ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันจันทร์ที่ 23 กันยายน โดยมีแรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลง 0.50% ในการประชุมสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่เช่นกัน
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ในวันที่ 23 ก.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากสองปัจจัยหลัก ได้แก่ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (safe haven)
ราคาทองคำวันนี้ (23 กันยายน 2567) ยังคงทรงตัวเทียบกับราคาปิดของเมื่อวาน โดยราคาทองคำแท่งขายออกอยู่ที่บาทละ 40,800 บาท และรับซื้อที่บาทละ 40,700 บาท ส่วนทองรูปพรรณขายออกที่บาทละ 41,300 บาท และรับซื้อที่บาทละ 39,961.76 บาท ขณะที่ราคาทองคำโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,620.00 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (23 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของจีน โดยมีปัจจัยกดดันจากการที่รัฐบาลจีนได้ปรับลดการใช้จ่าย และอัตราการว่างงานในกลุ่มเยาวชนเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ส่งผลให้ตลาดหุ้นหลายแห่งในภูมิภาคปรับตัวลดลง
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง .50% ของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในครั้งนี้ส่งสัญญาณที่สำคัญหลายประการสำหรับนักลงทุน:
-
การเปลี่ยนโฟกัสจากเงินเฟ้อไปสู่ตลาดแรงงาน: เฟดแสดงความมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมาอยู่ที่ 2.5% อยู่ในระดับที่ควบคุมได้
"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"