มองไปในปี 2019

5:10...Jim Willie.....ผมรวบรวมอีเว้นท์ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาและผลที่จะเกิดต่อไป..ได้ประมาณ 10 เหตุการณ์ที่จะขอพูดถึง ..แต่ละเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เกิดขึ้นมาโดดๆแล้วก็ผ่านไป แต่มันเกิดต่อเนื่องกันยาว มันเป็น key event ที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ

 “ธนาคารกลางทั่วโลกต้องการทองคำมากขึ้น 42% หลังกระแสโลกเททิ้งดอลลาร์หนักขึ้น”

ธนาคารกลางของหลายประเทศทั่วโลกกำลังเปลี่ยนกระแสมาใช้ “ทองคำ” เป็นทางเลือกแทนค่าเงินดอลลาร์อเมริกา ซึ่งพวกเขาเห็นว่า “ถูกทำลายโดยนโยบายการค้าที่ก้าวร้าวของอเมริกา” และ “ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์”

“ปี 2018 ผ่านไปชาติใหญ่ รัสเซีย จีน อินเดีย ตุรกี อิหร่าน เทขายดอลล่าร์มากขึ้นอีก จีนดัน RCEP แทน TPP”

ปี 2018 ที่แล้วมามีเหตุการณ์มากมายที่ตอกย้ำภูมิรัฐศาสตร์ของโลกเราให้ “แบ่งเป็นสองขั้ว” มากยิ่งขึ้นอย่างชัดเจน ขั้วหนึ่งนั้นยังจงรักภักดีเป็นข้าทาสเงินใบเขียวดอลล่าร์ต่อไป ขณะที่อีกค่ายก็พยายามหันหลังให้กับมันมากขึ้นเรื่อยๆในฐานะเงินสกุลหลักของโลก

ธปท.ชงปรับ'กรอบเงินเฟ้อ' ป้องนโยบายการเงินผ่อนคลายเกิน

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เผยแพร่บทความเรื่อง "บทบาทของนโยบายการเงินเมื่อประสิทธิผลในการดูแลเงินเฟ้อลดลง" ผ่านในรายงานนโยบายการเงินฉบับล่าสุดว่า ประเทศไทยใช้กรอบนโยบายการเงินที่กำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อแบบยืดหยุ่น

เงินเฟ้อเกิดเมื่อปริมาณเงินมากเกินความต้องการ

Sound money หรือ money ที่แท้จริงที่จะไม่เพิ่มค่าหรือเสื่อมค่าทันทีทันใดได้ ..เพราะมันจะปรับตัวจากกลไกในตัวเอง..ในระบบ free-market ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าจัดการกับ money ของทุกวันนี้โดยอ้างถึง "การเติบโต" หรือ "เสถียรภาพ"

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"