“เทสล่า” ตั้งโรงงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว บริษัทเทสล่า มอเตอร์ ได้ก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่ในออสเตรเลียจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังจากที่เทสล่าชนะการประกวดราคา
ในการก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ขนาด 129 เมกะวัตต์ชั่วโมงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และด้วยคำมั่นจากนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสล่าว่าจะติดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 100 วันหลังการลงนามข้อตกลงวางวรจรเชื่อมต่อ หรือจะยกให้รัฐบาลแบบฟรีๆหากเกินกำหนด แต่เมื่อข้อตกลงการวางวรจรถูกลงนามเมื่อ 29 กันยายน ที่ผ่านมา เทสล่าได้ทำการติดตั้งแผงแบตเตอรี่เสร็จไปได้ครึ่งทางแล้ว
Tesla เริ่มผลิตเซลล์แบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่ดีที่สุดและถูกที่สุดในโรงงานที่ใหญ่ที่สุด
บริษัทเทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังก้าวหน้าไปอีกขั้นสำหรับภารกิจเร่งรัดให้โลกเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทนตามวิสัยทัศน์ของซีอีโออีลอน มัสก์ (Elon Musk) ผ่านทางการเพิ่มการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาไม่แพง เพื่อเพิ่มการผลิตและเก็บสำรองพลังงานหมุนเวียน ซึ่งหัวใจในเรื่องนี้ก็คือแบตเตอรี่ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2017 ที่ Gigafactory โรงงานแห่งใหม่ของพวกเขา เทสลาได้เริ่มไลน์การผลิตเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่จะใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Model 3 และผลิตภัณฑ์เก็บพลังงาน
เซลล์แบตเตอรี่รุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูงทรงกระบอกที่เรียกว่า ‘2170’ ตามขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 21 มม. และความยาว 70 มม. เป็นการออกแบบร่วมกันของเทสลาและพานาโซนิค เพื่อให้เป็นเซลล์แบตเตอรี่ที่ดีที่สุดและมีต้นทุนการผลิตต่ำที่สุด ที่สามารถใช้ได้ทั้งในรถรถยนต์ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์เก็บพลังงาน ซึ่งด้วยขนาดของโรงงานดังกล่าว Tesla ก็ได้มีความพยายามที่จะสร้างโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างมลพิษให้น้อยที่สุด และใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นหลัก
ในช่วงแรกจะเป็นการผลิตเซลล์แบตเตอรี่สำหรับ Powerwall 2 และ Powerpack 2 ที่เป็นแบตเตอรี่สำหรับใช้ที่บ้านและธุรกิจขนาดใหญ่ ส่วนเซลล์แบตเตอรี่สำหรับ Model 3 จะเริ่มผลิตในไตรมาสที่สอง และภายในปี 2018 โรงงาน Gigafactory จะผลิตเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนได้ 35 GWh/ต่อปี ซึ่งจะพอๆกับการผลิตของที่อื่นทั่วโลกรวมกัน
เทสลาบอกว่าพวกเขาสามารถเอาชนะการแข่งขันในองค์ประกอบสำคัญสองอย่างในการผลิตเซลล์แบตเตอรี่ คือ ต้นทุนและความหนาแน่นของพลังงาน “เรามีเซลล์แบตเตอรี่ที่ดีที่สุดในโลก และมันยังถูกที่สุดอีกด้วย” มัสก์ กล่าว
