลสหรัฐและเศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้แข็งแรงอย่างที่บางคนคิด แล้วคำถามคือใครล่ะจะมาแทนที่มัน

นับได้สิบปีมาแล้วตั้งแต่เกิดการแครชทางการเงินเมื่อปี 2008 ..ซึ่งมารู้กันทีหลังว่ามันเป็นการร่วมวงกันของกลุ่มวอลล์สตรีท แถมยังมีการขยิบตาจากกระทรวงการคลังสหรัฐ ...หลายๆคนเชื่อว่า ชนวนแบบเดียวกับที่ทำให้เกิดการแครชครั้งนั้นกำลังจะกลับมาอีกครั้ง

นั่นคือเงินเฟ้อที่เกิดจากฟองสบู่อสังหาฯที่เรียกว่า subprime และสัญญากระดาษอนุพันธ์ต่างๆ ..ต่างกันที่คราวนี้มันจะรุนแรงกว่า..กินวงกว้างมากกว่ากัน

เรื่องที่ก่อความเสี่ยงเรื่องหนึ่งก็คือ หนี้ที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากผลของอัตราดอกเบี้ยทีต่ำเหลือเชื่ในช่วงสิบปีมานี้..ประเทศที่มีหนี้มหาศาลในรูปของเงินเฟียตดอลล่าร์ จนทำให้เกิดความเสี่ยงอย่างรุนแรง..เมื่อ Federal Reserve เริ่มเข้าสู่เฟส Quantitative Tightening ..ที่ทำให้ไม่มีเงินต้นทุนต่ำมาช่วย refinance ยืดหนี้ไปได้อีกแล้ว ..นี่หมายถึงวิกฤติสภาพคล่องเกิดขึ้นทั่วโลก คงต้องมีการรัดเข็มขัดเกิดขึ้นระดับโลกเลย

อย่างไรก็ตาม มีบางประเทศที่มีสายตากว้างไกลพอที่จะเตรียมการพยุงสถานะของประเทศไว้จากการล่มสลายของดอลล่าร์ โดยการย้ายทุนสำรองของประเทศส่วนใหญ่ออกจากดอลล่าร์และถือทองคำแทน เหลือเพียงทุนสำรองดอลล่าร์เท่าที่จำเป็นสำหรับใช้ชำระค่าสินค้าที่ยังคงต้องใช้ดอลล่าร์ ...ผู้นำของกลุ่มประเทศเหล่านี้คือ รัสเซียและจีนซึ่งได้เรียกร้องทองคำของตนกลับคืนประเทศอย่างเงียบๆ และซื้อเพิ่มเข้าอีกจำนวนมาก

ในยุโรปเองก็มีหลายประเทศที่กำลังเรียกคืนทองคำสำรองของตนเช่นกัน และทำมาหลายปีก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ก่อนจะมี Brexit ซะอีก ...พวกเขากำลังวิ่งเข้าหาทองคำและเริ่มทิ้งเงินยูโร นี่ไม่ใช่ข่าวดีของผู้หลักผู้ใหญ่ของอียูที่บรัสเซลส์เอาเสียเลย...

ถ้าพูดถึงความแข็งแกร่งของมูลค่าที่แท้จริงกันแล้ว เงินยูโรแทบไม่มีคุณสมบัติพอจะเรียกความเชื่อมั่นได้เลย ...เกือบยี่สิบปีมาแล้วที่ปัญหาการเงินของยุโรปมันอยู่ที่ระบบอย่างเดียวล้วนๆ ..เพราะปัญหาของหนี้ของประเทศยากจนทางยุโรปใต้ เป็นตัวถ่วงที่ธนาคารกลางยุโรปเอือมระอาจนต้องออกมาตรการรัดเข็มขัดมาบังคับใช้

คลื่นช้อคของเศรษฐกิจในสหรัฐจะมีผลอย่างแรงต่อความมั่นคงทางการเงินของยุโรป ...F. William Engdahl นักเขียนชื่อดัง อธิบายสถานการณ์ประมาณนี้:

"..รัฐบาลสหรัฐและเศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้แข็งแรงอย่างที่บางคนคิด แล้วคำถามคือใครล่ะจะมาแทนที่มัน ...คำตอบคือ ต้องเป็นประเทศที่สามารถแยกตัวเองและเศรษฐกิจของตัวเองออกจากดอลล่าร์และยังคงยืนยงอยู่ได้..ถึงจะสำเร็จ.."

ในแนวโน้มด้านมหภาค (macro-trends) แนวทางการเงินระดับโลกคงจะต้องฉีกหนีไปจากระบบรวมศูนย์ในที่สุด ..ซึ่งถ้าเป็นไปตามเทรนด์นี้ จะเห็นได้ชัดว่า รัฐหรือชาติต่างๆก็จะต้องมีการแตกออกเล็กย่อยลงไป และจะเป็นการกระจายอำนาจออกไปจากศูนย์กลาง

ในระบบรวมศูนย์ (centralization) ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ..ระบบการเงินของโลกมีเจ้าพ่อใหญ่คือยูเอสดอลล่าร์ในฐานะเป็นทุนสำรองของทุกประเทศในโลก ..กำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นทุกหนทุกแห่งในโลกมาจากมูลค่าหรือสภาพคล่องของเงินสกุลนี้เท่านั้น

นอกจากนี้ Engdahl ยังเตือนถึงอันตรายจากระบบรวมศูนย์นี้ จากการที่ทั้งโลกยอมให้ธนาคารกลางแห่งเดียวคือ US Federal Reserve Bank (ที่มีเจ้าของเป็นเอกชน) เข้ามาเป็นผู้จัดการกับชะตากรรมของเศรษฐกิจของทุกๆประเทศผ่านทางสิทธิ์ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของ Fed.. ซึ่งนี่เท่ากับว่า ทุกประเทศทั่วโลกขึ้นอยู่กับความปราณีของนโยบายการเงินของสหรัฐประเทศเดียว

ในขณะที่การเปลี่ยนไปสู่การกระจายศูนย์ (decentralization) อาจเป็นการปลดปล่อยระบบการเงินของหลายประเทศ แต่มันก็อาจถูกตีความเป็นสัญญานของความไม่มั่นคง จนนำไปสู่การเผชิญหน้าทางทหารจนได้ ....การเคลื่อนไหวของสหรัฐที่เห็นกันขณะนี้เกี่ยวกับการพยายามทำลายเศรษฐกิจของอิหร่านหรือเวเนซูล่า ก็อาจถูกมองว่าเป็นฉากแรกของปฏิบัติการทางทหารได้

ประเทศที่คิดกระดัางกระเดื่องต่อความต้องการของอเมริกัน อาจต้องพบกับวิกฤติของอำนาจทางการเมืองในประเทศได้ หรือสงครามอาจเกิดขึ้นได้ในเงื่อนไขดังกล่าว ประวัติศาสตร์ก็มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย

ถึงแม้ในที่สุดแล้ว การเผชิญหน้าทางทหารอาจหลีกเลี่ยงไปได้ ..แต่สงครามเศรษฐกิจก็คงต้องดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด ทีจะนำความไม่แน่นอนมาสู่นักลงทุน ...แต่ไม่ว่าจะทางไหน การลงทุนในทองคำ physical ก็จะเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่ดีที่สุด เมื่อสักวันหนึ่งเกิดการด้อยค่าของเงินดอลล่าร์

Claudio Grass ที่ปรึกษาด้านโลหะมีค่าของสวิสเซอร์แลนด์ให้สัมภาษณ์กับ RT International

กลุ่มประเทศอียู เห็นว่าทองคำเป็นหลักประกันในกรณีที่สมาชิกแต่ละประเทศจำเป็นต้องกลับไปสู่สกุลเงินของตนเอง ....มีแต่คนโง่เท่านั้นที่เชื่อว่าจะสามารถสร้างความมั่งคั่งขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้ แถมยังจะใช้มันเป็นฐานในระบบที่ยั่งยืน

"ระบบที่เป็นอยู่ของเรานี้ อยู่บนพื้นฐานของปริมาณธนบัตร 7% และอีก 93% อยู่ในรูปดิจิตัล ทั้งหมดไม่ได้อิงกับอะไรเลยนอกจากสัญญาของ Fed ..."

"เงินยูโรซึ่งถือว่าเป็นสกุลเงินที่ fake ที่สุดในโลก จะต้องล่มสลายในที่สุด ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อไหร่"

Author Patrick Henningsen is an American writer and global affairs analyst and founder of independent news and analysis site 21st Century Wire, and is host of the SUNDAY WIRE weekly radio show broadcast globally over the Alternate Current Radio Network (ACR). He has written for a number of international publications and has done extensive on-the-ground reporting in the Middle East including work in Syria and Iraq.

Cr.Sayan Rujiramora

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"