โกงคริปโต-ปั่นหุ้นนักการเมืองร่วมก๊วนฟอก

แฉ 3 นักการเมืองดังเอี่ยวคดีฟอกเงิน โกงบิตคอยน์ชาวต่างชาติพันหุ้น DNA พบ "ปริญญา" ขายหุ้นทิ้ง 8% ล่าสุดราคาถูกทุบติดฟลอร์ มูลค่าซื้อขายพุ่งกว่า 200 ล้าน "ประสิทธิ์" เต้นปฏิเสธ อ้างถูกไล่ออกหลังพบความไม่ชอบมาพากล

ปฏิบัติการของกองบังคับการปราบปราม บุกจับนายจิรัชพิสิษฐ์ หรือบูม จารวิจิต อายุ 27 ปี ดารานักแสดง ข้อหาร่วมกับพี่ชายและพี่สาว หลอกลวงนายเออาร์นี โอตาวา ซาริมา ชาวฟินแลนด์ ให้ลงทุนประกอบธุรกิจประเภท ซื้อ-ขาย สกุลเงินดิจิตอล ในชื่อ dragon coin (DRG) โดยซื้อหุ้นของบริษัท เอ็กซ์เปย์ ซอฟท์แวร์ จำกัด, NX Chain Inc. และหุ้นของบริษัทดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) โดยอ้างว่าสามารถทำกำไรได้สูงมาก

จนนายเออาร์นี หลงเชื่อโอนเหรียญบิตคอยน์ (สกุลเงินดิจิตอล) 5,564.446 เหรียญ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 797,408,454 บาท ไปยังกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet) ของกลุ่มผู้ต้องหา จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้ถอนเงินสกุลบิตคอยน์ไปขายแปลงเป็นเงินสกุลไทย ก่อนจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารพาณิชย์และโอนเงินที่ได้มาแบ่งให้กับผู้ร่วมขบวนการแต่ละคน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง 3 ราย คือ นายจิรัชพิสิษฐ์ หรือบูม จารวิจิต นายปริญญา จารวิจิต และน.ส.สุพิชฌาย์ จารวิจิต นอกจากนี้ยังพบว่า มีผู้ร่วมขบวนการอีก 4 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงอยู่ในวงการหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ หนึ่งในนั้นมีชื่อนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ขาใหญ่ในตลาดหุ้นเป็นผู้ร่วมขบวนการ

ประสิทธิ์ยันบรสุทธิ์

นายประสิทธิ์ ยืนยันความบริสุทธิ์กับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่ามีหลักฐานเอกสารต่างๆที่ชี้แจงได้ เพราะได้ออกจากในบริษัท ไวเทคฯ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 เพราะถูกนายปริญญาไล่ออกจากการเห็นความไม่โปร่งใสในบริษัท "ผมรู้จักกับนายเออาร์นี และภรรยาคนไทยคือคุณแตงโม มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีก่อนจากการแนะนำของนายปริญญา ก็นัดไปเจอกันที่สิงคโปร์ และผมก็ชื่นชอบในคุณเออาร์นี เพราะเห็นว่าเป็นเจ้าพ่อบิตคอยน์มีมูลค่าลงทุนสูง จึงตั้งบริษัทไวเทคฯ ขึ้น ยืนยันว่านายปริญญาไม่ใช่ลูกน้องที่ทำงานร่วมกันในบริษัท หลักทรัพย์แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) มาก่อน"

ขณะบริษัท หลักทรัพย์แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่าบริษัทไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับกรณีดังกล่าว ส่วนกรณีที่มีชื่อของนายประสิทธิ์ ซึ่งเคยเป็นอดีตประธานกรรมการบริหาร ของบริษัทฯนั้น ปัจจุบันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับบริษัทโดยนายประสิทธิ์ ไม่ได้เป็นกรรมการ หรือมีอำนาจบริหาร และไม่ได้เป็นพนักงานของบล.แอพเพิล เวลธ์ฯ

"ปรญญา"ถือหุ้น VI-T

"ฐานเศรษฐกิจ"ตรวจสอบพบว่า กระบวนการแปลงบิตคอยน์มาเป็นเงินสกุลบาททำได้ 2 ทาง ทางแรกขายในตลาด bx.in.th ซึ่งมีการโอนและมีหลักฐานทางบัญชีชัดเจน ทางที่ 2 คือเปิดซื้อขายในตลาด OTC ซึ่งคนที่มีเงินมากจะเข้ามาซื้อขายและส่วนใหญ่ในไทยจะเป็นกลุ่มหรือตัวแทนนักการเมืองแทบทั้งสิ้น เพราะสามารถหลบเลี่ยงเส้นทางการเงินได้ แถมยังมีเงินดิจิตอลที่เปิดเผยได้ซึ่งกรณีนี้มีนักการเมืองอย่างน้อย 3-4 ราย ที่เข้าไปลงทุน คนแรกเป็นผู้หญิง ชื่อย่อ ส. คนที่2 เป็นอดีตนายทหาร ชื่อย่อ ศ. และคนที่ 3 เป็นสามีนักการเมือง ชื่อย่อ ส.

นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่านายปริญญาเป็นผู้ถือ หุ้นรายใหญ่ในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ 2 บริษัท คือ บริษัท เวนเจอร์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "VI" จำนวน 35.86 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 5.76% ของหุ้นที่จดทะเบียน และบริษัท ที เอ็นจิเนียร์ริ่ง คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "T" 150 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.48% ของหุ้นที่จดทะเบียน

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 นายปริญญา ได้ซื้อหุ้น DNA จำนวน 5.15% ต่อมาในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 คณะกรรมการบริษัท DNA มีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายปริญญา ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ และกรรมการบริหาร มีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 หลังจากนั้น 2 วัน นายเออาร์นี ผู้เสียหายในคดีนี้ ซื้อหุ้น DNA 3.02% เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 ทำให้ถือครองหุ้นรวม 6.52% ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 นายปริญญา ขายหุ้น DNA จำนวน 8.05% ออกไป และเหลือการถือครองหุ้น DNA อยู่ 1.76%

DNAเคลื่อนไหวผดปกติ

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น DNA ในช่วงเดือนมิถุนายนกรกฎาคมค่อนข้างทรงๆตัวในช่วงราคา 0.38- 0.41 บาท มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 1-2 ล้านบาทต่อวัน การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเริ่มผิดปกติตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม ราคาขึ้นมาที่ 0.49 บาท เพิ่มขึ้น 29% มูลค่าซื้อขาย 26 ล้านบาท ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกัน 4 วัน ในวันที่ 7 สิงหาคม ราคาขึ้นไปชนซิลลิ่งอีกครั้ง ปิดที่ 0.70 บาท มูลค่าซื้อขายเพิ่มเป็น 82 ล้านบาท วันที่ 8 สิงหาคมราคายังปิดบวกที่ 0.76 บาท มูลค่าการซื้อขายทะลุ 113 ล้านบาท

ในวันที่ 9 สิงหาคม หลังมีข่าวกรณีฟอกเงินและฉ้อโกง และมีการจับกุมผู้ต้องหาด้ 1 ราย ราคาหุ้น DNA ปิดลดลงมาที่ 0.71 บาท มูลค่าซื้อขายยังหนาแน่นกว่า 122 ล้านบาท บริษัทชี้แจงข่าวว่าไม่มีส่วนเกี่ยวใดๆ กับการลงทุนในเงินสกุลดิจิตอล โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม ราคาหุ้นรูดติดฟลอร์ เหลือ 0.50 บาท ขณะที่มูลค่าการซื้อขายมีอย่างหนาแน่นที่สุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาถึง 268 ล้านบาท

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวตำรวจกองปราบปรามได้จับกุมผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงิน โดยผู้เสียหายถูกชักชวนให้ลงทุน และหลงเชื่อโอนเงินดิจิตอลสกุลบิตคอยน์ คิดเป็นเงินไทยจำนวนกว่า 797 ล้านบาท ในชั้นนี้ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงที่ชัดเจน และจะนำมาพิจารณาว่ามีการกระทำส่วนใดที่เป็นการกระทำผิดกฎหมายหลักทรัพย์ หรือกฎหมายการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอลหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีส่วนที่เกี่ยวข้องก.ล.ต. จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

Source: ฐานเศรษฐกิจ

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students

บทความสนับสนุนโดย FXPro
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"