อดีตจนท.แบงก์ชาติอังกฤษชี้ ต้นทุนพิมพ์เงินในโครงการ QE เทียบเท่าภาระค่าใช้จ่ายโครงการรถไฟความเร็วสูง HS2

อดีตเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ออกมาเผยว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของแบงก์ชาติอังกฤษกำลังสร้างภาระให้กับผู้เสียภาษีในสหราชอาณาจักรมากพอ ๆ กับต้นทุนในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง HS2 ที่รัฐบาลอังกฤษได้ปรับลดลงแล้ว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อดีตเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ชื่อว่า ไมเคิล ซอนเดอร์ส (Michael Saunders) ซึ่งเคยเป็นคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินในช่วงปี 2559-2565 และปัจจุบันเป็นที่ปรึกษานโยบายอาวุโสของ Oxford Economics กล่าวว่า ต้นทุน 1.26 แสนล้านปอนด์ (1.61 แสนล้านดอลลาร์) จากการพิมพ์ธนบัตรของแบงก์ชาติที่ผู้เสียภาษีต้องจ่าย ซึ่งคำนวณโดยอิงการคาดการณ์อย่างเป็นทางการของรัฐบาลนั้น ใกล้เคียงกับต้นทุนในโครงการ HS2 เมื่อปรับเป็นฐานราคาใน 2566 แล้ว” ทั้งนี้ นายริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ยกเลิกการก่อสร้างรถไฟดังกล่าวทางตอนเหนือเนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
ไมเคิลได้เปรียบเทียบข้อมูลในรายงานฉบับหนึ่ง ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบจากมาตรการ QE ที่ส่งผลต่อการคลัง ระหว่างปี 2552-2564 ซึ่งมีการอัดฉีดเม็ดเงินราว 8.95 แสนล้านปอนด์เข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำที่สุด
อดีตจนท.แบงก์ชาติอังกฤษยังกล่าวว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ธนาคารกลางของประเทศใหญ่ ๆ เกือบทุกแห่งมีการใช้มาตรการ QE แต่แบงก์ชาติอังกฤษต้องแบกรับต้นทุนที่สูงกว่าประเทศอื่น ๆ ซึ่งผลกระทบด้านการคลังที่ตามมาจากการใช้นโยบายดังกล่าวส่งผลเสียมากกว่าที่คาดไว้มาก และข้อตกลงทั้งหมดจำเป็นต้องมีการพิจารณาใหม่
ภายใต้นโยบาย QE นั้น แบงก์ชาติอังกฤษได้เข้าซื้อตราสารหนี้ภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อลดภาระต้นทุนการกู้ยืมหลังมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงให้อยู่ในกรอบต่ำสุด (Eeffective lower bound) ที่ระดับ 0.5% โดยมีเป้าหมายคือ เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและหลีกเลี่ยงกับดักภาวะเงินฝืด
ขณะที่แบงก์ชาติอังกฤษมองว่า นโยบายดังกล่าวช่วยประคองภาคธุรกิจและตำแหน่งงานหลายพันตำแหน่ง ซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ
ไมเคิลยังระบุว่า ไม่ว่าจะแบงก์ชาติอังกฤษหรือกระทรวงการคลังเองก็ตาม ไม่มีใครคาดว่า จะใช้มาตรการ QE เป็นเครื่องมือหลักทางการเงิน หลังจากที่นำมาใช้ในปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงวิกฤตทางการเงิน และเมื่อวิกฤตเข้าขั้นหนักสุดเมื่อปี 2565 พันธบัตรที่แบงก์ชาติอังกฤษถือครองมีมูลค่าคิดเป็น 34% ของสัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
Source: สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

คลิก

Cr.Bank’s Scholarship Students

-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"