กระทรวงการคลังได้รายงานต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมวันนี้ถึงการฟื้นฟูกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งเป็นกองทุนที่เคยมีบทบาทสำคัญในการระดมทุนเพื่อฟื้นฟูตลาดทุนและเพิ่มการออมของประเทศ โดยกระทรวงการคลังกำลังพิจารณาเงื่อนไขของหน่วยลงทุนประเภท ก. ซึ่งอาจมีบทบาทสำคัญในรอบใหม่นี้
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้เสนอให้ ครม. พิจารณาการจัดตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและ SME โดยการเปิดโอกาสให้พวกเขาสามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้น ด้วยการมีหลักประกันที่เพียงพอ
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันที่ 13 สิงหาคม มีวาระสำคัญที่น่าสนใจหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือกระทรวงการคลังได้นำเสนอต่อ ครม. เรื่องการฟื้นฟูกองทุนวายุภักษ์ 1 เพื่อเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไปอีกครั้ง โดยมีกำหนดการแถลงข่าวในช่วงบ่ายวันนี้เกี่ยวกับรายละเอียดของกองทุนดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนประเภท ก. สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ เพิ่มทางเลือกการออมและสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศ
ในงานแถลงข่าวนี้ ผู้แถลงข่าวประกอบด้วย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ศ.ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
กองทุนวายุภักษ์นี้เคยมีบทบาทสำคัญในช่วงปี 2546 โดยระดมทุนภายในประเทศมากกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งในครั้งนั้นได้เปิดขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ให้กับประชาชนทั่วไปที่ราคาหน่วยละ 10 บาท รวมทั้งสิ้นประมาณ 1 แสนล้านบาท ส่วนหน่วยลงทุนประเภท ข. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนภาครัฐ เช่น รัฐวิสาหกิจ และกองทุนต่างๆ
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังเสนอวาระเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับแนวคิดการจัดตั้ง "สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ" (NaCGA) เพื่อเป็นกลไกในการค้ำประกันสินเชื่อรูปแบบใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้กู้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้นโดยมีหลักประกัน ซึ่งจะครอบคลุมตั้งแต่สินเชื่อรายย่อยไปจนถึงสินเชื่อธุรกิจ โดยผู้กู้จะจ่ายค่าธรรมเนียมในลักษณะคล้ายการซื้อประกัน และรัฐบาลจะช่วยสมทบค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งตามระดับความเสี่ยงของผู้กู้
สำหรับวาระอื่นๆ ที่น่าสนใจในที่ประชุม ครม. ยังรวมถึงการเสนอร่างแผนดำเนินการร่วมระยะ 3 ปี เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านศักยภาพในการผลิตระหว่างประเทศสมาชิกกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง (ค.ศ. 2024 - 2026) โดยกระทรวงการต่างประเทศ และการเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยสำนักงบประมาณ
ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 สิงหาคม 2567 มีวาระสำคัญหลายเรื่องที่น่าสนใจ ซึ่งกระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ ได้เสนอต่อที่ประชุม โดยมีรายละเอียดดังนี้:
-
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เสนอผลการประชุมสมัชชากองทุนสิ่งแวดล้อมโลกครั้งที่ 7 รวมถึงการรับรองข้อเสนอโครงการที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุน Global Biodiversity Framework Fund (GBFF) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลก -
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เสนอขอความเห็นชอบต่อร่างปฏิญญารัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ครั้งที่ 9 และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก -
กระทรวงยุติธรรม
เสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชฝิ่นและพืชเห็ดขี้ควาย เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย -
กระทรวงสาธารณสุข
เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครอง รวมถึงร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก หรือจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือประเภท 4 -
กระทรวงอุตสาหกรรม
เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานกลิ่นในอากาศจากโรงงาน ซึ่งเป็นมาตรการควบคุมและลดมลพิษทางอากาศจากโรงงานอุตสาหกรรม -
กระทรวงมหาดไทย
เสนอร่างประกาศเรื่องการให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในชุมชนบ้านประกอบ จังหวัดสงขลา และชุมชนฉลุง จังหวัดสตูล เพื่อเป็นการวางแผนการพัฒนาและใช้พื้นที่ในชุมชนดังกล่าวอย่างมีระบบ -
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
เสนอผลการพิจารณาญัตติด่วนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน รวมถึงการขอพิจารณางบประมาณฉุกเฉินปี 2567 เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่าง ๆ -
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
เสนอรายงานผลการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ -
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
เสนอข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน -
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เสนอข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจากการติดตามข้อเสนอแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตเกี่ยวกับประกาศนียบัตรวิชาชีพครู
ที่ประชุม ครม. ยังได้พิจารณาสถานการณ์น้ำและการขอพิจารณางบประมาณฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
Cr.กรุงเทพธุรกิจ
----------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo