“โลกการเงินก้าวไปสู่โมบายแบ็งกิ้ง ... ธนาคารเปิดศึกไม่เก็บค่าธรรมเนียม”

... ปีนี้มีข่าวที่แสดงถึง “จุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของวงการธนาคาร” ในโลกและในไทย ที่พยายามรักษาความเป็นนายหน้าและตัวกลางทางการเงินเอาไว้หลังจากเกิดการสร้างบล็อคเชน หรือ เงินคริปโต ที่จะเกิดชุมชนการเงินแบบสหกรณ์เฉพาะ

ที่ไม่ต้องอาศัยการผ่านนายหน้าหรือตัวแทนทางการเงินอีกต่อไป “เงินออม” ของไทย หรือของโลกจะหลุดไปในหลายส่วน แม้จะยังไม่แพร่หลาย แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะมีตัวเลือกและทางเลือกใหม่ๆเข้ามาที่จะทำให้บทบาทของธนาคารน้อยลงไปมาก พวกเขาจึงต้องพยายามรักษาฐานลูกค้าผูกไว้กับตัวเองก่อน ตั้งแต่ต้น และนำไปสู่ “สงครามโมบายแบ็งกิ้ง”

... “อินเตอร์เน็ตแบ็งกิ้ง” นั้นแม้จะมีมาเป็นสิบปีแล้ว แต่ยังไม่แพร่หลาย จนเมื่อมี “โมบายแบงกิ้ง” ที่มาพร้อมกับความไฮเทคของตัวโทรศพท์ เข้ามาก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะปี 2016 ที่ตัวเลขบอกว่าความนิยมมากแบบพุ่งทะยานจนทำให้หลายธนาคารในไทยอยู่เฉยไม่ได้ จึงต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อความอยู่รอดเพื่อรักษารวมทั้งขยายฐานลูกค้าในส่วนนี้โดยเร็วที่สุด

... ปี 2561 เป็นปีที่ธนาคารพาณิชย์พาเปิดศึกกันเล่นใหญ่จัดหนัก ทั้งเพื่อดึงตัวและชิงลูกค้ายุคดิจิทัล โดยนอกจากจะมุ่งพัฒนาแอปพลิเคชัน Mobile Banking ให้สอดรับการใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับบริการทางการเงินได้ครบทุกด้านและมุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์ ล่าสุดได้ประกาศสงคราม “ยกเลิกค่าธรรมเนียมจากการใช้บริการยอดฮิตที่นิยมใช้ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ”

... ล่าสุดวันที่ 28 มีนาคม 2018 “ธนาคารไทยพาณิชย์” ประกาศไม่เก็บค่าธรรมเนียม จากการทำธุรกรรม 5 ประเภทผ่าน SCB EASY โดยระบุว่าเป็นธนาคารรายแรกที่ยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมการเงิน 5 ประเภทยอดฮิต ได้แก่ 1. โอนข้ามเขต 2. โอนต่างธนาคาร 3. เติมเงินต่างๆ 4. จ่ายบิล 5. กดเงินโดยไม่ใช้บัตรข้ามเขต ผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY” เนื่องจากเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม เป็นต้นไป

... ในบ่ายของวันที่ 28 มีนาคม 2018 “ธนาคารกสิกรไทย” ได้มีประกาศเพิ่มเติม หลังจากที่ประกาศตัดหน้าไทยพาณิชย์ 1 วันไปเมื่อวันที่ 27 มีนาคมว่า จะยกเลิกค่าธรรมเนียมตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม จนถึงสิ้นปีนี้ ให้ “ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าผู้ประกอบการ” ที่ใช้บริการช่องทางดิจิทัล 4 ช่องทาง ได้แก่ K PLUS, K PLUS SME, K-Cyber, K-Cyber SME

... “ธนาคารกรุงเทพ” ได้ประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมในเย็นวันที่ 28 มีนาคม 2018 โดยประกาศ “ฟรีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางช่องทางดิจิทัล ผ่านโทรศัพท์มือถือ” บัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง และทางอินเทอร์เน็ต บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง ที่ลูกค้านิยมใช้บริการโอนเงินข้ามเขต โอนเงินต่างธนาคารแบบทันที โอนเงินพร้อมเพย์ การชำระบิลค่าสินค้าและบริการ และบริการเติมเงิน พร้อม “ยกเว้นค่าธรรมเนียมเอทีเอ็ม” ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 30 เมษายน 2561 ( แหมนึกว่าจะไม่เก็บค่าธรรมเนียมเอทีเอ็มตลอดด้วย )

... วันที่ 28 มีนาคม 2018 “ธนาคารกรุงไทย” ได้เผยแพร่เอกสารข่าวประกาศไม่คิดค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามเขต หรือโอนต่างธนาคารแบบทันที จ่ายบิลค่าสินค้าและบริการ บริการเติมเงิน ผ่าน KTB netbank เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2561 จนถึงสิ้นปีนี้

... พวกเขาพยายามทำให้ประชาชนหันมาใช้เงินผ่านอินเตอร์เน็ต สู่ “สังคมไร้เงินสด” ลดการใช้เงินสดลง ฟังเผินๆเหมือนดูดีมีชาติตระกูลทันสมัยไฮเทค แต่ก็เหมือนเอาใจวอลล์สตรีท เพราะหลายสกุลนั้นไม่มีทองคำค้ำประกันในการผลิตเงินโดยเฉพาะดอลล่าร์ ดังนั้นแม้ไร้เงินสดแต่ก็เป็นเงินเฟียตเหมือนเดิม ที่สามารถสร้าง “เงินเฟ้อ” ได้ และเงินเฟ้อนี้สามารถใช้เป็นอาวุธหอกแหลมในการทำร้ายศัตรูใน “สงครามการเงิน” ได้ ดังนั้น “จีน” นั้นแม้เขาจะเข้าสู่การจ่ายเงินผ่านโมบายแบ็งกิ่งเหมือนกัน สังคมไร้เงินสดเหมือนกัน แต่ก็ต่างกันที่ จีน เขามีทองคำค้ำในการผลิตเงิน เงินเฟ้อจึงโอกาศน้อยกว่า การเงินมีเสถียรภาพมากกว่า

... ข่าวบอกว่าค่าธรรมเนียมการโอนปรกติเช่นผ่านเอทีเอ็มนั้นเป็นรายได้หลักอย่างหนึ่งของธนาคารเช่นกัน แต่ถ้าอนาคตคนไทยนิยมทำธุรกรรมผ่านทาง “โมบายแบ็งกิ้ง” มากขึ้นแล้ว พวกเขาก็ยอมและเลือกที่จะเบนเข็มมาสมรภูมิใหม่เพื่อจะได้ประหยัดค่าสร้างธนาคารสาขา ลดจำนวนพนักงานหน้าเคาน์เตอร์​ลงได้​ ลดค่าตั้งตู้เอทีเอ็มเพิ่ม หรือค่าซื้อรถ ค่าขนส่งเงินและดูแลรักษาตู้เอทีเอ็ม เป็นการแลกเปลี่ยนกัน เพื่อจะรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

... โดยธนาคารบอกว่าจะลดการใช้เงินสดลงไปในสังคม ที่การทำแบบนี้ทำให้พวกวอลล์สตรีทยิ้มแก้มปริ เพราะตราบใดที่พวกเขายังคุมธนาคารได้ทั่วโลก เงินเฟียตแบบที่ไร้ทองคำค้ำประกัน หรือระบบ Fractional Reserve นั้น จะทำให้พวกเขาควบคุมการเงินโลกได้ต่อไป และที่สำคัญพวกเขาเป็น “คนเก็บเงินออมของคนไทย” ทั้งประเทศไว้เหมือนเดิม

... ลองคิดดูว่าถ้าเรามีเงินคริปโตที่มีทองคำ น้ำมัน หรือทรัพย์สินอื่นๆมาค้ำและไม่ต้องผ่านธนาคารแล้วสร้างบล็อคเชนของตัวเอง มันจะเหมือนเมื่อสามสิบปีก่อนที่เราเกือบจะมี “เบี้ยกุดชุม” ที่ชาวหมู่บ้านยโสธรทำขึ้นเพื่อจะมีระบบการเงินของพวกเขาเอง ที่ไม่ต้องผูกและถูกควบคุมโดยนายทุนธนาคารใหญ่จากเมืองหลวง แต่เรื่องนี้ก็เป็นแค่ฝัน เพราะพวกเขาเอาเรื่องความมั่นคงจากปัญหาในอดีตมาเป็นตัวทำลาย “ระบบการเงินแบบสหกรณ์ชุมชน” ที่ดีมากโครงการหนึ่งไป ( ในสามสี่จังหวัดภาคใต้ของไทยของชาวมุสลิม ทำเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี จนคนยิว คุมเงินของชาวมุสลิมไม่ได้ พวกเขาเลยพยายามทำลายศาสนาอิสลาม ) เพราะพวกเขาต้องการรวบเงินออมของคนไทยทั้งชาติเอาไว้ที่กลุ่มนายธนาคารกลุ่มเดียว เป็น “เผด็จการทางการเงิน” อย่างหนึ่ง เราจึงไม่มี Financial Decentralization หรือ “การกระจายอำนาจทางการเงิน” ไปสู่สังคมระดับย่อยภูมิภาคในประเทศเราเลย

... แต่เมื่อ “เวเนซุเอล่า” ได้ออกเงินคริปโต “เปโตร” ที่มีน้ำมันค้ำประกันเป็นครั้งแรกในโลก ที่ดีกว่าบิตคอยน์ที่ไม่มีอะไรค้ำเลย ( เป็นแค่เงินเฟียตอย่างหนึ่ง ที่ไม่ได้ผ่านธนาคารแค่นั้นเอง แต่ดูเท่เก๋ไก๋ไฉไล สมัยใหม่ เพราะเล่นผ่านอินเตอร์เน็ตทำให้เด็กๆไหลหลง ) พวกเขาจึงรู้ว่าพวกเขาจะเห็นเงินออมจากการซื้อขายส่วนหนึ่งหลุดหายไปจากคลังเงินของธนาคาร และไม่ได้ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมต่างๆ บทบาทในโลกอนาคตของพวกเขาน้อยลงเรื่อยๆ เงินออมของทั่วโลกจะกระจายไปทั่วตามบล็อกเชน หลุดจากห้องเก็บเงินของเขา ทรัมป์ที่เป็นนายหน้าวอลล์สตรีทจึงประกาศไม่รับรองเงินคริปโต “เปโตร” ของเวเนซุเอล่า ทั้งๆเงินนี้มีน้ำมันค้ำประกันด้วย ดีกว่าเงินบิตคอยน์อย่างเห็นได้ชัด ที่บิตคอยน์นั้นอเมริกาและญี่ปุ่นกลับยกก้นยอมรับซื้อขายกันเฉยแบบเสี่ยงทั้งการแฮกและเฟ้อ โดยความร่วมมือของหน่วยราชการลับอาจจะช่วยเหลือในการสร้างบล็อคเชนขึ้นมาเพียงเพื่อจะสกัดกระแสเงินหยวนที่พยายามโผล่ขึ้นมาบนยอดเขาแห่งการเงินของโลก

... แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น “สังคมไร้เงินสด” ที่เรากำลังจะเดินไปสู่โลกใหม่ใบนี้นั้น ฝรั่งตะวันตกบอกว่าก็มีเรื่องที่จะระวัง เรื่องใหญ่ก็คือ การแฮก การล้วงข้อมูล การเอาข้อมูลของเราไปทำอะไรมากมาย และความปลออดภัยอื่นๆ เช่นเรื่องที่เฟสบุ๊คเอาข้อมูลไปให้หน่วยข่าวกรองอเมริกาเฉยๆ ไร้ความส่วนตัว ที่ต่างชาติถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะพวกเขาจะเอาข้อมูลเหล่านั้นไปทำกับสินค้าใหม่ๆ หรือทำอะไรไม่ดีก็ได้ เป็นเรื่องที่ธนาคารทั้งหลายจะต้องปรับปรุงต่อไป

https://www.posttoday.com/finance/news/510405 

https://thaipublica.org/2018/03/banking-fee-mobilebanking-application-scbeasy/ 

https://medium.com/andolasoft/mobile-banking-pros-and-cons-plus-some-helpful-tips-b43910a21851 

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"