แบงก์กสิกรไทยเตรียมเซ็นตั้งไปรษณีย์เป็นแบงกิ้งเอเยนต์เดือนหน้า นำร่องเฉพาะธุรกรรมฝากเงิน ส่วนถอนเงิน ต้องรอดูความพร้อมในการเก็บรักษาเงิน ห่วงเรื่องความปลอดภัย หลังจากนี้มีแผนร่วมมือ กับปตท.ต่อไป
จับมือเรือด่วนเจ้าพระยา จ่ายค่าโดยสารผ่านคิวอาร์โค้ดได้ลด 2 บาท
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในเดือนส.ค.นี้ ธนาคารจะลงนามความร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อให้เป็นตัวแทนธนาคาร หรือแบงกิ้งเอเยนต์ หลังได้ยื่นแผนให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)พิจารณาแล้ว เบื้องต้นจะให้ทำธุรกรรมด้านรับฝากเงิน ก่อนเท่านั้น ส่วนการถอนเงินนั้น ยังต้องดูความพร้อมในส่วนอื่นๆ เช่น ความปลอดภัยในการเก็บรักษาเงินเพื่อใช้ในการเบิกถอน ซึ่งอาจมีความเสี่ยงอยู่ เพราะเงินรอเบิกถอนมีจำนวนมาก และต่อไปจะร่วมมือกับพันธมิตรของธนาคารอื่นๆ เช่น บริษัท ปตท.ในการเป็นแบงกิ้งเอเยนต์เพื่อกระจายบริการทางการเงินให้ลูกค้าได้เข้าถึงทั่วประเทศ
ทั้งนี้มองว่าการบริการทางการเงินของธนาคารกสิกรไทยควรทำควบคู่กันทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ โดยแบงกิ้งเอเยนต์จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทางเลือกเท่านั้น เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น แต่ในบางพื้นที่ สาขาธนาคารก็ยังคงจำเป็นอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารไม่ได้มุ่งเน้นที่จะลดสาขาเหมือนกับบางธนาคาร เพราะลูกค้าในบางพื้นที่ยังมีความต้องการ แต่ก็มีปิดสาขา และเปิดสาขาเพิ่มขึ้นสอดรับลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ
ธนาคารได้ร่วมกับกรมเจ้าท่า และบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา สนับสนุนชำระค่าโดยสารผ่านคิวอาร์โค้ด นำร่องใน 3 ท่าเรือ ได้แก่ นนทบุรี พรานนก และสาทร ประเภทเรือด่วนโดยสารพิเศษ ธงส้มและธงเหลือง โดยสามารถรองรับผู้โดยสารเรือด่วนเจ้าพระยาที่มีกว่า 35,000 คนต่อวัน และมีแผนขยายการให้บริการด้วยคิวอาร์โค้ดให้ครอบคลุมและทั่วถึงมากยิ่งขึ้นในอนาคต ทั้งกับ เรือโดยสารประเภทอื่นๆ
นอกจากนี้ธนาคารได้จัดโปรโมชั่น พิเศษลดค่าโดยสาร 2 บาท สำหรับผู้โดยสารที่ชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดผ่านเคพลัส รวม 60,000 สิทธิ เพื่อให้ผู้โดยสารได้ทดลองใช้บริการ ทำให้มียอดการใช้ คิวอาร์โค้ดเพิ่มขึ้นถึงกว่า 7,000 รายการ จากเดิมที่ชำระด้วยเงินสดทั้งหมด โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและสนับสนุนการสร้างประสบการณ์สังคมไร้เงินสดให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น และยังช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการ รวมทั้งช่วยลดภาระของเจ้าหน้าที่ของเรือด่วนเจ้าพระยาอีกด้วย ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้จ่ายค่าตั๋วเรือผ่านคิวอาร์โค้ดที่สามารถขยายตัวได้อีกมากเป็น 30% หรือประมาณ 7,000-10,000 คนต่อวัน จากเดิมเพียง 2% และจะขยายการเชื่อมโยงกับบัตรขนส่ง สาธารณะอื่นๆ เช่น บัตรแมงมุมและ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ในอนาคตจะ เข้ามามีบทบาทด้านการขนส่งสาธารณะอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ในปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าใช้แอพเคพลัส รวมกว่า 8.4 ล้านราย คิดเป็นมูลค่าธุรกรรมการรับชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดรวมกว่า 4,000 ล้านบาท มีปริมาณธุรกรรม 800,000 รายการ เพิ่มขึ้นจากเดิม 120,000 รายการ เมื่อเดือน พ.ย.2560 และคาดสิ้นปีนี้ปริมาณธุรกรรมจะเพิ่มเป็น 1 ล้านรายการ ครอบคลุมหลายกลุ่มธุรกิจรวมถึงกลุ่มขนส่งมวลชน โดยธนาคารได้พัฒนาการใช้คิวอาร์โค้ดเพื่อชำระค่าตั๋วให้กับระบบขนส่งมวลชนมาแล้วทั้งเครื่องบิน รถสาธารณะ และรถไฟ
ส่วนการถอนเงินนั้น ยังต้องดูความพร้อมในด้านอื่นๆ
Source: กรุงเทพธุรกิจ
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
บทความสนับสนุนโดย FXPro
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman