ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 67 เซนต์ กังวลโอเปกพลัสเลื่อนการประชุม

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (22 พ.ย.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศเลื่อนการประชุมนโยบายการผลิตน้ำมัน ซึ่งทำให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลก

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่สูงกว่าคาดของสหรัฐ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 67 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 77.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 49 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 81.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวลง หลังจากสำนักเลขาธิการของกลุ่มโอเปกพลัสออกแถลงการณ์ระบุว่า โอเปกพลัสจะเลื่อนการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันออกไปเป็นวันที่ 30 พ.ย. จากเดิมวันที่ 25-26 พ.ย.
แม้แถลงการณ์ของโอเปกพลัสไม่ได้ระบุเหตุผลของการเลื่อนการประชุม แต่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า การประชุมดังกล่าวประสบปัญหาเนื่องจากซาอุดีอาระเบียได้แสดงความไม่พอใจต่อการที่สมาชิกหลายรายละเมิดข้อตกลงในการผลิตน้ำมัน
ทามาส วาร์กา นักวิเคราะห์จาก PVM Oil Associates กล่าวว่า การไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงถือเป็นปัญหาท้าทายโอเปกพลัส เพราะหลายประเทศมีแรงจูงใจที่จะไม่ผลิตตามโควตาที่ได้รับ โดยเฉพาะรัสเซียที่ต้องการรายได้จากน้ำมันเพื่อนำไปสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน
ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 8.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 749,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 150,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจากอิสราเอลและกลุ่มฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิง

**********
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 184.74 จุด รับคาดการณ์เฟดปิดฉากขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (22 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองบวกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว และเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,273.03 จุด เพิ่มขึ้น 184.74 จุด หรือ +0.53%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,556.62 จุด เพิ่มขึ้น 18.43 จุด หรือ +0.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,265.86 จุด เพิ่มขึ้น 65.88 จุด หรือ +0.46%
ควินซี ครอสบี นักวิเคราะห์จากบริษัท LPL Financial กล่าวว่า แม้รายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.ระบุว่า กรรมการเฟดจะใช้ความระมัดระวังในการดำเนินนโยบายการเงินและส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น แต่นักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกว่าเฟดได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว ซึ่งมุมมองดังกล่าวช่วยหนุนตลาดดีดตัวขึ้นก่อนวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. 2567 แม้มีการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการเมื่อคืนนี้ ซึ่งแม้จะบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 24,000 ราย สู่ระดับ 209,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 5.4% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 4% ในเดือนก.ย.
นอกจากนี้ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 61.3 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 63.7 จากระดับ 63.8 ในเดือนต.ค.
ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุด โดยหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นแอปเปิ้ล บวก 0.3% หุ้นอัลฟาเบท ดีดตัวขึ้น 1.1% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.3%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมัน WTI หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เลื่อนการประชุมนโยบายการผลิตน้ำมันโดยไม่ระบุเหตุผล
หุ้นอินวิเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 2.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 4 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่บริษัทเตือนว่าการที่รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการควบคุมการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) อาจจะทำให้ยอดขายชิป AI ในประเทศจีนทรุดตัวลง
ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันนี้ (23 พ.ย.) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) และจะเปิดการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์ที่ 24 พ.ย.
โดย รัตนา พงศ์ทวิช
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์

คลิก

Cr.Bank’s Scholarship Students

-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"