Gigafactory เป็นโรงงานขนาดใหญ่มากตั้งอยู่ที่รัฐเนวาดา เกิดจากการร่วมทุนของเทสลากับพานาโซนิค ด้วยเงินลงทุนที่คาดว่าจะเกิน 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสร้างเสร็จอาคารโรงงานจะมีพื้นที่ถึง 1 ล้านตารางเมตร ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้น แต่จะยังใช้พลังงานหมุนเวียน 100% จากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม โดยมีเป้าหมายที่จะผลิตพลังงานเองทั้งหมด ขณะนี้งานก่อสร้างโรงงานเสร็จยังไม่ถึง 30% แต่ก็พร้อมแล้วสำหรับการผลิตเซลล์แบตเตอรี่
อีลอน มัสก์ ให้ความสำคัญกับการออกแบบโรงงานอย่างมาก “ถ้าเราใช้วิศวกรที่มีความคิดสร้างสรรค์มาออกแบบโรงงาน พวกเขาจะสร้างโรงงานที่สามารถประหยัดต้นทุนได้มากกว่าการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เป็นสิบเท่า” มัสก์ กล่าว “ความพยายามในงานวิศวกรรมของเราคือการสร้างโรงงานให้เหมือนกับมันเป็นสินค้านั่นเอง”
และเมื่อ Gigafactory เสร็จสมบูรณ์มันจะผลิตเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนได้ถึง 150 GWh/ต่อปี ซึ่งเพียงพอสำหรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า 1.5 ล้านคัน โดยเทสลามีแผนที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 500,000 ต่อปีภายในปี 2020 ซึ่งพวกเขาก็มีออร์เดอร์รออยู่แล้ว เฉพาะยอดจองล่วงหน้าของ Model 3 ก็เกิน 400,000 คันไปแล้ว
นอกจากนี้การเริ่มไลน์การผลิตเซลล์แบตเตอรี่ยังสร้างงานเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก ในปี 2017 เทสลาจะจ้างพนักงานโดยตรงราว 6,500 คน และจะมีการจ้างงานทางอ้อมอีก 20,000 – 30,000 คนรอบๆพื้นที่โรงงาน
เรากำลังเข้าสู่ยุคใหม่ ยุคที่ใช้แบตเตอรี่เพื่อเก็บพลังงานไฟฟ้า ถ้าถามว่าใครจะมาทำลายธุรกิจน้ำมัน หลายคนคงตอบว่า “โซล่าร์ เซล” แต่ผู้อยู่เบื้องหลังในการทำลายที่แท้จริง คือ ลิเธียม ไอออนแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน Li-ion ถือเป็นแบตเตอรี่ ที่ใช้กันมากที่สุด และเหมาะสมที่สุดในขณะนี้ และคนที่เป็นผู้นำตลาดโลกตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นบริษัท Tesla ของ Elon Musk
ปี 2016 บริษัท Tesla อเมริกา และ Panasonic ได้เปิดโรงงาน GigaFactory1 ในเนวาดา ซึ่งมีกำลังการผลิตมากที่สุดในโลก โดยผลิตเซลแบตเตอรี่สำหรับ รถที่ใช้ไฟฟ้า (EV) ของเทสล่า
ในรถ Tesla รุ่น S ใช้แบตเตอรี่รุ่น 18650 แบบ AA นี้แหละ จำนวนมากถึง 7,104 เซล มาต่อกันง่ายๆแบบเป็นแผง โดยมีแผงละ 444 เซล รวม 16 แผง
- ประเทศที่ผลิตลิเธียมได้มากที่สุด คือ ออสเตรเลีย ชิลี อาร์เจนติน่า จีน
- ประเทศไหนที่มีมีลิเธียมมากที่สุด คือ โบลีเวีย อาร์เจนติน่า และ ชิลี
แต่เรื่องที่น่าสนใจคือ 10 เดือนที่ผ่านมา ราคาลิเธียม สูงขึ้นถึง 3 เท่าเป็น 20,000 เหรียญต่อตัน เมื่อเราลดการใช้เชื้อเพลิงน้ำมันลง เราก็ต้องไปใช้ ธาตุอื่นในโลกมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ และด้วยความต้องการที่มากขึ้น ราคาก็ย่อมขึ้นตาม ถึงแม้ ลิเธียม จะเป็นพลังงานทางเลือกที่สะอาด แต่ก็มีจำกัด เช่นเดียวกับทุกๆธาตุในโลกนี้
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman