ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 617.75 จุด รับแรงช้อนซื้อ-หุ้นโบอิ้งหนุนตลาด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดาวโจนส์ร่วงลงอย่างหนักติดต่อกัน 2 วันทำการ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากหุ้นโบอิ้งที่พุ่งขึ้นกว่า 7%

หลังจีนอนุมัติการขึ้นบินของเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,639.79 จุด เพิ่มขึ้น 617.75 จุด หรือ +1.82%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,577.10 จุด เพิ่มขึ้น 64.06 จุด หรือ +1.42% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,381.32 จุด เพิ่มขึ้น 127.27 จุด หรือ + 0.83%
คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ออกมาตรการรับมือหลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนในประเทศ ด้วยการยกระดับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐ และวางแผนที่จะขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการให้นักท่องเที่ยวต้องสวมหน้ากากอนามัยขณะเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นบนเครื่องบิน รถไฟ หรือรถประจำทาง จนถึงวันที่ 18 มี.ค. 2565
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐยังมีแผนที่จะกำหนดให้บริษัทประกันสุขภาพมอบชุดตรวจหาเชื้อโควิดที่บ้าน โดยคาดว่านโยบายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ม.ค.ปีหน้า
ดัชนีหุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้น 7.5% ทำสถิติเพิ่มขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 2563 โดยหุ้นเดลตา แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 9.28% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 7% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 6.61% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 6.56%
ดัชนีหุ้นกลุ่มโรงแรมพุ่งขึ้น 3.8% โดยหุ้นไฮแอท โฮเทลส์ คอร์ปอเรชั่น ทะยานขึ้น 7.03% หุ้นแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล พุ่งขึ้น 6.05% หุ้นฮิลตัน เวิลด์ไวด์ โฮลดิ้ง พุ่งขึ้น 7.41% หุ้นเอ็มจีเอ็ม รีสอร์ท พุ่งขึ้น 7.65%
หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 7.54% หลังจากทางการจีนได้อนุมัติการขึ้นบินของเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX ขณะเดียวกันโบอิ้งคาดการณ์ว่า ภายในปี 2583 จีนจะซื้อเครื่องบินใหม่จำนวน 8,700 ลำ คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1.47 ล้านล้านดอลลาร์ โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 12% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 8,600 ลำ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำของจีนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง
หุ้นกลุ่มธนาคารและบริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นวีซ่า พุ่งขึ้น 4.26% หุ้นมาสเตอร์การ์ด พุ่งขึ้น 4.54% หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ทะยานขึ้น 4.58% หุ้นเจพีมอร์แกน ดีดตัวขึ้น 2.12% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.94% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.89%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 28,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย
นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะพุ่งขึ้น 581,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 531,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด่านอื่น ๆ ที่มีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมาร์กิต, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนต.ค. และดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"