ธปท. มองเงินบาทอ่อนค่า 11% ตามการปรับนโยบายการเงินโลก

วันที่ 22 ธันวาคม 2564 นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ความผันผวนของค่าเงินบาทเป็นไปตามปกติของโลก เนื่องจากตลาดการเงินทั่วโลกมีการปรับนโยบาย

จึงมีความผันผวนสูงต่อสินทรัพย์ ค่าเงิน และตลาดพันธบัตร ที่จะเห็นการแกว่งตัว
อย่างไรก็ดี ในส่วนของค่าเงินบาทยังไม่ได้มีปัญหา โดยจะเห็นว่านับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอ่อนค่าราว 11% ซึ่งการอ่อนค่ามีสาเหตุมาจากผลมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด
ขณะที่การปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักทั่วโลก เช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หรือธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะมีผลต่อไทยมากน้อยขนาดไหนนั้น จะเห็นว่าในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ในกลุ่มที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง และแนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่า จะมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของประเทศหลักค่อนข้างมาก
สำหรับประเทศไทย และเกาหลีจะอยู่ในกลุ่มเดียวกัน คือ อัตราเงินเฟ้อไม่ได้มีปัญหา รวมถึงวินัยการเงินและการคลังค่อนข้างเข้มแข็ง ทำให้มีความน่าเชื่อถือต่อกรอบเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของประเทศหลักมีไม่มาก เนื่องจากไทยมีปัจจัยพื้นฐานค่อนข้างดี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินจะมีเหตุผล และมีกันชนรองรับแรงกระแทกจากต่างประเทศได้ค่อนข้างดี
"ตัวเลขเงินบาทไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากต้นปี โดยอ่อนค่า 11% อย่างไรก็ดีในมุมผู้ประกอบการส่งออกค่าเงินบาทอ่อนค่าก็จะมีมาร์จิ้นที่ดีขึ้น แต่อีกมุมหากการอ่อนค่าเรื่อยๆ ก็เป็นต้นทุนที่สูงขึ้นสำหรับผู้นำเข้า ซึ่งยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม"
สำหรับอัตราเงินเฟ้อที่เร่งขึ้นจะมีผลต่อนโยบายการเงินหรือไม่นั้น นายปิติ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว โดยพิจารณาว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น เป็นการปรับขึ้นต่อเนื่อง หรือการปรับขึ้นครั้งเดียว ซึ่งตอนนี้กนง.มองว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มขึ้นชั่วคราว และปรับขึ้น 1-2 ครั้ง โดยมาจากปัจจัยเฉพาะจากการขาดแคลนชิ้นส่วน และราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้น
ทั้งนี้ หากดูในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ และไม่หลุดกรอบคาดการณ์ แต่หากกรณ๊ที่เงินเฟ้อมีการปรับเปลี่ยนไปสู่เงินเฟ้อสูง และสูงต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม เพราะมีผลต่อราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ค่าจ้างที่สูง และคาดเดาได้ยาก อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางในต่างประเทศมองว่าเป็นเงินเฟ้อระยะสั้น แต่ปัจจุบันอยู่นานและกระจายตัว จึงเป็นที่มาของการปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยในหลายธนาคาร
"อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่เป็นการเพิ่มขึ้นชั่วคราว และอยู่ในกรอบเป้าหมาย 2 ปีข้างหน้า ส่วนตัวที่ไดร์ฟเงินเฟ้อมาจากราคาพลังงานเป็นสำคัญ แต่เงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่แรงกดดันยังมีจำกัด โดยเป้าหมายเงินเฟ้อปีนี้อยู่ที่ 1.2% และปีหน้าอยู่ที่ 1.7% ซึ่งคาดว่ายังอยู่ในกรอบเป้าหมาย เพราะวัฏจักรเศรษฐกิจเราแตกต่างจากเศรษฐกิจต่างประเทศ"
Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"