ข่าวการระดมทุนที่โด่งดังที่สุดในโลก Start Up ตอนนี้คงไม่พ้นข่าวการระดมทุนในซีรี่ส์ C ซึ่งมีมูลค่ากว่า 600 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ของบริษัท Sensetime ซึ่งเป็นบริษัทที่ค้นคว้าวิจัย และสร้าง business solution
โดยใช้ AI-Face recognition-Deep Learning เป็นเทคโนโลยีเพื่อผลักดันภาคธุรกิจไปข้างหน้า
บริษัทที่ลงทุนมากที่สุดในรอบนี้คือบริษัท Alibaba ซึ่งทาง Alibaba บอกว่าด้วยเทคโนโลยีของ Sensetime อลีบาบาเห็น solution ที่จะตอบโจทย์ทางธุรกิจได้หลายอย่าง เขาเชื่อว่า Sensetime จะกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามหาศาลในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินจาก CB Insights ซึ่งประเมินมูลค่าบริษัท Sensetime ไว้ขั้นต่ำที่ 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ นั่นทำให้ Sensetime กลายเป็นบริษัท AI Startup ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Sensetime ปัจจุบันนี้มีทั้งพันธมิตรและลูกค้ารวมกันแล้วมากกว่า 400 ราย หนึ่งในลูกค้าที่โด่งดังที่สุด ซึ่งทำให้เกิดคลิปวีดีโอที่เป็น viral ไปทั่วคือรัฐบาลจีน ซึ่ง Sensetime ได้พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยในโปรแกรม ‘Sharp Eyes’ ของรัฐบาล ผ่านแว่นที่สามารถสแกนใบหน้าเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลอาชญากรได้ จากเทคโนโลยีนี้ รัฐสามารถจับผู้ต้องสงสัยได้กว่า 2000 คน และปิดคดีได้เกือบ 100 คดี
นอกจากนั้น Sensetime ได้พัฒนาหลายผลิตภัณฑ์ เช่น Business solution สำหรับกลุ่มค้าปลีก หนึ่งในบริษัทที่ลงทุนใน Sensetime คือบริษัท Suning ที่ทำ Smart Retail โดย Suning ตั้งเป้าหมายในอนาคตที่จะใช้ระบบสแกนใบหน้าร่วมกับระบบการระบุตัวตน เพื่อสามารถให้ลูกค้าจับจ่ายโดยไม่ต้องเสียเวลาชำระเงิน (โมเดลเดียวกับ Amazon Go)
Sensetime ยังได้พัฒนาไปถึงการใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ผสานกับระบบ AI เพื่อทำ Smart City ในแง่ของการรักษาความปลอดภัยและการจัดการจราจรภายในเมือง พัฒนาเทคโนโลยี Smart Car เพื่อเพิ่มความสามารถให้รถยนต์ ลดการเกิดอุบัติเหตุได้ โดยล่าสุด ได้จับมือกับ Honda เพื่อร่วมพัฒนาเทคโนโลยี Self-Driving Car โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความปลอดภัยในการขับขี่
นอกจากกลุ่มภาคธุรกิจจะให้ความสนใจ Sensetime อย่างมากแล้ว แม้แต่บริษัทที่เป็นกองทุนระดับชาติอย่างเทมาเส็กของสิงคโปร์ก็เข้าร่วมในการระดมทุนครั้งนี้ด้วยเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการเจริญเติบโตของบริษัท ทั้งนี้ บริษัท Sensetime ได้ประกาศว่าในปี 2017 งบการเงินของบริษัทกลับมามีกำไรแล้ว เพราะนอกจากลูกค้าข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว ยังมีบริษัทใหญ่จำนวนมากที่เป็นลูกค้า เช่น OPPO และ ViVo ที่ต้องการพัฒนา Application กล้องถ่ายรูปโดยใช้ระบบ AI หรือ Weibo ที่ต้องการพัฒนาด้าน AR เป็นต้น
การพัฒนาด้านเทคโนโลยีทางด้าน AI ของจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐบาลของจีนนี้ สร้างความกดดันให้กับบริษัทพัฒนา AI ของสหรัฐไม่น้อย มีรายงานว่าเงินลงทุนในเทคโนโลยี AI รวมกันทั่วโลกมีปริมาณถึง 15,200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเงินลงทุนนี้ไหลไปที่บริษัทจีน 48% ในขณะที่ไหลเข้าสหรัฐแค่ 36% เท่านั้น
Mei
#Sensetime #AI #FaceRecognition #Startup #Dinotech
https://www.facebook.com/dinotech5.0/?ref=br_rs
https://www.facebook.com/dinotech5.0/?ref=br_rs
http://www.thestandard.com.hk/section-news.php?id=194542&sid=17
https://www.facebook.com/dinotech5.0/?ref=br_rs
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman